'สมชัย' สมัครสมาชิก 'ประชาธิปัตย์' อดีต ส.ส. เพื่อไทย ตบเท้าเข้า 'พลังประชารัฐ'

'สมชัย' ระบุเหตุเลือกสมัคร 'ประชาธิปัตย์' เพราะอุดมการณ์ไม่ต่างกัน หวังเข้ามาผลักดันแก้รัฐธรรมนูญ อดีต ส.ส. 'เพื่อไทย' หลายจังหวัด-'ลูกชายบุญทรง' เข้าร่วม 'พลังประชารัฐ' 'ไทยรักษาชาติ' ยืนยันไม่หารือ คสช.

นายอำนวย คลังผา อดีต ส.ส. จังหวัดลพบุรี พรรคเพื่อไทย สมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2561 ที่มาภาพ:  สำนักข่าวไทย

25 พ.ย. 2561 เวลาประมาณ 14.00 น. นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์แบบตลอดชีพ และจ่ายเงินค่าบำรุงสมาชิกพรรค 2,000 บาท โดยสวมเสื้อผ้าไหมสีแดงเลือดหมูตัวเดียวกับวันที่ถูกปลดออกจาก กกต. ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าเป็นเสื้อที่เป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต โดยมี นายสรรเสริญ สะมะลาภา รองหัวหน้าพรรค นายอภิชาติ ศักดิเศรษฐ์ กรรมการบริหารพรรค และนายบุญยอด สุขถิ่นไทย อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ให้การต้อนรับ พร้อมกับสวมเสื้อแจ็กเก็ตสีฟ้าที่มีสัญลักษณ์พรรคให้กับนายสมชัยว่าเข้ามาร่วมงานการเมืองกับพรรคประชาธิปัตย์แล้ว

นายสรรเสริญ สะมะลาภา รองหัวหน้าพรรค ภาค กทม. กล่าวว่า ทราบว่า นายสมชัย ได้รับการทาบทามจากหลายพรรค แต่ตัดสินใจที่จะสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เพราะมีความมั่นใจในตัวพรรค และอุดมการณ์ของพรรค ซึ่งพรรคจะพยายามวางตำแหน่งหน้าที่ให้นายสมชัยที่จะอยู่ในพรรคประชาธิปัตย์ ให้สมกับความรู้ความสามารถเพื่อจะทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ส่วนรวมและประชาชนได้อย่างสูงสุด

ขณะที่ นายสมชัย กล่าวหลังสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ว่าเหตุที่เลือกเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเป็นพรรคที่ทำหน้าที่เพื่อประชาชนได้ดีที่สุด และมีอุดมการณ์ตรงกับแนวคิดของตน พร้อมเชิญชวนให้ประชาชนสมัครเป็นสมาชิกพรรค ไม่ว่าจะพรรคการเมืองใดก็ตามเพื่อมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงประเทศไปในทางที่ดีขึ้น ผ่านการเสนอนโยบายกับพรรคการเมือง ซึ่งยืนยันว่าที่มาสมัครพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้มุ่งหวังอะไร แต่เป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญในการสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ไม่ได้ทำให้ตนมีสิทธิเหนือคนอื่น ส่วนจะดำเนินกิจกรรมอะไรในพรรคนี้ เป็นเรื่องที่ทางผู้บริหารพรรคจะเป็นผู้พิจารณาว่าจะใช้ตนทำอะไร โดยส่วนตัวสนใจที่จะผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นกติกาสูงสุดของบ้านเมือง เพราะยังมีหลายประเด็นที่ไม่สามารถพัฒนาประชาธิปไตยได้อย่างยั่งยืน แต่เป็นกฎหมายที่เขียนขึ้นมาชั่วครั้งชั่วคราว ตอบปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น โดยคนร่างออกแบบรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูกเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่จะเป็นปัญหาระยะยาว ดังนั้น จากความรู้ที่มีอยู่ หน้าที่ของพรรคการเมืองต้องช่วยเสนอเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมและกฎหมายประกอบ ให้เป็นกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม โดยจะเสนอเรื่องนี้เป็นเรื่องหลักที่สุดต่อผู้บริหารพรรคต่อไป

นายสมชัย กล่าวต่อว่า ยังไม่คิดเรื่องการจะลงรับสมัครเลือกตั้งหรือไม่ แต่ถ้าถามความพร้อม โดยส่วนตัวแล้วเกิดที่สมุทรสาคร ถ้ามีที่ว่างและพรรคเห็นว่าตนเหมาะสมตนก็พร้อม ตนเรียนหนังสือ และทำงานเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ใน กทม.ถึง 30 ปี ดังนั้นพื้นที่ กทม.ก็เป็นพื้นที่ที่ให้ความสนใจ แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับพรรคจะพิจารณาว่าเหมาะสมในส่วนไหน หรือพรรคอาจจะเห็นว่าไม่เหมาะกับการสมัครรับเลือกตั้งให้ช่วยทำงานด้านอื่นๆ ก็พร้อม หรือเห็นว่าเก็บไว้ให้พูดกับประชาชนและสื่อมวลชนดีกว่าก็เก็บไว้ได้ หรือพรรคบอกว่านานๆ ค่อยฟังความเห็นที ตนก็ทำงานอาชีพของตนเองไปตามปกติ อย่ามองว่าตนจะเรียกร้องใดๆ ตนไม่มีข้อเรียกร้องใดๆกับพรรคทั้งสิ้น เพราะการทำประโยชน์ให้บ้านเมืองไม่ได้หมายถึงการลงเลือกตั้งเพียงอย่างเดียว แค่ความคิดที่เสนอก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคมก็ถือว่าได้ทำเพื่อประเทศแล้ว

นายสมชัย ยังคงยืนยันว่าแม้จะสมัครสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์แล้ว แต่บทบาทในการเรื่องการวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นต่างๆ ยังคงเหมือนเดิม พร้อมวิจารณ์ในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ไม่เว้นแม้แต่กรณีของพรรค หากมีอะไรที่ไม่เหมาะสมก็จะให้ความเห็นอย่างตรงไปตรงมา รวมถึงผู้มีอำนาจในบ้านเมืองด้วย เพราะตนวิจารณ์มาทุกยุคทุกสมัยจะไม่เปลี่ยนไปจากเดิม เพียงแต่สังคมอาจมีความหวาดระแวงในการให้ความเห็นของตนมากขึ้น เพราะก่อนหน้านี้ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมือง แต่ตอนนี้เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์แล้ว

“ขณะนี้ยังไม่ถือว่าผมเข้าสู่เส้นทางการเมือง เป็นเพียงการสมัครสมาชิกเท่านั้นเพราะเห็นว่าเป็นเวลาที่เหมาะสม เนื่องจากอายุมากแล้ว พ้นจากตำแหน่ง กกต.มานานพอสมควรแล้ว และไม่มีกฎหมายห้ามว่าเป็นสมาชิกพรรคไม่ได้ และเชื่อว่าเมื่อเป็นสมาชิกพรรคการเมืองแล้วจะทำให้การเสนอความเห็นผ่านพรรคมีน้ำหนักมากขึ้น ให้พรรคดำเนินนโยบายที่ประโยชน์กับประชาชน” นายสมชัย กล่าว

อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยหลายจังหวัด-ลูกชายบุญทรง เข้าร่วม 'พลังประชารัฐ' 

เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2561 ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงช่วงบ่ายเป็นไปด้วยความคึกคัก เนื่องจากมี อดีต ส.ส.และนักการเมืองท้องถิ่นจากหลายจังหวัดเดินทางมาสมัครเป็นสมาชิพรรค โดยในเวลา 12.00 น.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำพรรคพลังประชารัฐ นำอดีต ส.ส.จังหวัดกำแพงเพชร จากพรรคเพื่อไทย 5 คน คือ นายไผ่ ลิกค์ หรือ ไผ่ วันพ้อยท์, พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์, นายปริญญา ฤกษ์หร่าย ,นายอนันต์ ผลอำนวย และนายสุรสิทธิ์ วงศ์วิทยานันท์ เข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรค พปชร. เช่นเดียวกับ นายเดชณัฐวิทย์ เตริยาภิรมย์ บุตรชายของ นายบุญทรง เตริยาภิรมณ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งลาออกจากพรรคเพื่อไทย ก็เดินทางมาสมัครเป็นสมาชิพรรค พปชร. ด้วย โดยมี นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค และคุณสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขธิการพรรค ให้การต้อนรับ

ขณะที่นายวราเทพ รัตนากร อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สมัยรัฐบาล น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ ว่าจะมาสมัครสมาชิกพรรค พปชร.ไม่ได้เดินทางมา เนื่องจากขาดคุณสมบัติ เคยถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาให้จำคุก 2 ปี ในคดีหวยบนดิน เมื่อปี 2552 ซึ่งจะต้องพ้นโทษ 10 ปี จึงจะสามารถสมัครได้ แต่ขณะนี้ระยะเพิ่งพ้นมาเพียง 9 ปี 

นายไผ่ กล่าวว่าเป็นการตัดสินใจที่ยาก แต่เมื่อ อดีต ส.ส.ในพื้นที่ ลงความเห็นในทิศทางเดียวกัน เลยตัดสินใจเข้าร่วมงานกับพรรค พปชร. ซึ่งปัจจัยสำคัญคือต้องการเห็นประเทศก้าวข้ามความขัดแย้ง และที่ผ่านมาได้พูดคุยและแจ้งความประสงค์ผู้ใหญ่พรรคเพื่อไทยแล้ว เป็นการจากกันด้วยดีไม่มีปัญหา ซึ่งการเลือตั้งครั้งนี้ จะทำอย่างเต็มที่ 

ด้าน พ.ต.ท.ไวพจน์ ยอมรับว่าตัดสินใจยาก เพราะเคยร่วมงานกับพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทยมานาน ก่อนตัดสินใจได้มีการปรึกษา นายวราเทพ รัตนากรณ์ แล้ว และขอขอบคุณพรรคเพื่อไทยที่ดูแลตนและครอบครัวเสมอมา ยืนยันว่าอุดมการณ์ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยไม่เคยเปลี่ยนแปลง และเชื่อว่าทุกคนจะเข้าใจเพราะการย้ายมาสมัครที่พรรคนี้เนื่องจากจะสามารถแก้ไขปัญหาความขัดแย้งให้ประเทศเดินหน้าได้ พร้อมยืนยันว่าไม่ได้โดนบีบบังคับหรือมีข้อต่อรองเงื่อนไขเกี่ยวกับคดีความ 

ขณะที่นายเดชณัฐวิทย์ บุตรชายของนายบุญทรง กล่าวถึงเหตุผลที่ตัดสินใจลาออกจากพรรคเพื่อไทย เพราะช่วงที่บิดา ถูกดำเนินคดีภายในเรือจำมีอาการป่วย และเมื่อถูกส่งตัวไปรับการรักษาได้ถูกกล่าวหาและตั้งสังเกตว่าอาจจะมีการต่อรองหรือใช้เส้นสายในการช่วยเหลือ ดังนั้นเพื่อให้เกิดความสบายใจกับพรรคเพื่อไทยและครอบครัว จึงตัดสินใจลาออก ซึ่งทั้งหมดเป็นการตัดสินใจของตนเอง และได้บอกกล่าวกับบิดาแล้ว โดยทันทีที่ลาออกจากพรรคเพื่อไทยก็ยังไม่ทราบอนาคตที่ชัดเจนจนได้ปรึกษากับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เกี่ยวกับอุดมการณ์ จึงตัดสินใจมาร่วมกับกับพรรคนี้ เบื้องต้นจะลงพื้นที่ ส.ส.เขต 7 เช่นเดียวกับบิดา

ทั้งนี้ หัวหน้าพรรค พปชร. ยืนยันว่าบุคคลที่มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคทุกคน มาด้วยความสมัครใจหลังได้พูดคุยกับแกนนำของพรรคเกี่ยวกับนโยบาย และเห็นว่าเป็นพรรคทางเลือกที่ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ และไม่ทำการเมืองบนความขัดแย้ง ซึ่งมีอุดมการณ์ที่ตรงกัน จึงมาสมัครโดยไม่มีการต่อรอง เรื่องผลประโยชน์หรือช่วยเหลือในทางคดีความให้กับใคร 

นอกจากนี้นายวันชัย และนางรัตนา จงสุทธนามณี อดีต ส.ส.เชียงราย และ อดีตนายก อบจ.เชียงราย พร้อมทีมผู้บริหารท้องถิ่น เข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรค พปชร.ด้วย

ด้านนายอำนวย คลังผา อดีต ส.ส. จังหวัดลพบุรี พรรคเพื่อไทย และอดีตประธานวิปรัฐบาล สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร  เดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โดยมีนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคให้การต้อนรับ 

นายอำนวย กล่าวว่าได้รับการทาบทามจากนายสนธิรัตน์ และใช้เวลาตัดสินใจเพียงวันเดียว ซึ่งเมื่อช่วงเช้าได้ไปลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยแล้ว และมาสมัครเข้าพรรค พปชร.ในช่วงบ่าย โดยยังไม่ได้หารือกับแกนนำพรรคเพื่อไทย เพราะเป็นการตัดสินใจส่วนตัว เชื่อว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะเป็น ทางเลือกที่ดีสำหรับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น  มั่นใจในนโยบายของพรรคจะตรงกับความต้องการของประชาชน และจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ ยืนยันว่าการลาออกจากพรรคเพื่อไทยไม่มีความขัดแย้งและไม่มีปัญหากับใคร ส่วนจะมีอดีต ส.ส. ลพบุรีพรรคเพื่อไทย เดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค พปชร.อีกหรือไม่นั้น ไม่ทราบเพราะไม่ได้ปรึกษาใครอยู่ที่การตัดสินใจของแต่ละบุคคล เชื่อว่าการที่ตนเองลาออกจากพรรคเพื่อไทยจะไม่ทำให้เกิดความระส่ำระส่ายภายในพรรรค เพราะเป็นเพียงแค่สมาชิกคนหนึ่งเท่านั้น

'ไทยรักษาชาติ' ยืนยันไม่หารือ คสช.

ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ กล่าวภายหลังการประชุมเปิดสาขาพรรคที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ว่า ได้รับการต้อนรับอย่างดีเยี่ยม เชื่อว่าพื้นที่ภาคใต้ไม่มีอะไรง่าย แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับประชาชน พรรคไทยจึงขอโอกาสและขอเป็นตัวเลือกทำนโยบายที่จะเป็นประโยชน์ เพราะวันนี้ประเทศไม่สามารถรอได้ ต้องการโอกาสที่จะได้เลือกตั้ง เพื่อนำนโยบายที่ได้หาเสียงไปสู่การปฏิบัติส่วนการนำเสนอนโยบายแม้จะยังไม่สามารถทำได้ แต่เมื่อมีโอกาสพรรคจะนำเทคโนโลยีมาเป็นกลไกนำไปสู่การปฏิบัติ ภาคใต้จำเป็นต้องดูเป็นรายนโยบาย ทางพรรคจะได้ปรึกษาหารือผู้มีประสบการณ์เพื่อหาข้อสรุปนำไปแก้ไขต่อไป

“คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่ควรเข้ามาก้าวก่ายเรื่องการเลือกตั้ง เพราะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ในฐานะองค์กรอิสระ จะเป็นหน่วยงานที่กำหนดเรื่องการเลือกตั้ง ขณะเดียวกันจะเห็นว่ารัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาเป็นแกนนำจัดตั้งพรรคการเมืองซึ่งชัดเจนว่ามีเจตนาต้องการสืบทอดอำนาจ ดังนั้น จึงต้องย้ำอีกครั้งว่าวันที่ 7 ธ.ค. นี้จะไม่ไปร่วมประชุมกับคสช.และกกต.” หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ กล่าว

ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่าพรรคพยายามออกแบบการต่อสู้เพื่อให้ประชาชนมีทางเลือก โดยเฉพาะผู้รักประชาธิปไตย เพื่อนำประชาชนหลุดจากกับดักที่วางไว้ โดยเฉพาะการสืบทอดอำนาจเผด็จการ จึงขอพื้นที่ ขอโอกาสจากพี่น้องชาวใต้ทุกคน

ที่มาเรียบเรียงจาก: ไทยรัฐออนไลน์ สำนักข่าวไทย [1] [2] [3]

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท