Skip to main content
sharethis

'พลังประชารัฐ' เชื่อปัญหาแบ่งเขตไม่เป็นชนวนให้เลื่อนเลือกตั้ง ยอมรับ 'พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา' เป็นหนึ่งในบัญชีรายชื่อนายกของพรรค ส่วนรายชื่ออื่นต้องหารือกันอีกครั้ง 'รวมพลังประชาชาติไทย' เชื่อไม่เลื่อนเลือกตั้ง 'ชาติไทยพัฒนา' ไม่ติดใจเรื่องแบ่งเขตเลือกตั้ง 'ประชาธิปัตย์' หวัง คสช.ปลดล็อก 7 ธ.ค.

2 ธ.ค. 2561 นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงการแบ่งเขตการเลือกตั้งของกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่ามีผลกระทบเชิงบวกเชิงลบกับทุกพรรค ส่วนตัวเน้นนโยบายเป็นสำคัญ ไม่ได้ดูเฉพาะการแบ่งเขต เชื่อว่า กกต.ดำเนินการด้วยความเป็นธรรม ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่บางพื้นที่ได้เปรียบเสียเปรียบเช่นเดียวกับทุกพรรค เพราะเพิ่งเข้ามาในวงการการเมือง 

“ยอมรับว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่ถูกพรรคการเมืองอื่นจับตามองว่าการแบ่งเขตของกกต.เอื้อประโยชน์ให้พรรคพลังประชารัฐ ต้องมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อยู่แล้ว แต่ต้องย้ำว่าพรรคยึดนโยบายเรื่องการเปลี่ยนแปลงประเทศเป็นสำคัญ เชื่อว่าไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้พรรคแน่นอน และมั่นใจว่าการแบ่งเขตในลักษณะนี้จะไม่เป็นชนวนให้ต้องเลื่อนการเลือกตั้ง เพราะขณะนี้ทุกอย่างต้องเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง” นายสุวิทย์ กล่าว 

ส่วนข้อกล่าวหาว่าการแบ่งเขตของ กกต. สืบเนื่องมาจากพลังดูดของพรรคพลังประชารัฐ นายสุวิทย์ กล่าวว่าไม่เป็นความจริง ไม่ควรเรียกว่าเป็นการดูด ส.ส. เพราะเป็นเรื่องธรรมดาของพรรคการเมืองที่ต้องหาส่วนผสมระหว่างคนรุ่นใหม่และรุ่นเก่าให้ลงตัว สำหรับบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ นายสุวิทย์ กล่าวว่าหนึ่งในนั้นต้องเป็นชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะส่วนตัวสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ อยู่แล้ว แต่ต้องหารืออีกครั้งว่ารายชื่ออื่นจะมีใครอีกบ้าง

'รวมพลังประชาชาติไทย' เชื่อไม่เลื่อนเลือกตั้ง

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) กล่าวถึงกรณีที่วานนี้ (1 ธ.ค.) ม.ร.ว.จัตุมงคล โสภณกุล หัวหน้าพรรคพูดกับสมาชิกพรรคในภาคอีสานว่า พรรคไม่มีปัญหาเรื่องการแบ่งเขตการเลือกตั้ง โดยหน้าที่ของพรรคคือการส่งคนลงสมัครทั้ง 350 เขต หากประชาชนเชื่อมั่นในระบบหรือนโยบายของพรรค ประชาชนจะลงคะแนนให้ แต่สิ่งสำคัญคือต้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำกับดูแลให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรม ให้การเข้าสู่อำนาจเป็นไปโดยถูกต้อง

“การที่พรรคจะสนับสนุนใครเป็นนายกรัฐมนตรี ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย ตามรัฐธรรมนูญ หากใครสามารถรวบรวมเสียงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ได้เกินครึ่งหรือ 250 คนก็สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ซึ่งจะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือใครก็ได้ ไม่มีปัญหา ส่วนจะร่วมรัฐบาลด้วยหรือไม่ เงื่อนไขสำคัญคือนโยบายที่ต้องแก้ไขปัญหาให้ประชาชน” นายสุเทพ กล่าว

นายสุเทพ กล่าวว่ากรณีหลายพรรควิพากษ์วิจารณ์เรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้ง ทางพรรคพลังประชาชาติไทยไม่ขอวิจารณ์ เนื่องจากไม่ต้องการกระทบกระทั่งกับพรรคใดซึ่งเป็นไปตามแนวทางการทำงานของพรรค ถือว่าการที่แต่ละพรรคแสดงความคิดเห็น เป็นความรับผิดชอบของแต่ละพรรค ซึ่งประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน

“ประชาชนทั้งประเทศรอคอยการเลือกตั้งและตื่นตัวอยากจะเห็นการเลือกตั้งโดยเร็ว พร้อมตั้งความหวังว่าหลังการเลือกตั้งปัญหาต่าง ๆ จะได้รับการแก้ไข ผมเชื่อว่าการเลือกตั้งจะไม่เลื่อนออกไป เพราะคสช.และทุกฝ่ายคิดเหมือนกับประชาชนที่ต้องการให้เลือกตั้งโดยเร็ว ยกเว้นว่าจะมีเหตุสุดวิสัยซึ่งเป็นอีกเรื่อง ส่วนการที่พรรคน้องใหม่หลายพรรคยังไม่พร้อม อยากให้มองว่าพรรครปช.ก็เป็นพรรคน้องใหม่ ต้องเคารพเสียงของประชาชนที่ต้องการให้เลือกตั้งโดยเร็ว” นายสุเทพ กล่าว

ส่วนกรณีพรรคพลังประชาชาติไทยจะเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ในวันที่  15 ธ.ค. นี้ นายสุเทพ กล่าวว่ายังยืนยันจะไม่รับตำแหน่งใดๆ ในพรรคหรือในรัฐบาล รวมถึงการลงสมัครลงเลือกตั้ง

'ชาติไทยพัฒนา' ไม่ติดใจเรื่องแบ่งเขตเลือกตั้ง

น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงการแบ่งเขตเลือกตั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าไม่มีปัญหาและไม่ขอชี้นำแต่พรรคพร้อมสู้ศึกส่วนพรรคอื่นจะมีความเห็นอย่างไรถือเป็นสิทธิ์ของแต่ละพรรคที่จะวิพากษ์วิจารณ์ ยอมรับว่าพรรคชาติไทยพัฒนาเป็นพรรคขนาดเล็กจึงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก 

“ไม่สามารถตอบได้ว่าเรื่องการแบ่งเขตจะเป็นปัญหานำไปสู่การเลื่อนเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ. 2562 หรือไม่ แต่อยากจะขอว่าอย่าเลื่อนเลือกตั้ง เพราะอาจทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศและ กกต.ไม่ดี หากมองว่าการแบ่งเขตมีความผิดปกติก็ไม่มีอะไรรับรองว่าหากเลื่อนแล้วจะไม่ผิดปกติอีก เชื่อมั่นใน กกต.ว่าจะไม่ทำให้เกิดความหม่นหมอง” หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนากล่าว

น.ส.กัญจนา กล่าวว่าวันที่ 7 ธันวาคมที่มีกำหนดการประชุมร่วมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กกต.และพรรคการเมือง ทางพรรคชาติไทยพัฒนาจะส่งนายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคร่วมหารือ โดยไม่มีข้อเรียกร้องอะไรเป็นพิเศษ นอกจากขออย่าเลื่อนเลือกตั้ง

ส่วนท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.เกี่ยวกับเรื่องของการแบ่งเขตเลือกตั้ง น.ส.กัญจนา กล่าวว่าไม่แปลกใจเพราะมองว่าเป็นเรื่องปกติเหมือนกับ 4 ปีที่ผ่านมา

'ประชาธิปัตย์' หวัง คสช.ปลดล็อก 7 ธ.ค.

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ที่โรงแรมเซ็นธารา อำเภอแม่สอด จังหวัดตากกรณีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เชิญพรรคการเมืองหารือร่วม กกต.วันที่ 7 ธ.ค. นี้ ว่าได้รับมอบหมายจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคให้เป็นผู้นำคณะของพรรคเข้าไปร่วมประชุม  ซึ่งนอกจากตั้งใจจะไปรับฟังการชี้แจงและให้ความเห็นในประเด็นที่ คสช.จะหารือแล้ว หวังว่าจะได้รับความชัดเจนเรื่องการเลือกตั้งและการปลดล็อกให้พรรคการเมืองสามารถทำกิจกรรมด้วย รวมทั้งการกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจนเรื่องขั้นตอนต่างๆ ของการเลือกตั้งและวันเลือกตั้ง

“ผมเห็นว่าสมควรแก่เวลาที่จะต้องประกาศออกมาให้ชัดเจนได้แล้ว และคิดว่าหากจะเปลี่ยนแปลงวันเลือกตั้งนอกเหนือจากที่คสช.ได้ให้คำมั่นสัญญาไว้ทั้งในและต่างประเทศอีก ก็คงเป็นการยากที่จะหาเหตุผลมาอธิบาย ผมมั่นใจว่าสังคมต้องการเห็นการเลือกตั้งที่มีความยุติธรรม แม้กติกาทั้งรัฐธรรมนูญและคำสั่งต่างๆ ของ คสช. ตลอดจนพฤติกรรมของการใช้อำนาจรัฐในช่วงที่ผ่านมา จะทำให้เกิดคำถามเรื่องความไม่ปกติ เที่ยงธรรม แต่ช่วงเวลาที่เหลืออยู่เชื่อว่าสังคมยังต้องการเห็นความยุติธรรมเกิดขึ้น ซึ่งนั่นย่อมหมายความว่าองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและถืออำนาจรัฐอยู่ไม่ว่าจะเป็น คสช. รัฐบาล พรรคการเมืองที่ยึดโยงกับผู้มีอำนาจรัฐ กกต.จะต้องไม่ใช้อำนาจใดๆ ที่เหนือกว่าเข้าไปแทรกแซง สั่งการ ให้เกิดการบิดเบือนการใช้อำนาจ เพื่อให้องค์กรต่างๆ ทำหน้าที่ได้อย่างเป็นกลาง” นายจุรินทร์ กล่าว

นายจุรินทร์ กล่าวว่ากลไกต่างๆ ต้องไม่ยินยอมให้ใครมาใช้อำนาจสั่งการเพื่อเกิดการบิดเบือนการใช้อำนาจของตน เพราะสุดท้ายองค์กรเหล่านั้นจะต้องรับผิดชอบต่อการใช้อำนาจที่ไม่ถูกต้องของตนเอง ซึ่งเคยมีตัวอย่างให้เห็นมาแล้ว และหากการเลือกตั้งเป็นไปอย่างยุติธรรมได้จริง จะส่งผลให้เกิดการยอมรับได้ในผลของการเลือกตั้งที่จะตามมาและเป็นการป้องกันความขัดแย้งแตกแยกหลังการเลือกตั้งได้อีกด้วย ซึ่งตนตั้งใจว่าถ้ามีโอกาสก็จะนำเสนอในประเด็นเหล่านี้ด้วยในการประชุมดังกล่าว


ที่มาข่าวเรียบเรียงจากสำนักข่าวไทย [1] [2] [3] [4]


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net