Skip to main content
sharethis

อภิสิทธิ์ ปัดข่าวลื่อเรื่องการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีหลังการเลือกตั้ง แลกหนุนประยุทธ์เป็นนายกฯ ชี้ประชาธิปัตย์อยู่คนละขั้วกับพลังประชารัฐ ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาเสนอเก้าอี้ ทุกอย่างต้องรอดูผลการเลือกตั้ง และจากนั้นต้องพิจารณาแนวทางของพลังประชารัฐ ถ้ายังบริหารเศรษฐกิจแบบเดิมก็ร่วมงานกันไม่ได้

แฟ้มภาพ

4 ธ.ค. 2561 ไทยโพสต์ออนไลน์ และข่าวสดออนไลน์ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เผยว่า ภายหลัง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ชนะ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคที่ผ่านมา ส่งผลให้อภิสิทธิ์ ตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ส่วนใหญ่เป็นฝ่ายของตัวเองเพื่อลดอำนาจของกลุ่ม นพ.วรงค์ ที่มีถาวร เสนเนียม และอดีต ส.ส.กลุ่ม กปปส.เชื่อมโยงสนับสนุน เพราะเกรงจะเกิดงูเห่า และนำ ส.ส.ไปสนับสนุน คสช. เพื่อให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ต่อ เมื่อกลุ่ม นพ.วรงค์ไม่สามารถยึดพรรคได้สำเร็จทำให้เส้นทาง พล.อ.ประยุทธ์ อาจไม่ราบรื่น และเกรงว่าหลังเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์จะได้ ส.ส. มากกกว่าพรรคพลังประชารัฐ และอภิสิทธิ์ จะไม่ยอมอีกทั้งยังจะขึ้นเป็นคู่เทียบในตำแหน่งนายกฯ อีกครั้ง

“นายอภิสิทธ์ เจ็บช้ำจาก คสช. ที่ส่งคนมายึดพรรค ดูดอดีต ส.ส. หลายคน รวมทั้งพยายาม ให้นายอภิสิทธิ์พ้นจากตำแหน่ง จึงเป็นอุปสรรค สำคัญการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกฯ หลังเลือกตั้งของพล.อ.ประยุทธ์ ล่าสุด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รองหัวหน้า คสช. พยายามต่อสายกับแกนนำประชาธิปัตย์ที่สนับสนุนอภิสิทธิ์ หลายคน โดยเฉพาะนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เพื่อขอเจรจาประนีประนอมด้วยกระทรวงเกรดเอ และตำแหน่งสำคัญต่างๆ ในรัฐบาลหน้า เพื่อให้สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ แต่นายเฉลิมชัยยังไม่รับสาย” แหล่งข่าว คสช. กล่าว

อภิสิทธิ์ ร้องประยุทธ์ ทำตัวเองให้เป็นตัวอย่างที่ดีหากจะลงเล่นการเมือง

วันเดียวกัน อภิสิทธิ์ ได้เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ คำนึงถึงหลักธรรมาภิบาล และปฏิบัติตนเป็นตัวอย่างหากจะตัดสินใจลงเล่นการเมือง หลังมีความชัดเจนว่าพรรคพลังประชารัฐจะเสนอชื่ออยู่ในอันดับหนึ่งของบัญชีรายชื่อนายกฯ ซึ่งหาก พล.อ.ประยุทธ์ตอบรับเท่ากับว่ามีส่วนได้เสีย ซึ่งจะมีผลต่อความเชื่อมั่นในผลการเลือกตั้งครั้งนี้

อภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ประชาชนกำลังจับตาถึงท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ และไม่ชอบเห็นการเอารัดเอาเปรียบที่เกิดขึ้น ซึ่งจะมีผลต่อการตัดสินใจในการเลือกตั้ง ยืนยันว่าการเรียกร้องครั้งนี้ไม่ใช่การเล่นแง่ทางการเมือง แต่ต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์บอกความจริงกับประชาชน ท่ามกลางการใช้อำนาจรัฐและการออกคำสั่งของหัวหน้า คสช. ที่มีผลต่อความเป็นอิสระของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ถึง 2 ครั้ง

อภิสิทธิ์ ยังระบุว่า พรรคพลังประชารัฐคงไม่ยอมรับว่าเป็นพรรคของทหาร ซึ่งส่วนตัวมองว่าพรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคการเมืองที่อิงกับผู้มีอำนาจปัจจุบันอย่างชัดเจน ส่วนจะเกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเหมือนพรรคทหารในอดีตหรือไม่นั้น อภิสิทธิ์ ย้ำว่า หากทำอะไรแบบเดิมก็ยากที่จะได้ผลลัพธ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

ปฎิเสธเรื่องการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี ย้อนถามไหนว่าพลังประชารัฐจะได้ 350 ที่นั่ง จะต้องการประชาธิปัตย์ไปทำไม ชี้ตอนนี้ไม่ใช่เวลาต่อรอง และหากพลังประชารัฐยังบริหารเศรษฐกิจแย่ ก็ไม่สามารถร่วมงานกันได้

ส่วนกรณีการต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีเพื่อร่วมรัฐบาลกับ คสช.นั้น อภิสิทธิ์ ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง พร้อมย้อนถามกลับว่า แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ระบุเองไม่ใช่หรือว่า จะได้ ส.ส. 350 คน แล้วจะติดต่อมาทำไม ไม่จำเป็นอะไรต้องคุยกัน ทั้งนี้ในส่วนของประชาธิปัตย์ยืนยันมาตลอดว่า อย่ามาพูดเรื่องตำแหน่ง เพราะจุดประสงค์ของพรรคคือ การนำพาประเทศชาติไปในทิศทางที่ถูกต้อง ดังนั้นข่าวเรื่องการเสนอตำแหน่งมาต่อรอง จึงไม่ใช่ประเด็นและไม่ใช่เวลาด้วย เพราะตามขั้นตอนต้องผ่านกระบวนการเลือกตั้งให้ประชาชนให้คำตอบก่อนว่า สนับสนุนแนวทางของพรรคใด เท่าไหร่ จากนั้นต้องดูว่าตอนหาเสียงแนวทางของพลังประชารัฐ ยังยืนยันแนวทางการทำงานในปัจจุบันหรือไม่ เพราะถ้าบริหารเศรษฐกิจแบบนี้ ก็ยากที่จะทำงานด้วยกันได้ เนื่องจากประชาชนเดือดร้อนมาก และยังย้ำว่าการเมืองมีสามขั้วคือ พลังประชารัฐ เพื่อไทย และประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นสามแนวทางที่แตกต่างกันชัดเจน ต้องให้ประชาชนเป็นผู้พิจารณา

ประกาศไม่เข้าประชุมร่วมแม่น้ำ 5 สาย

ขณะที่ ธนา ชีรวินิจ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวถึงการประชุมร่วมกันของแม่น้ำ 5 สายกับพรรคการเมืองในวันที่ 7 ธ.ค. นี้ว่า จากหนังสือเชิญของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุว่าให้พรรคการเมืองเข้าร่วมประชุมชี้แจง ไม่ได้ให้ตัวแทนพรรคการเมืองหารือเพื่อร่วมจัดทำแผน เพราะมีการทำแผนและขั้นตอนดำเนินการไว้หมดแล้วเพียงเชิญไปร่วมฟัง รวมทั้งเวลามีประชุมแค่ 2 ชม. 13.00-15.00 น. ไม่ใช่การหารือแน่นอน จึงไม่ได้เป็นไปตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 53/2560 ข้อ 8 ที่ระบุให้เชิญหรือไม่เชิญพรรคการเมือง กลุ่มการเมือง เพื่อร่วมจัดทำแผนและขั้นตอนการดำเนินการทางการเมือง

 

เรียบเรียงจาก: ไทยโพสต์ออนไลน์ , ไทยรัฐออนไลน์ , Voice TVเวิร์คพอยด์นิวส์ และข่าวสดออนไลน์

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net