โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ได้เข้าร่วมเทศกาลปีใหม่ม้ง จ.เพชรบูรณ์ ย้ำเตรียมประกาศแนวนโยบาย 'โอบรับความหลากหลาย เคารพความแตกต่าง ศักดิ์ศรีคนต้องเท่าเทียม' ระบุพรรคมีผู้ที่เสนอตัวแข่งขันไพรมารีโหวตเป็นผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตของพรรคและบัญชีรายชื่อที่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์

ที่มาภาพ: สยามรัฐ

10 ธ.ค. 2561 น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ได้เข้าร่วมเทศกาลปีใหม่ม้ง ซึ่งเป็นเทศกาลประจำปีที่ยิ่งใหญ่ ของ อบต.เข็กน้อย อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นชุมชนชาวม้งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ภายในงานเทศกาลมีการออกร้านอาหารพื้นเมืองรวมทั้งสินค้าของที่ระลึก ที่เป็นวัฒนธรรมของชาวม้งเรียงรายตลอดเส้นทาง โดยมีประชาชน ชาวเพชรบูรณ์ รวมทั้งนักท่องเที่ยว จากที่ต่างๆ เดินทางมาร่วมงานมากมาย พร้อมทั้งบรรยากาศภายในงานที่เต็มไปด้วยความคึกคัก สีสัน ความสดใส สวยงาม จากวัฒนธรรมการแต่งกายของชาวม้ง ที่ได้พากันมาร่วมงานเฉลิมฉลองปีใหม่ของพวกเขา

นอกจากนี้ เรายังได้เห็นการละเล่น การแสดง และวัฒนธรรมพื้นเมืองของชาวม้ง ตลอดทั่วบริเวณงาน โดย น.ส.พรรณิการ์ ได้ร่วมการละเล่นพื้นเมือง 'โยนลูกช่วง' กับพี่น้องชาวม้ง ซึ่งเป็นวัฒนธรรมการละเล่นของชาวม้ง ในช่วงหลังฤดูเก็บเกี่ยวเพื่อเป็นการผ่อนคลายและพบปะสังสรรค์กระชับความสัมพันธ์ต่อกันระหว่างหมู่บ้าน และพิธีสำคัญในวันนี้ คือ พิธีหลื่อเจี๊ยะ ซึ่งเป็นพิธีส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ของชาวม้ง ซึ่งจะมีการเดินวนซ้ายมือ 3 รอบ เป็นการทิ้งสิ่งไม่ดีในปีเก่า และเดินวนขวามืออีก 3 รอบ เพื่อเป็นการต้อนรับสิ่งดีๆ ในปีใหม่เข้ามา

หลังจากนั้น น.ส.พรรณิการ์ และทีมงานอนาคตใหม่จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้เดินประชาสัมพันธ์พรรคอนาคตใหม่และรับสมัครสมาชิกพรรคตลอดทั่วบริเวณงาน ซึ่งก็ได้พบว่าประชาชนในบริเวณงานและพี่น้องชาวม้งมีความสนใจในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงอย่างมากทีเดีย

รวมทั้งมีประชาชนบางส่วนได้บอกเล่าให้ น.ส. พรรณิการ์ และทีมงานพรรคอนาคตใหม่ ได้รับฟังถึงปัญหาที่ต้องพบเจอภายในท้องถิ่นของตน เช่น ปัญหาขาดความยอมรับ และการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียมต่อกลุ่มชาติพันธุ์ จากคนพื้นราบ ปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ โดยเฉพาะความเดือดร้อนในการไม่ได้รับสิทธิ์ในที่ดินทำกินทั้ง ต.เข็กน้อย ซึ่งต่างรู้สึกว่าเป็นความเหลื่อมล้ำจากที่พวกตนเป็นชาวม้ง ในขณะที่ตำบลที่อยู่ติดกัน เช่น ต.แค้มป์สน ซึ่งเป็นที่อยู่ของชาวพื้นราบกลับได้รับสิทธิ์ในที่ดินทำกิน ทั้งนี้ก็ต่างได้พากันฝากความหวังว่าขอให้พรรคการเมืองรุ่นใหม่ที่มีแนวคิดใหม่ๆ อย่างพรรคอนาคตใหม่ได้เข้ามาช่วยเหลือแก้ไขปัญหาให้พวกเขาต่อไปด้วย

น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่าพรรคอนาคตใหม่ให้ความสำคัญกับนโยบายด้านศิลปวัฒนธรรม ตามวิสัยทัศน์ที่เราเคยประกาศไว้คือ คนเท่าเทียมกัน ไทยเท่าทันโลก และหนึ่งในแนวนโยบายที่เราเตรียมประกาศในวันที่ 16 ธ.ค. นี้คือ 'โอบรับความหลากหลาย เคารพความแตกต่าง ศักดิ์ศรีคนต้องเท่าเทียม' โดยพรรคอนาคตใหม่มองว่าทุกกลุ่มทุกชาติพันธุ์ต้องมีพื้นที่ในการแสดงออก ซึ่งประเพณีวัฒนธรรมของตน เพราะในดินแดนที่เรียกว่าประเทศไทย ไม่ได้มีเฉพาะกลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่าคนไทยเท่านั้นแต่ยังมีกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆ อีกนับร้อย ดังนั้นจึงไม่ควรให้ความสำคัญเฉพาะประเพณีวัฒนธรรมที่รัฐส่วนกลางกำหนด แต่ต้องเปิดพื้นที่ให้กลุ่มอื่นด้วย นอกจากนี้ประชาชนทุกคนบนแผ่นดินนี้ต้องได้รับการดูแลและได้รับการปฏิบัติจากรัฐอย่างเท่าเทียมให้เข้าถึงการรักษาพยาบาล การศึกษา สาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน หรือแม้แต่โอกาสในการแข่งขันเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของตัวเอง

นอกจากนี้ในการออกแบบพรรคอนาคตใหม่เราเปิดพื้นที่ให้กับผู้คนที่ไม่มีโอกาสทางสังคมไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนพิการ กลุ่มผู้อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวี หรือแม้แต่กลุ่มชาติพันธุ์ ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างพรรค ตั้งแต่เป็นผู้ร่วมออกแบบนโยบาย เป็นกรรมการของสาขาพรรค หรือคณะทำงานของจังหวัด รวมถึงขณะนี้เรามีผู้ที่เสนอตัวแข่งขันไพรมารีโหวต เป็นผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตของพรรค ที่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ รวมถึงแบบบัญชีรายชื่อก็มีผู้สมัคร ส.ส.ที่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ด้วย" น.ส.พรรณิการ์ กล่าว ซึ่งในส่วนของจังหวัดเพชรบูรณ์ซึ่งมี 5 เขต พรรคอนาคตใหม่ มั่นใจว่าจะส่งผู้สมัคร ส.ส. ลงสู้ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ครบอย่างแน่นอน