12 ธันวา วันหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าสากล ไทยขับเคลื่อนลงทุนด้านสุขภาพ

ไทยร่วมรณรงค์ “วันหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าสากล” ขับเคลื่อน “การลงทุนด้านสุขภาพ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” จับมือทุกภาคส่วนร่วมลงทุน หนุนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเข้าสู่ปีที่ 17 ผลสำเร็จชี้ชัด “หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า” เป็นเครื่องมือลงทุนภาครัฐคุ้มค่า ดูแลประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพ ลดความยากจน เพิ่มคุณภาพชีวิต รากฐานประเทศสู่การพัฒนายั่งยืน     

11 ธ.ค.2561 นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า “วันหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าสากล” ตรงกับวันที่ 12 ธันวาคมของทุกปี โดยในปี 2561 นี้ องค์การอนามัยโลกได้รณรงค์ชูประเด็น “รวมพลังเพื่อหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า” หรือ “UNITE FOR UNIVERSAL HEALTH COVERAGE” เพื่อกระตุ้นให้ประเทศต่างๆ รวมพลังขับเคลื่อนระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าในประเทศตนเอง และบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) ภายในปี 2573

ประเทศไทยได้ร่วมรณรงค์วันหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าสากลในปีนี้ จากการที่ไทยได้บรรลุผลสำเร็จสร้างหลักประกันสุขภาพและดำเนินมาในขณะนี้เป็นปีที่ 17 แล้ว การรณรงค์ในประเทศจึงชูประเด็นที่เป็นการขับเคลื่อนต่อเนื่องคือ “การลงทุนด้านสุขภาพ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” เพื่อมุ่งให้ทุกภาคส่วนตระหนักและเห็นความสำคัญของการลงทุนด้านสุขภาพ โดยเฉพาะการเพิ่มทรัพยากร อาทิ งบประมาณ กำลังคน เป็นต้น เพื่อทำให้ประชาชนทุกกลุ่มมีหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เข้าถึงการรักษาและบริการสาธารณสุขอย่างครอบคลุมและทั่วถึง

ขณะเดียวกันยังสร้างความมั่นคงให้กับครอบครัว ลดช่องว่างความไม่เท่าเทียมในสังคม โดยผลสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน สำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า ครัวเรือนที่ประสบภาวะวิกฤตทางการเงินจากการจ่ายค่ารักษาพยาบาลสมาชิกครอบครัว ลดลงจากร้อยละ 4.06 ในปี 2545 เหลือร้อยละ 2.09 ในปี 2560 และครัวเรือนที่ยากจนลงหลังจากการจ่ายค่ารักษาพยาบาล จากร้อยละ 1.33 ในปี 2545 เหลือเพียงร้อยละ 0.29 ในปี 2560 ถือเป็นข้อมูลประจักษ์ชัด ดังนั้นทุกภาคส่วนจึงต้องร่วมมือขับเคลื่อนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของไทยให้แข็งแกร่ง สมกับที่ไทยได้รับการยกย่องให้เป็นต้นแบบการดำเนินระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า

“วันนี้ทั่วโลกยอมรับแล้วว่าการลงทุนด้านสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ และหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ไทยดำเนินอยู่นี้สะท้อนให้เห็นแล้วว่าเป็นเครื่องมือที่นำมาสู่การลงทุนที่คุ้มค่า เพราะหลังจากที่ไทยมีหลักประกันสุขภาพแห่งชาติในปี 2545 ไม่เพียงทำให้เกิดผลบวกในเชิงสุขภาพ ลดอัตราการเจ็บป่วยและเสียชีวิตที่เกิดจากความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม แต่ยังสร้างความมั่นคงและเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับประชากร ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญนำประเทศสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน” รมว.สาธารณสุข กล่าว

กาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศ กล่าวว่า กรมองค์กรระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศทำงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขและ สปสช.มาอย่างต่อเนื่อง ร่วมกับนานาประเทศผลักดันให้การสร้างสุขภาพที่ดีถ้วนหน้าเป็นหนึ่งในเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนบรรลุในปี 2573 และไทยยังเป็นแกนนำผลักดันให้มีการกำหนดวันที่ 12 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าสากล เพื่อให้นานาประเทศตระหนักรับรู้ความสำคัญของหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ผลักดันเพื่อดูแลประชากรในประเทศตนเอง 

และในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติที่กำหนดจัดขึ้นวันที่ 26 ก.ย.2562 จะมีการประชุมระดับสูงในเรื่องหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เพื่อเป็นเวทีผลักดันทางการเมืองเพื่อนำไปสู่การสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าในแต่ละประเทศ โดยประเทศไทยเป็นตัวอย่างประเทศรายได้ปานกลาง แต่สามารถลงทุนการบริการสุขภาพให้กับประชาชนสามารถเข้าถึงการรักษาและบริการสาธารณสุข ไม่ต้องเป็นหนี้สินจากการกู้ยืมเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายจนถึงขั้นหมดตัว 

นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า เป้าหมายการรณรงค์ของไทยในปีนี้ นับเป็นความท้าทายในการดำเนินหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของประเทศไทยต่อจากนี้ ตลอดระยะเวลา 16 ปีของการมีหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เราได้พิสูจน์ให้ทั่วโลกเห็นแล้วว่า หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเป็นนโยบายของภาครัฐที่สำคัญ สามารถยังประโยชน์ให้เกิดกับประชาชนทั้งประเทศได้อย่างแท้จริง ช่วยเข้าถึงบริการสุขภาพที่จำเป็นได้อย่างครอบคลุมและทั่วถึง ครัวเรือนมีความมั่นคงด้านสุขภาพและเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ไม่ต้องล้มละลายจากค่ารักษาพยาบาล เพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชนที่เป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศ

แต่ทั้งนี้การจะทำให้หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้ายั่งยืนได้ต้องมองเรื่องสุขภาพเป็นการลงทุน โดยเฉพาะการดำเนินหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ไม่มองเป็นภาระ และมุ่งขยายการดูแลให้ครอบคลุมถึงประชากรทุกกลุ่มยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้ระบบเพิ่มความแข็งแกร่ง โดยอาศัยการสนับสนุนและร่วมมือจากทุกด้าน  ซึ่ง สปสช.ในฐานะองค์กรที่มีภารกิจหลักในการบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พร้อมจับมือกับทุกหน่วยงาน ทุกองค์กร ทุกภาคส่วน เพื่อทำให้หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่เป็นของคนไทยทุกคน เป็นระบบที่มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และยั่งยืนตลอดไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท