Skip to main content
sharethis

อุทธรณ์ยืนยกฟ้อง 'พธม.-เครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ' ไม่ผิด พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ หลังชุมนุมค้านรัฐบาลอภิสิทธิ์ ปมมรดกโลกปราสาทพระวิหาร ปี 54

18 ธ.ค.2561 ความคืบหน้าคดีเมื่อ  มี.ค.58 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) และเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ ได้ตั้งเวทีชุมนุมที่เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ปราศรัย โจมตีการบริหารประเทศของรัฐบาลกรณีความสัมพันธ์ไทยกับกัมพูชา อันเป็นการฝ่าฝืนประกาศ ที่รัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ประกาศให้เป็นพื้นที่มีเหตุการณ์กระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ซึ่งแกนนำทั้ง 10 คน ถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันฝ่าฝืนประกาศ และข้อกำหนดห้ามบุคคลหรือกลุ่มบุคคลเข้า หรือให้ออกจากบริเวณพื้นที่ หรือสถานที่ที่กำหนด ตาม พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 

วันนี้ ไทยรัฐออนไลน์และสื่อหลายสำนักรายงานตรงกันว่า ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนตามศาลแขวงดุสิตให้ยกฟ้อง เนื่องจากการออกประกาศพื้นที่ห้ามบุคคลเข้า-ออก บริเวณถนนราชดำเนิน ดุสิต และพื้นที่ใกล้เคียงรอบทำเนียบ ของ ผบ.ตร.ในฐานะ ผอ.ศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อย ออกในวันที่ 9 ก.พ.54 นั้นไม่มีสภาพใช้เป็นกฎหมาย เนื่องจากก่อนหน้านี้คำสั่งกองอำนวยการรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักรที่ 45/2554 เรื่องจัดตั้งศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยที่ให้ ผบ.ตร.เป็น ผอ.ศูนย์ฯ ลงประกาศในราชกิจจาฯ มีผลบังคับใช้วันที่ 18 ก.พ.54 หลังจากการชุมนุม ดังนั้นบรรดาการกระทำก่อนคำสั่งนั้นจะประกาศใช้จึงเป็นการทำไปโดยไม่มีอำนาจ

จำเลยคดีดังกล่าวประกอบด้วย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง, สนธิ ลิ้มทองกุล, ประพันธ์ คูณมี, ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์, สมณะโพธิรักษ์, สุริยะใส กตะศิลา, เทิดภูมิ ใจดี, พิภพ ธงไชย, รัชต์ยุตม์ หรืออมร ศิรโยธินภักดี และทศพล แก้วทิมา ซึ่งทั้งหมดทั้งหมดให้การปฏิเสธและสู้คดี ซึ่งระหว่างการพิจารณาจำเลยได้รับการปล่อยชั่วคราวไป และวันนี้ทุกคนก็เดินทางมาฟังคำพิพากษาอุทธรณ์ โดย "สนธิ" อดีตแกนนำ พธม.ที่ถูกคุมขังในเรือนจำคดีความผิด พ.ร.บ.ตลาดหลักทรัพย์ ก็ถูกเบิกตัวมาฟังคำพิพากษาด้วย ไทยรัฐออนไลน์ รายงานด้วยว่า มีสีหน้าสดใส แต่ร่างกายค่อนข้างผอมกว่าเดิม ซึ่งกลุ่มแกนนำเมื่อเจอกันก็ทักทายพูดคุยกันด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net