แกนนำเพื่อไทยทั้งสุดารัตน์-ลัดดาวัลย์ขึ้นหลังรถกระบะปราศรัย หลังมีหนังสือจาก อบจ. ไม่อนุญาตให้ใช้สนามกีฬา อบจ.พะเยา ขณะที่เขตเลือกตั้ง 3 เขตของ จ.พะเยา กลายเป็นพื้นที่ขับเคี่ยวระหว่างเพื่อไทย และพลังประชารัฐนำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า  ผู้นำการเมืองท้องถิ่น ซึ่งประกาศจะปักธงพลังประชารัฐทั้ง 3 เขต

ที่มา: Facebook/Ladawan Wongsriwong

10 ม.ค. 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคเพื่อไทยเผยแพร่เอกสารเรื่องยกเลิกการขออนุญาตให้ใช้สถานที่ ที่ส่งถึง ไพโรจน์ ตันบรรจง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคเพื่อไทย ช่วงเช้าวันนี้ โดยเนื้อหาระบุว่า ตามที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดพะเยา (อบจ.พะเยา) ได้รับหนังสือขออนุญาตใช้สนามกีฬา อบจ.พะเยา อ.ดอกคำใต้ ในวันที่ 10 มกราคม 2562 เพื่อใช้ปราศรัยของพรรคเพื่อไทย และ อบจ.พะเยาได้อนุญาตให้พรรคเพื่อไทยใช้สถานที่ดังกล่าวแล้วนั้น "บัดนี้ นายก อบจ.พะเยา ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า การใช้สถานที่ราชการเพื่อจัดกิจกรรมทางการเมือง อาจจะมีการได้เปรียบเสียเปรียบในทางการเมืองระหว่างพรรคการเมือง ประกอบด้วยเป็นการไม่เหมาะสมที่ใช้สถานที่ราชการเพื่อจัดกิจกรรมทางการเมือง ดังนั้น อบจ.พะเยา จึงขอยกเลิกหนังสือขออนุญาตให้ใช้สนามกีฬา อบจ.พะเยา อ.ดอกคำใต้ ตามที่ท่านได้ขออนุญาตไว้ ทั้งนี้ หนังสือดังกล่าวลงนามโดย นายสวัสดิ์ หอมนาน รองนายกอบจ.พะเยา รักษาราชการแทน นายก อบจ.พะเยา"

ก่อนหน้านี้ไพโรจน์ได้ส่งหนังสือขออนุญาตใช้สนามกีฬา อบจ.พะเยาเพื่อปราศรัย ตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค. อย่างไรก็ตามเมื่อทราบว่าไม่สามารถใช้สนามกีฬา อบจ.พะเยาได้ ทำให้พรรคเพื่อไทยใช้รถกระบะเป็นเวทีชั่วคราวเปิดเวทีปราศรัยด้านหน้าสนามกีฬาอบจ.พะเยา

ตอนหนึ่งสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งพรรคเพื่อไทยตอนหนึ่งปราศรัยว่า "ได้ทราบจากข้าราชการผู้ใหญ่ในจังหวัดว่ามีโทรศัพท์จากผู้มีอำนาจใหญ่โตมาก ในกรุงเทพฯ บอกว่าห้ามไม่ให้เพื่อไทยปราศรัยเด็ดขาด และเราเอง ส.ส. ของพวกเราเป็นคนดีค่ะ ไม่อยากให้ข้าราชการเดือดร้อน ไม่อยากให้ผู้ว่าราชการ นายอำเภอ นายกฯ อบจ. เดือดร้อน เราไม่เข้าไปในสถานที่ที่เขาห้ามเลย ทราบเมื่อเช้าว่า มาแจ้งตอน 4 ทุ่มนัดพี่น้องกันหมดแล้ว ไม่รู้จะบอกกันแถวไหน เพราะนัดไว้แล้ว พี่น้องเลยเดินทางมาใช่ไหมคะ ต้องขอบคุณที่เดินทางมา"

ทั้งนี้สุดารัตน์และแกนนำพรรคเพื่อไทยอยู่ระหว่างลงพื้นที่หาเสียงในภาคเหนือ โดยเมื่อวานนี้ (9 ม.ค.) ระหว่างการลงพื้นที่ จ.เชียงราย สุดารัตน์ก็เข้าไปทักตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาสังเกตการณ์ช่วงหาเสียงด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าในการเลือกตั้ง ส.ส. ในพื้นที่ จ.พะเยา หนนี้ เป็นการขับเคี่ยวสำคัญระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคพลังประชารัฐ โดยก่อนหน้านี้ในการเลือกตั้งทั้งปี 2550 และปี 2554 แม้ลัดดาวัลย์ วงศ์ศรีวงศ์ ส.ส.พื้นที่ และอดีต รมช.แรงงาน สมัยรัฐบาลทักษิณจะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปีหลังยุบพรรคไทยรักไทย แต่พรรคเพื่อไทยที่นำโดย อรุณี ชำนาญยา,    วิสุทธิ์ ไชยณรุณ, ไพโรจน์ ตันบรรจง ก็ชนะเลือกตั้งทั้ง 3 เขตทั้ง 2 สมัย

อย่างไรก็ตามในการเมืองท้องถิ่น จ.พะเยา กลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หรือผู้กองธรรมนัส เริ่มก่อตัวขึ้นมาตั้งแต่ปี 2554 โดยในการเลือกตั้งนายกฯ อบจ. ปี 2554 ซึ่งเป็นการลงชิงชัยระหว่างแคนดิเดต "เพื่อไทย" 2 กลุ่ม คือกลุ่มตันบรรจงซึ่งผูกขาดการเมืองท้องถิ่นหลายสมัย ขับเคี่ยวกับ "วรวิทย์ บุรณศิริ" น้องชายวิทยา บุรณศิริ อดีต ส.ส.อยุธยา พรรคเพื่อไทย โดยในครั้งนี้ผู้กองธรรมนัสสนับสนุน "วรวิทย์" เต็มที่ โดยให้จตุพร พรหมพันธุ์แกนนำ นปช. ที่มีความสนิทสนมกับเขามาช่วยปราศรัยหาเสียงด้วย โดยผลการเลือกตั้งวรวิทย์เอาชนะได้สำเร็จ ขณะที่ผู้กองธรรมนัสส่งน้องชายคือ อัครา พรหมเผ่า มาเป็นรองนายกฯ อบจ.

ขณะเดียวกัน ในปี 2556 ก็ผู้กองธรรมนัสก็สนับสนุน จุฬาสินี โรจนคุณกำจร ลงชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองพะเยา จนจุฬาสินีชนะเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีหญิงคนแรกของเทศบาลเมืองพะเยา

ทั้งนี้ในการเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ 2557 ผู้กองธรรมนัสมีรายชื่อเป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทยด้วย ก่อนที่หลังรัฐประหาร คสช. ผู้กองธรรมนัสในเวลาต่อมาได้ตัดสินใจย้ายค่ายเข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐในปี 2561 โดยผู้กองธรรมนัสเคยกล่าวว่าพรรคพลังประชารัฐจะต้องชนะเลือกตั้งทั้ง 3 เขตของ จ.พะเยา