Skip to main content
sharethis

รัฐบาลปลาบปลื้มผลงานประวัติศาสตร์ ปลดธงเหลือง IUU คุยฟุ้งทำดีที่สุด ทั้งที่ไม่ได้มาจากเลือกตั้ง

เดี๋ยวนะครับๆ ที่ EU สะบัดธงเหลืองให้ คือวันที่ 29 เม.ย.2558 หลังรัฐประหารเกือบปี แม้ใช่ละ เรามีปัญหาหมักหมมมานาน ทั้งยุคเลือกตั้งยุครัฐประหาร

พูดอย่างนี้ไม่ใช่จงใจหักหน้า ระหว่างเฉลิมฉลองกันครึกครื้น แต่ว่าตามความเป็นจริง คืออียูน่าจะให้ใบเหลืองเพราะไม่ไว้วางใจรัฐบาลเผด็จการ เกรงจะใช้อำนาจไม่โปร่งใส ตรวจสอบไม่ได้ เข้าข้างกัน ปัญหาประมง ค้ามนุษย์ จะยิ่งบานปลาย แต่รัฐบาลทหารไทยก็ทำให้เห็นว่าแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ใช้อำนาจเผด็จการอย่างเฉียบขาด ออกกฎหมาย ออก ม.44 มีมาตรการเข้มงวดต่างๆ จนกระทั่งเขาพอใจ

ตรงนี้ใช่เลย เป็นผลงาน ที่อียูพอใจ คนไทยส่วนใหญ่ ก็พอใจ เพราะคนไทยส่วนใหญ่รู้สึกเสียหน้า เสียผลประโยชน์ธุรกิจการค้า เพียงแต่ว่าคนไทยส่วนใหญ่นี้ไม่ใช่ชาวประมง

ชาวประมงตัวจริงร้องโอดโอยมา 3 ปี ที่เจ๊งย่อยยับไป ก็เยอะ ธุรกิจเสียหายไปหลายแสนล้าน แต่บางคนก็จะบอกว่าเพราะมันทำประมงผิดกฎหมายไง ไม่ได้ทำผิดแล้วกลัวอะไร

ว่ากันจริงๆ ประมงไทยก็เคยพัวพันกับการทำผิดกฎหมาย เรือเถื่อน ละเมิดน่านน้ำ ค้ามนุษย์ ฯลฯ สมควรจัดระเบียบ แต่ปัญหาของการจัดระเบียบโดยรัฐทหาร คือหนึ่ง หักดิบ จะเอาให้ได้ดังใจอียูในเวลาสั้นๆ สอง ใช้ทั้ง พ.ร.ก. ม.44 อำนาจทุกอย่าง คุมเข้มโดยรัฐราชการ ที่ไม่เข้าใจ ไม่รับฟัง ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง จุกจิกหยุมหยิม ปฏิบัติไม่ได้ กระทั่งคนที่ไม่ได้ทำอะไรผิด

ใครที่บอกว่าไม่ได้ทำผิดแล้วกลัวอะไร ลองไปอ่านข้อเรียกร้องของชาวประมง ตอนที่ประท้วงครั้งต่างๆ มันไม่ใช่เขาต้องการฝ่าฝืนกฎหมาย แต่เขาโวยข้อบังคับจุกจิก “จับปลาในเอกสาร” ที่รัฐราชการผลักภาระ ทำอะไรก็ผิด เช่น ต้องจ่ายค่าจ้างผ่านบัญชีธนาคาร แรงงานกด ATM แล้วก็ต้องเอาสลิปมาให้นายจ้าง เพื่อส่งรายงานเจ้าหน้าที่ ต้องมีระบบติดตามเรือ VMS ของเก่า 2-3 หมื่น บังคับให้เปลี่ยนเป็น 5-7 หมื่น ค่าบริการรายเดือน 4-5 พันบาท ต้องแจ้งเรือเข้าออกก่อน 2 ชั่วโมง มีเหตุจำเป็นก็ไม่ผ่อนผัน ต้องลงเวลาพนักงาน รวมถึงเวลาพักในทะเล ต้องทำสมุดบันทึกการประมง เขียนทุกครั้งที่อวนลงน้ำ หรือลูกเรือตกปลา ไต๋เรือรู้หนังสืองูๆ ปลาๆ ก็อย่าเขียนผิด ถ้ามีการแก้ไขโดนปรับ ฯลฯ


ปัญหาของกฎหมายและคำสั่ง คือสั่งออกมาถี่ยิบ ขาดการทำความเข้าใจ ไม่มีเวลาให้ปรับตัว ใครทำผิดก็มีโทษหนัก เช่นที่ปิยบุตร แสงกนกกุล ไปฟังปัญหาที่ตราด แค่เดินเรือ เกินไมล์ทะเลด้วยความไม่รู้ โดนปรับล้านกว่าบาท เป็นวิธีคิดแบบอำนาจนิยม ลุกลี้ลุกลนให้พ้นใบเหลือง สั่งให้ชาวประมงทำตาม ใครไม่ทำก็จับปรับแพงๆ ดังนั้นจะต้องแก้กฎหมายประมงยุค คสช.ให้หมด ยกร่างใหม่โดยให้ชาวประมงมีส่วนร่วม

จนท่านผู้นำออกมาโต้ ว่าแก้ไขไม่ได้ เพราะออกไปแล้ว กว่า 70 ฉบับ อ้างทำเพื่อผู้มีรายได้น้อยเช่นประมงพื้นบ้าน แต่ประมงพื้นบ้านก็ค้านท่านเช่นกันนะ ที่ห้ามทำประมงนอกเขตชายฝั่ง

แล้วไม่ใช่อนาคตใหม่พรรคเดียว ที่พูดปัญหาประมง ทุกพรรคก็พูด เช่นภูมิใจไทยจัดเสวนาใหญ่ กรรมการสมาคมประมงปัตตานี ที่เคยถูกท่านผู้นำว้าก “อย่ามาเถียงผม” ก็บอกว่าทุกวันนี้ชาวประมงไม่ได้ทำผิดกฎหมาย แต่ผิดเอกสาร

3-4 ปีที่ผ่านมาทำไมเสียงร้องของชาวประมงไม่มีใครฟัง ก็เพราะพวกเขาถูกเหมารวมเป็นคนผิด เป็นอาชญากร รัฐแห่งความถูกต้องเข้ามาจัดการ นี่ไม่ต่างกับหาบเร่แผงลอย ซึ่งสมควรจัดระเบียบ แต่ไม่ใช่กวาดเสียเรียบ หมดที่ทำกิน

เช่นเดียวกับการทวงคืนผืนป่า อ้างว่าจับนายทุน แต่ความเป็นจริงคนจนที่อยู่กับป่า ที่เจรจามาหลายรัฐบาล ถูกกวาดเรียบ แต่พอจะเลือกตั้ง ก็มีนโยบายแจกที่ทำกิน แถม ส.ป.ก.4.0 ให้หัวร่อกลิ้ง

ทุกเรื่องทุกประเด็นที่รัฐใช้อำนาจนิยม ก็จะมีคนไม่ได้ ทำผิดไม่เห็นเดือดร้อนอะไร อันได้แก่คนชั้นกลางในเมือง ส่วนใหญ่คือมนุษย์เงินเดือน สนับสนุนให้ใช้อำนาจ เว้นแต่พอจะจับปรับไม่มีใบขับขี่ 50,000 จึงรู้สึกว่าเกินกว่าเหตุ

เราอยู่ในสังคมไทยที่ใช่เลย เคยชินกับความหย่อนยาน เส้นสาย อุปถัมภ์ ไม่มีระเบียบวินัย ไม่เคารพกฎหมาย จนกระทั่งทหารขี่รถถังมาฉีกรัฐธรรมนูญ แล้วออกคำสั่ง คนไทยต้องมีวินัย ต้องจัดระเบียบ อย่าให้ใครว่าไทย ฯลฯ

ตลกไหม ใครเชื่อบ้างว่าเราจะก้าวไปสู่สังคมที่มีมาตรฐาน ไม่มีความยุติธรรมแบบป้อมๆ

 

เผยแพร่ครั้งแรกใน: ข่าวสดออนไลน์ www.khaosod.co.th/hot-topics/news_2070836

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net