หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ปักหลักอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ปล่อยรถหาเสียงผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพมหานคร 30 เขต ชูคำขวัญ “ประชาชนเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยสุจริต” แม้รัฐธรรมนูญ 60 ไม่เป็นประชาธิปไตย แต่หวังให้คนไทยทั้งประเทศสร้างประชาธิปไตยผ่านการเลือกตั้ง ส่งเสียงดังพอให้ ส.ว.แต่งตั้ง 250 คนไม่ฝืนมติประชาชนจนนำไปสู่ความขัดแย้ง เชื่อเลือกตั้งเกิดขึ้น 150 วันตามกรอบรัฐธรรมนูญหรือก่อน 9 พ.ค. แน่นอน

ขณะที่ท่าที ผบ.ทบ. จวกคนอยากเลือกตั้ง อภิสิทธิ์ไม่กังวล ชี้ทุกฝ่ายไม่ควรสร้างความขัดแย้ง ส่วนผู้ที่เคลื่อนไหว หากกระทำตามกรอบกฎหมายก็ถือเป็นสิทธิ โดยขอให้ทุกฝ่ายเดินไปข้างหน้า

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ปราศรัยที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พร้อมปล่อยรถหาเสียงของผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 30 เขตทั่วกรุงเทพ พร้อมชูคำขวัญ “ประชาชนเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยสุจริต” เมื่อ 13 มกราคม 2562 ที่มา: Facebook/อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

สุรบถ หลีกภัย ซึ่งมีชื่อเสียงมาจากการเป็นพิธีกรรายการ VRZO แกนนำคนรุ่นใหม่ในพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งถูกคาดหมายว่าจะลงสมัคร ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อ ที่มา: Facebook/อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

พริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 13 กรุงเทพมหานคร ที่มา: Facebook/อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

ธนัตถ์ ธนากิจอำนวย ทายาทนักธุรกิจเครืออสังหาริมทรัพย์ อดีตแกนนำ กปปส. เปิดตัวเป็นผู้สมัคร ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ เขต 15 กทม. ที่มา: Facebook/อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

13 ม.ค. 2562 ตามที่โฆษกพรรคประชาธิปัตย์เปิดเผยว่าในวันอาทิตย์ที่ 13 ม.ค. พรรคประชาธิปัตย์จะเริ่มคิกออฟ แคมเปญ “นโยบายแก้จน สร้างคน สร้างชาติ” และประกาศความพร้อมในการเป็น “ทางเลือกหลักของการแก้ไขปัญหาของประเทศ” ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พร้อมเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. ในกทม. ทั้ง 30 เขต และผู้สมัคร ส.ส. ทั่วประเทศ โดยจะปล่อยคาราวานหาเสียงพร้อมกันทั่วประเทศด้วยนั้น

ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานปล่อยขบวนรถคาราวานผู้สมัคร ส.ส.กทม . 30 เขต ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พร้อมประกาศจุดยืน สโลแกน “ประชาชนเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยสุจริต”

อภิสิทธิ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ปัจจุบันอาจยังไม่แน่นอนเรื่องวันเลือกตั้ง แต่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ชัดแจ้งว่า การเลือกตั้ง ส.ส.ต้องมีขึ้นใน 150 วันนับจากกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.บังคับใช้ ซึ่งการเลือกตั้งต้องเกิดขึ้นก่อน 9 พฤษภาคม 2562

"แม้ปัจจุบันจะยังมีความไม่แน่นอนในเรื่องวันเลือกตั้ง แต่ประชาชนไทยต้องการเดินหน้าประเทศไทย บนวิถีทางประชาธิปไตยอย่างแน่นอน พรรคประชาธิปัตย์อาสาที่จะนำประเทศบนเส้นทางนี้ โดยจะไม่วนกลับมาสู่สถานการณ์เดิม ๆ อีก เพราะพรรคประชาธิปัตย์ยึดถือคติประจำพรรคว่า ประชาชนเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยสุจริต นั่นคือ รัฐบาลจากการเลือกตั้ง ต้องมาจากประชาชน และเคารพประชาชน ใช้อำนาจอย่างสุจริต เพื่อตัดวงจรอุบาทว์ และทำประชาธิปไตยให้ยั่งยืน"

"เราพร้อมพิสูจน์ให้เห็นว่านักการเมืองในวิถีทางนี้ สามารถแก้จน สร้างคน สร้างชาติ ซึ่งเป็นความต้องการของประชาชนทั้งประเทศได้”

ไม่ว่าความไม่แน่นอนจะเป็นอย่างไร แต่ประเทศไทยต้องกลับคืนสู่หนทางประชาธิปไตย อันเป็นหลักประกันว่าคนที่เข้ามาจะตอบโจทย์แก้ปัญหาตอบสนองประชาชน พรรคจึงขอปล่อยขบวนรถประชาธิปไตยเพื่อบอกว่า การเดินหน้าครั้งนี้จะต้องไม่วนกลับ พอแล้วกับการเมืองที่วนเวียนวัฎจักร เลือกตั้งแล้วผู้มีอำนาจทุจริต ก่อความขัดแย้ง วนมายังการรัฐประหาร จนบริหารบ้านเมืองมีสภาวะแบบที่เป็นอยู่ 4-5 ปีที่เผชิญกันมา

เขากล่าวด้วยว่า การเดินหน้าประชาธิปไตยวันนี้ แม้มีการเลือกตั้ง แต่กติกาในรัฐธรรมนูญไม่ได้ถูกออกแบบเป็นประชาธิปไตย 100% แต่คนไทยทั้งประเทศสามารถสร้างประชาธิปไตยได้ด้วยการไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ไปเลือก และส่งสัญญานดังๆ ว่า พี่น้องประชาชนต้องการใคร ต้องการพรรคการเมืองใดมาบริหารประเทศ และเสียงนี้จะต้องดังพอที่จะทำให้ ส.ว. 250 คน ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ต้องเคารพผลการเลือกตั้ง และ ไม่ให้รัฐบาลหลังการเลือกตั้งฝืนเสียงประชาชนแล้วนำไปสู่ความขัดแย้งอีก 

ส่วนท่าทีตำหนิกลุ่มคนอยากเลือกตั้งของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ไทยรัฐออนไลน์ รายงานคำพูดของอภิสิทธิ์ระบุว่าไม่กังวล และทุกฝ่ายไม่ควรสร้างความขัดแย้ง ส่วนผู้ที่เคลื่อนไหว หากกระทำตามกรอบกฎหมายก็ถือเป็นสิทธิ พร้อมขอให้ทุกฝ่ายเดินไปข้างหน้า ส่วนการเลื่อนเลือกตั้งนั้นจะเลื่อนไปนานเท่าไร ตัวเขาตอบไม่ได้ แต่เชื่อว่าการเลือกตั้งจะต้องเกิดขึ้นภายในกรอบกฎหมาย 150 วัน ซึ่งการเปิดตัวผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ในวันนี้เป็นเครื่องยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์พร้อมเดินหน้าสู่สนามการเลือกตั้งและจะไม่กลับสู่วงจรรัฐประหารอีก

ส่วนผลซุปเปอร์โพลที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อนั้น นายอภิสิทธิ์ย้ำว่า สุดท้ายอยู่ที่ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมเป็นทางเลือกหลักให้กับประชาชน

อดีต 3 แกนนำขึ้นเวที กปปส. ลงสมัคร ส.ส. กรุงเทพ

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าวันที่ 13 ม.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ปล่อยรถหาเสียงนั้น ตรงกับแคมเปญ "Shutdown Bangkok" เมื่อ 5 ปีที่แล้วของสุเทพ เทือกสุบรรณและแกนนำ กปปส. โดยในวันนี้มีอดีตแกนนำ กปปส. หลายคนร่วมในขบวนรถหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ด้วย เช่น เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อดีตโฆษก กปปส. และลูกบุญธรรมของสุเทพ เทือกสุบรรณ ลงเขต 27 กทม., อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ลงเขต 6 กทม. และธนัตถ์ ธนากิจอำนวย ทายาทนักธุรกิจเครืออสังหาริมทรัพย์ ผู้เคยให้สัมภาษณ์ในสารคดี VICE News ชุด Driving Ferraris with the Thai Royalists ลงเขต 15 กทม.

สำหรับรายชื่อว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม.ทั้ง 30 เขต ประกอบด้วย เขต 1 นางเจิมมาศ จึงเลิศศิริ เขต 2 น.ส.อรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ เขต 3 ม.ล.อภิมงคล โสณกุล เขต 4 นายอนุชา บูรพชัยศรี เขต 5 นายธนา ชีรวินิจ

เขต 6 นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เขต 7 นายคณวัฒน์ จันทรลาวัณย์ เขต 8 นายสรรเสริญ สมะลาภา เขต 9 พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ เขต 10 นายธัญญ์นิธิ ชวรัตน์นิธิโชติ

เขต 11 ดร.สมชาย เวสารัชตระกูลเขต 12 นายรัฐพงศ์ ระหงษ์ เขต 13 นายพริษฐ์ วัชรสินธุ เขต 14 นายพรพรหม ณ.ส. วิกิตเศรษฐ์ เขต 15 นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย

เขต 16 นางฮูวัยดีย๊ะ พิศสุวรรณ อุเซ็ง เขต 17 น.ส.เบญญาภา เกษประดิษฐ์ เขต 18 นายอนันต์ ฤกษ์ดี เขต 19 นางนาถยา แดงบุหงา เขต 20 นายสามารถ มะลูลีม

เขต 21 นายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ เขต 22 ทพ.สุรันต์ จันทร์พิทักษ์ เขต 23 นางนันทพร วีรกุลสุนทร เขต 24 นายสาทร ม่วงศิริ เขต 25 นายสากล ม่วงศิริ 

เขต 26 พ.ต.ท.นพ. สามารถ ม่วงศิริ เขต 27 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เขต 28 นางอรอนงค์ คล้ายนก เขต 29 นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ และเขต 30 ผศ.ดร. รัชดา ธนาดิเรก