กลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบายประกาศเตรียมเข้า กทม.หลังผิดหวัง กกพ. ลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นประชาชน แต่ให้เวลากับกลุ่มสนับสนุนสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลมากกว่ากลุ่มคัดค้าน

15 ม.ค. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน มีกำหนดการเดินทางลงพื้นที่รับฟังข้อมูลข้อเท็จจริงกรณีการคัดค้านโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาด 61 เมกะวัตต์  ณ ห้องประชุมข้าวหอมมะลิศาลากลางจังหวัดยโสธร โดยมีเสมอใจ ศุขสุเมฆ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน และบัญฑูร เศรษฐศิโรตน์ กรรมการกำกับกิจการพลังงาน โดยมี นิกร สุกใส ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร นั่งเป็นประธาน พร้อมมีตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบาย ต.เชียงเพ็ง อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร จำนวน 30 คน  และเครือข่ายอนุรักษ์ลำน้ำเซบาย ต.น้ำปลีก อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ จำนวน 30 คน และตัวแทนประชาชนที่สนับสนุนโรงไฟฟ้าชีวมวลประมาณ 50 คน

การประชุมในครั้งนี้เป็นการให้กลุ่มผู้คัดค้านได้นำเสนอข้อกังวลหากมีโรงไฟฟ้าชีวมวลในพื้นที่ โดยมะลิจิตร เอกตาแสง กรรมการกลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบาย ต.เชียงเพ็ง ให้ข้อมูลว่า ช่วงเช้าเป็นการนำเสนอข้อกังวลของคนในพื้นที่ต่อประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หลังจากประชุมช่วงเช้าเสร็จได้ชวนคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานลงพื้นที่และพบปะพูดคุยกับประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล แต่ก็ผิดหวังหลังจากที่ กกพ. กลับลงพื้นที่ไปหากลุ่มสนับสนุนโรงไฟฟ้าชีวมวลก่อน ซึ่งถือเป็นการทำผิดข้อตกลงที่ได้พูดคุยในช่วงเช้าว่า จะเดินทางมารับฟังความคิดเห็นของกลุ่มคัดค้านก่อน จนที่สุดแล้วทำให้เวลาในการพูดคุยเหลือน้อย ประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลจึงตกลงกันว่า จะเดินทางเข้ากรุงเทพอีกครั้ง เพื่อคัดค้านไม่ให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานพิจารณาออกใบอนุญาตโรงไฟฟ้าชีวมวล

รุ่งทิพย์ โสภาศรี เครือข่ายอนุรักษ์ลำน้ำเซบาย ต.น้ำปลีก กล่าวว่า รู้สึกผิดหวังที่ กกพ. ไม่ได้ให้ความสำคัญกับประชาชนที่คัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล ทั้งที่ช่วงเช้าได้ตกลงชัดเจนแล้วว่า ในช่วง กกพ. จะเข้าไปในพื้นที่บ้านเชียงเพ็งก่อน ต่อมาจะไปยังพื้นที่บ้านน้ำปลีก และจึงจะไปยังพื้นที่ก่อตั้งโรงไฟฟ้าชีวมวล สุดท้ายการลงพื้นที่ไม่ได้เป็นไปตามที่ตกลง และได้รับคำอธิบายเพียงแค่ หลงทาง

สิริศักดิ์ สะดวก ที่ปรึกษากลุ่มอนุรักษ์ลำน้ำเซบาย ต.เชียงเพ็ง กล่าวว่า หลังจากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.) ได้พิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) มีมติเห็นชอบของโรงไฟฟ้าชีวมวล ในวันที่ 3 พ.ค. 2561 ทางบริษัทมิตรผล ไบโอ-เพาเวอร์ (อำนาจเจริญ) จำกัด ได้ยื่นขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงไฟฟ้าชีวมวล เมื่อวันที่ 9 ก.ค. 2561 ซึ่งทำให้ กกพ. ได้มีการเร่งรีบจะมีการพิจารณาใบอนุญาตก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาด 61 เมกะวัตต์ โดยใช้ EIA ประกอบการพิจารณาเป็นหลักนั้นสะท้อนถึงกระบวนการที่ไม่ชอบธรรมเพราะประชาชนในพื้นที่รัศมี 5 กิโลเมตร ไม่ยอมรับโครงการดังกล่าว

“หากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานยังจะเร่งรีบพิจารณา ผมมองว่า กกพ. กำลังท้าทายชาวบ้านในพื้นที่ เพราะการที่ กกพ. ลงพื้นที่ในวันนี้ก็เนื่องมาจากชาวบ้านในพื้นได้ไปเรียกร้อง แต่กลับไม่ทำตามที่สัญญากับชาวบ้านที่จะต้องให้เวลากับชาวบ้านคัดค้านมากกว่าก่อนที่จะไปคุยกับกลุ่มสนับสนุน ทำให้กลุ่มชาวบ้านที่คัดค้านรอตั้งแต่เที่ยงจนถึงสี่โมงเย็น ถึงลงมา” สิริศักดิ์ กล่าว