16 ม.ค. 2562 สืบเนื่องจากกรณีที่ ประเสริฐ หงวนสุวรรณ สมาชิกพรรคสามัญชนจังหวัดแพร่ อาชีพขายข้าวแกง บุกเดี่ยวไปยืนชูป้าย เลื่อนแม่มึงสิ เพื่อคัดค้านการเลื่อนการเลือกตั้ง ที่ศาลากลางจังหวัดแพร่เมื่อวันที่ 13 ม.ค. ที่ผ่านมา

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า วันนี้เวลาประมาณ 8.30 น. ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลนอกเครื่องแบบจำนวน 2 นาย เดินทางไปที่บ้านของประเสริฐ โดยมีการติดต่อแจ้งถึงการเดินทางมาก่อนเข้ามาที่บ้าน เจ้าหน้าที่ได้เข้าพูดคุยสอบถามว่าประเสริฐ หรือกลุ่มคนในจังหวัดแพร่ จะเดินทางไปร่วมกิจกรรมการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 19 ม.ค. นี้ หรือไม่ โดยประเสริฐตอบว่า ไม่ได้ไปเนื่องจากติดภารกิจ

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพยายามสอบถามว่าแล้วจะมีการทำกิจกรรมในพื้นที่อีกหรือไม่ และถ้าจะมี จะทำเมื่อไรและอย่างไร มีใครเข้าร่วมด้วยบ้าง จำนวนเท่าไร เจ้าหน้าที่ยังระบุว่าถ้าจะทำกิจกรรม ขอให้แจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ก่อน จะได้ไม่มีการกระทำที่ผิดกฎหมาย

ทั้งนี้ประเสริฐ ได้ให้สัมภาษณ์ในรายงาน Thai Voice ของจอม เพชรประดับ เมื่อวันที่ 14 ม.ค. โดยระบุว่า หลังจากที่ไปยืนชูป้ายที่ศาลากลางก็มีเจ้าหน้าที่พยายามเข้ามาถามว่ามีใครจ้างมาหรือไม่ พร้อมกับสอบถามประวัติ เช่น บ้านอยู่ที่ไหน บ้านเลขที่อะไร เมื่อจอมถามว่ามีความคิดอย่างไรที่นักกิจกรรมซึ่งออกมาต่อต้านรัฐบาล คสช. มักจะถูกมองว่าถูกจ้าง หรือมีใบสั่งให้ออกมาเคลื่อนไหว ประเสริฐ ตอบว่า รัฐบาลไม่ได้สนใจประชาชนจริงๆ จึงดูถูกประชาชนว่าคิดเองไม่เป็น

ประเสริฐ กล่าวต่อว่า การที่ฝ่ายทหาร หรือรัฐบาลออกมาพูดเสมอว่าต้องการให้ประเทศชาติสงบนั้น ต้องยอมรับว่าเวลานี้ประเทศสงบจริงๆ สงบจนทำมาหากินลำบาก เข้าใจว่าคนที่พูดแบบได้เพราะมีเงินเดือน แต่กับคนหาเช้ากินค่ำทุกวันนี้ หากวันไหนไม่สามารถหาเงินได้ ก็ไม่มีเงินมาต่อทุน การที่รัฐบาลออกมาแจกเงินคนจน เดือนละ 500 บาท ไม่ได้เป็นการช่วยแก้ปัญหาอะไร และทุกคนดูออกว่านั่นคือ การหาเสียงเรียกคะแนนนิยมให้กับตัวเองเท่านั้น