หลังเสร็จกิจกรรมคนอยากเลือกตั้ง ขณะเดินทางกลับบ้าน เอกชัยหงส์กังวาน นักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยถูกรุมทำร้ายและขู่ยิง โชคดีได้นักท่องเที่ยวที่เดินผ่านมาเข้าทำการช่วยเหลือ

19 มกราคม 2562 เอกชัย หงส์กังวาน หลังจากเลิกจากกิจกรรมรณรงค์ร่วมกับกลุ่มของฟอร์ด เส้นทางสีแดง ได้แจ้งกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากแยกย้ายจากการทำกิจกรรมเดินรณรงค์ไม่เลื่อนเลือกตั้งที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา - ถนนข้าวสาร แล้วผู้ร่วมกิจกรรมจึงได้แยกย้ายกันเดินทางกลับบ้าน  เอกชัยกับเพื่อนนักกิจกรรมอีกคนหนึ่งได้เดินมาเอารถที่จอดไว้ที่ ม.ธรรมศาสตร์จนถึงบริเวณโค้งหยดน้ำใกล้กับสะพานพระปิ่นเกล้า ในเวลาประมาณ 19.15 น. ก็ได้มีชายฉกรรจ์จำนวน 4 คนซึ่งเดินตามมา โดย 3 คนเข้ามารุมทำร้ายร่างกายเอกชัยจากทางด้านหลัง ส่วนอีกคนยืนคอยคุมเชิง แต่เพื่อนเอกชัยที่เดินมาด้วยเข้ามาห้ามปรามจึงถูกทำร้ายไปด้วย ต่อมา มีนักท่องเที่ยวไม่แน่ใจว่าเป็นชาวจีนหรือชาวเกาหลีประมาณสิบคนเดินผ่านมาพบและได้เข้าทำการช่วยเหลือ ไล่ชกต่อยชายที่เข้ามาทำร้ายเอกชัย จนคนร้ายทั้งสี่ต้องวิ่งขึ้นมอเตอร์ไซค์จำนวนสองคันที่จอดเอาไว้ขับหลบหนีไป 

สำหรับอาการบาดเจ็บ เอกชัยโดนต่อยบริเวณใบหน้า และโดนเตะบริเวณศีรษะ แต่ได้เอาแขนขึ้นมารับไว้จึงมีรอยช้ำที่แขนด้วย ส่วนเพื่อนนักกิจกรรมอีกคนโดนชกต่อยทำร้ายแว่นตาหัก ปากแตกและคิ้วแตก โดยขณะนี้เอกชัยกำลังแจ้งความที่ สน.ชนะสงครามแล้วจึงจะไปตรวจร่างกายที่วชิระพยาบาล

เอกชัยกล่าวว่า ชายทั้งสี่คนใส่กางเกงยีนส์ขายาว ท่าทางแข็งแรง ไม่ใส่แว่น ไม่สามารถระบุได้ว่าหน้าตาอย่างไร หรือใส่เสื้อสีอะไรเนื่องจากบริเวณที่เกิดเหตุค่อนข้างจะมืด ในขณะที่กรูเข้ามารุมทำร้ายโดยไม่ได้พูดอะไรนอกจากตะโกนขู่ว่าจะยิงพวกเขา

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เอกชัยนักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่เป็นที่รู้จักจากการเคลื่อนไหวเรื่องการหายไปของหมุดคณะราษฎร ได้ถูกคุกคาม ก่อนหน้านี้เขาเคยโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารควบคุมตัวนอกกฎหมายไปกักบริเวณในช่วงวันที่ 24-28 ต.ค. 2560 เป็นเวลา 5 วัน หลังจากนั้นเขาถูกชาย 3 คน ดักทำร้ายร่างกายที่บริเวณป้ายรถเมล์ปากซอยเข้าบ้านย่านลาดพร้าวเมื่อ 22 ส.ค. 2561 หลังเดินทางกลับจากการรณรงค์ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนหน้านั้น เขายังเคยถูกนายฤทธิไกร ชัยวรรณศาสน์ดักทำร้ายร่างกายบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาลขณะที่เขาไปเรียกร้องให้ตรวจสอบเรื่องการครอบครองนาฬิกาหรูของ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ เมื่อ 19 มกราคม 2561 จนมีการแจ้งความดำเนินคดี แต่สุดท้าย นายฤทธิไกรผู้เข้าทำร้ายร่างกายเขาถูกพิพากษาเพียงแค่ปรับ 10,000 บาท โดยโทษจำคุก 3 เดือนให้รอลงอาญา