Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน


 ข่าวใหญ่ที่สุดน่าจะเป็นการบุกสังหารพระดังนักพัฒนาในวัดยามวิกาล กล่าวคือ เมื่อ 18 ม.ค.62

จากข่าวดังกล่าวทำให้ผู้เขียนขอแสดงความเสียใจต่อพระท่านและญาติโยม พร้อมประณามคนร้ายที่ล้ำเส้นฆ่าพระซึ่งในศาสนาอิสลามได้สั่งห้ามแม้ในภาวะสงคราม (โปรดดูบทความผู้เขียนใน http://www.islammore.com/main/content ในขณะเดียวกันขอประณามการใช้ความรุนแรงในสถานที่การศึกษา และการทำลายเป้าหมายอ่อนรวมถึงบุคคลทางศาสนาไม่ว่าจะเป็นศาสนาใดก็ตาม ซึ่งเป็นปฏิบัติการผิดหลักการอิสลาม หลักการมนุษยธรรม และฝ่าฝืนกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งสอดคล้องการออกแถลงการณ์ประณามเช่นกันจากทุกภาคส่วนไม่ว่าสำนักจุฬาราชมนตรี องค์กรชาวพุทธ องค์กรภาคประชาสังคมต่างๆรวมถึงองค์ภาคประชาสังคมที่เห็นต่างจากรัฐตลอด องค์สิทธิมนุษยชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ
 

ความเป็นจริงก่อนจะเกิดการสังหารพระในครั้งนี้มีการลอบสังหารผู้นำศาสนาอิสลามระดับอิหม่ามและกรรมการอิสลามตลอดปี 2561 เช่น วันที่ 24 ธ.ค.2561 มีผู้ใช้อาวุธสงครามกระหน่ำยิงนายสะมะแอ เจ๊ะมะ วัย 45 ปี อิหม่ามมัสยิดบ้านท่าราบ ตำบลกะมิยอ อำเภอเมือง ปัตตานีในขณะอยู่ในที่จอดรถจนเสียชีวิต วันที่ 8 มิ.ย.2561 มีผู้ยิงนายอดุลย์เดช เจ๊ะแนวัย 55 ปี ผู้จัดการโรงเรียนลาลอวิทยา รองประธานกรรมการอิสลามจังหวัดปัตตานีที่บริเวณหน้าโรงเรียน บาดเจ็บสาหัส รับการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาล วันที่ 11 ม.ค.2561 ยิงนายดอเลาะ สะไร หรืออับดุลเลาะห์ บิน อับดุลฮามีด วัย 62 อิหม่ามมัสยิดปูโปะจนเสียชีวิต ในวันที่ 19 ม.ค. 2561 มีคนร้ายลอบยิงนายยูโซ๊ะโต๊ะอิหม่าม หมู่ 16 บ้านคลองพน ตำบลนาทวี อำเภอนาทวี สงขลา ได้รับบาดเจ็บเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล
 

ความล้มเหลวของรัฐตลอดปี 2561ที่ไม่สามารถนำไอ้โม่งสังหารผู้นำศาสนาของเขา (ในวงน้ำชามีข่าวพูดหนาหูว่าคนของรัฐเป็นผู้อยู่เบื้องวิสามัญฆาตกรรมผู้นำศาสนาของเขา) จะเป็นแรงขับให้คามรุนแรงชายแดนภาคใต้เพิ่มขึ้นตามข้อกังวลของผู้เขียนที่ได้เขียนไว้ในมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 22 - 28 มิถุนายน 2561 (https://www.matichonweekly.com/special-report/article_112662) รวมทั้งคลิปที่เด็กที่อยู่ในบ้านคนร้ายถูกกระสุนลูกหลงจากรัฐ รวมทั้งกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของคนมลายูมุสลิมในเหตุการณ์ครูสตรีที่สอนศาสนาโดนรัฐจับ คลิปเด็กๆอนุบาลในโรงเรียนแห่งหนึ่งหวีดร้อง (ขอชีวิต) ท่ามกลางการปะทะของหน่วยความมั่นคงกับผู้ร้ายใกล้โรงเรียนเป็นตัวเร่งให้เหตุการณ์ร้ายนี้ประทุขึ้น
 

ข่าวการฆ่าพระครั้งนี้เป็นข่าวใหญ่ในสื่อไทยมากกว่าการฆ่าอิหม่ามหลายท่านก่อนหน้านี้ (อันนี้สื่อไทยจากส่วนกลางต้องยอมรับ) ถึงแม้คนมลายูมุสลิมไม่เห็นด้วยกับการฆ่าพระแต่รู้สึกน้อยใจเหมือนกันว่าส่วนใหญ่ของประเทศนี้ไม่ได้ยินเสียงของพวกเขาแม้กระทั่งพูดแดกดัน (ผ่านโลกเซียล) ถึงสำนักจุฬาราชมนตรีว่า “นี่ ถ้าพระไม่เสียชีวิต แถลงการณ์การประณามทั้งพระและอิหม่ามคงไม่ออก การช่วยเหลือและการเยี่ยมเยี่ยมทั้งสองฝั่งคงไม่ถึง” (ทั้งๆที่สำนักจุฬาราชมนตรีทำมาตลอดเพียงแต่ไม่ออกข่าวดังเหมือนครั้งนี้)

ไม่เพียงมุสลิมที่ทำงานสันติภาพในชุมชนเท่านั้นที่โดนแต่คนพุทธที่ทำงานสันติวิธี และกะบวนการสันติภาพก็โดนถล่มว่าไม่รักชาติและบลา บลา…โดยเฉพาะจากเพจIO ทั้งสองฝ่าย

ณรรธราวุธ เมืองสุข  ผู้เกาะสถาณการณ์ชายแดนใต้/ปาตานีตลอด 15 ปีให้ทัศนะผ่านเฟสบุ๊คพอสรุปได้ว่า “ไม่ได้เหนือความคาดหมาย เมื่อเกิดเหตุสังหารพระสงฆ์ที่สุไหงปาดี เพจ IO “ปฏิบัติการข่าวสาร (Information Operation ” ต่างๆ เอาไปขยายความต่อกันอย่างดุเดือดเผ็ดร้อน คนไทยจำนวนไม่น้อยตกสู่หลุมพรางของการสร้างความเกลียดชังทั้งโดยความพร้อมใจและไม่รู้เนื้อรู้ตัวกันจำนวนมากซึ่งมีโอกาสนำไปสู่ใบอนุญาตให้เกิดการกวาดล้าง จับกุม คุมขัง และฆ่าคนที่คิดเห็นแตกต่างจากตัวเองโดยไม่ยี่หระกับความบาป หรือมนุษยธรรม จริยธรรมใดๆ ทางศาสนา”

ปฏิเสธไม่ได้ว่า   “การต่อสู้ระหว่างรัฐและขบวนการเห็นต่างเปรียบเสมือนสงครามที่สร้างกระแสความรู้สึกได้อย่างชัดเจน”  โดยเฉพาะครั้งนี้มันยิ่งสร้างความรู้สึกว่ามลายูมุสลิม ไม่ได้รับความเป็นธรรมโดนรังแก ถูกเหมารวม ในขณะชนกลุ่มน้อยชาวพุทธมองว่ารัฐก็ไม่ให้ความเป็นธรรม ให้ท้ายมลายูมุสลิม เอาใจพวกเขาสารพัด ผิดแล้วยังเยียวยา สร้างบ้าน ให้อาชีพ ไม่ให้ใช้ไม่แข่งจัดการดังนั้นคนไทยและรัฐต้องคิดให้ไกล คิดให้รอบคอบ ไม่ตกหลุมพรางในสงครามความรู้สึกครั้งนี้

การสื่อสารสาธารณะให้คนไทยอดทนใช้สติในการแก้ปัญหาเช่นหมอสุภัทรในเพจท่าน (โปรดดู https://www.facebook.com/supathasuwannakit/) รวมทั้งผู้เขียนและอีกหลายท่านในโลกโซเซียลก็อาจจะถูกสาธารณะที่มีอารมณ์ร่วม (ความแค้น) ด่าว่าไม่รักคนไทย ส่วนอีกฝั่งก็กล่าวหาว่าไม่รักมลายูมุสลิมด้วยเช่นกัน

ปัญหานี้แล้วเราหรือรัฐจะบริหารสงครามความรู้สึกที่ชายแดนใต้อย่างไร

ภาพที่เห็นหลังเหตุการณ์จะเห็นภาพผู้นำพุทธ-มุสลิมยังเข้าใจกันดีและสามารถสานเสวนาได้ถึงแม้ผู้นำศาสนาพุทธ-มุสลิมโดนฆ่าแต่ทั้งสองจะยังสานต่อการสร้างสันติภาพด้วยศาสนธรรม ด้วยจรรยามารยาทเพื่อมนุษยชาติโดยเฉพาะทีมงานสำนักจุฬาราชมนตรีที่รุดเยี่ยมผู้นำศาสนาทั้งสองฝ่าย (โปรดดู https://www.youtube.com/watch?v=DfdjV7ODilI) ในขณะเดียวกันโจทย์ของรัฐต้องทำคู่กันอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมเพื่อเยียวยาทั้งพุทธและมุสลิมในภาวะความสัมพันธ์ยืนบนเส้นด้ายรวมทั้งต้องหาคนผิดทั้งฆ่าพระและโต๊ะอิหม่ามซึ่งต้องมาคิดกันว่าจะทำให้ความจริงให้ปรากฏทั้งสองฝ่ายตามกระบวนการยุติธรรมมาตรฐานสากล เป็นธรรม โปร่งใสมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน ใช้กระบวนการนิติวิทยาศาสตร์และตรวจสอบได้ (อย่าลืมไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ทุ่มงบประมาณมหาศาลที่ชายแดนใต้ว่ายังมี ยังใช้ได้ไหม) ในขณะที่ ควรระมัดระวังในการสั่งการจากผู้นำรัฐบาลว่าจะจัดการกับผู้ที่ฆ่าพระฝ่ายเดียวตามที่เป็นข่าว (โปรดดูhttp://www.krasaetai.com/2019/01/blog-post_31.html?m=1...)

ในขณะที่สื่อเองจะนำเสนอข่าวครั้งนี้อย่างไรเช่นกันที่จะไม่ทำให้ผู้คนทั้งสองฝ่ายรู้สึกว่าถูกสร้างความเกลียดชัง เหมารวม

การสื่อสาร เพื่อทำความเข้าใจ หาทางออกที่ลงตัว และสร้างความรู้สึกร่วม ซึ่งจะมีพลังและแก้ปัญหาที่สาเหตุ มากกว่าการแก้ที่อาการหรือแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่เป็นปลายเหตุ

นอกจากนี้ในอดีตตลอดความขัดแย้ง 15 ปีมีเรื่องใดบ้างเป็นเรื่องดีๆทั้งสองฝ่าย (พุทธ-มุสลิม) ควรนำเสนอให้มากๆ (โปรดดูhttps://www.youtube.com/watch?v=9xHIfTWkXeg&feature=youtu.be&fbclid=IwAR2iLV9xjd_aQF661qDBkmfNMrNgmkVOEUdsJkGZzDMkUkoZjrp6ST1jIh4)

เหล่านี้คือโจทย์ร่วมกันที่เราจะต้องช่วยกันบริหารความยุติธรรมด้านความรู้สึกในสงครามความรู้สึกชายแดนใต้   เพราะนี่คือ“ความรู้สึก” ของคนในภาวะเจ็บปวด เคียดแค้นและสะสมมานาน 15 ปี

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net