สมศักดิ์ เทพสุทินชี้แจงคลิปคนลุกหนีปราศรัย "พรรคพลังประชารัฐ" ที่มหาสารคาม คนถ่ายหวังดิสเครดิต เพราะมาถ่ายตอนใกล้เลิกกำหนดการหาเสียง ด้าน "พรรคเพื่อชาติ" เดินสายอีสานถึงสุรินทร์ ประกาศปักธงรบเอาชนะเผด็จการ เอาประชาธิปไตยคืนมา "จตุพร พรหมพันธุ์" เตือน พล.อ.ประยุทธ์ สืบทอดอำนาจอาจกลายเป็นการฆ่าตัวตายของเผด็จการ

สมศักดิ์ เทพสุทินเชื่อคลิปคนลุกหนีปราศรัยพรรคพลังประชารัฐเป็นการดิสเครดิต

กรณีเมื่อวันที่ 24 ม.ค. ที่สนามบ้านท่าสองคอน อ.ท่าสองคอน อ.เมือง จ.มหาสารคาม พรรคพลังประชารัฐนำโดย สมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์หาเสียงเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ เวียง วรเชฐ อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด สุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน อดีตแกนนำ นปช. และจุรีพร สินธุไพร อดีตแกนนำ นปช. แดงพัทยา และเป็นน้องสาวของสุภรณ์ ปราศรัยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พลังประชารัฐ ทั้ง 5 เขตของ จ.มหาสารคาม ได้แก่ เขต 1 นงลักษ์ ทุงจันทร์ เขต 2 สุขสวัสดิ์ บัวบาน เขต 3 เดชา ปัสสำราญ เขต 4 โกศล คาดพันโน และเขต 5 นคร อันปัญญา โดยสมศักดิ์ ได้ชูนโยบายประชาชนเรื่อง ส.ป.ก. เรื่องวัว และอ้อย พร้อมยืนยัน ส.ป.ก. ต้องเดินหน้าเป็นโฉนดให้สามารถเปลี่ยนมือได้นั้น

อย่างไรก็ตามมีคลิปการปราศรัยเผยแพร่ในโลกโซเชียลมีเดีย ว่าในช่วงท้ายมีประชาชนเดินลุกจากเก้าอี้ และมีนงลักษณ์ ทุงจันทร์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 มหาสารคาม พยายามเรียกให้ประชาชนกลับมาฟังปราศรัย โดยสาเหตุมีผู้ระบุว่าเป็นเพราะไม่พอใจที่มีแกนนำพรรคบางคนปราศรัยพาดพิงทักษิณ ชินวัตร และรัฐบาลพรรคเพื่อไทยนั้น (ชมคลิป)

ตอนหนึ่งนงลักษณ์ที่อยู่ระหว่างปราศรัยแนะนำว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พลังประชารัฐ จากจังหวัดใกล้เคียง จ.มหาสารคาม "อย่าเพิ่งรีบกลับพี่น้อง ยังไม่ทันหมดเวลา รักกันสุดๆ รักน้องจ๋า รักพี่ทนายอ๊อด รักพี่เดชา รักพี่โกศล รักอ้ายนคร อยู่ด้วยกันเสียก่อน คะพี่น้องขา กราบละค่ะ ไหว้ละค่ะ อยู่ด้วยกันเสียก่อน"

ขณะที่รายงานของ Voice TV วันนี้ (25 ม.ค.) เผยแพร่คำชี้แจงของสมศักดิ์ เทพสุทิน ชี้แจงว่าคลิปดังกล่าวเป็นการดิสเครดิตพรรคพลังประชาชน มีการกระทำแบบนี้เกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยใช้โจมตีว่าไม่มีคนมาฟังปราศรัย ทั้งนี้หลังกิจกรรมปราศรัย มีผู้สมัครบางคนต้องการพูดคุยกับชาวบ้าน โดยผู้ดำเนินรายการบนเวทีก็ร้องขอชาวบ้านให้ฟังต่อ แต่เวลาได้ล่วงเลยกำหนดการและเป็นช่วงพลบค่ำคนจึงบางตาเป็นปกติ ส่วนคนที่มาอัดคลิปนั้นตั้งใจที่จะมาตอนเลิกมาทำแบบนี้ทุกครั้งเพื่อจะดิสเครดิต

พรรคเพื่อชาติเดินสายอีสาน เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สุรินทร์

ที่มา:  ธนินท์ทัศน์ ภูแก้ว 

ส่วนบรรยากาศหาเสียงการเลือกตั้งวันนี้ (25 ม.ค.) ธนินท์ทัศน์ ภูแก้ว ผู้สื่อข่าว จ.สุรินทร์ รายงานว่าพรรคเพื่อชาตินำโดย สงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ ธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ  โฆษก นปช./กรรมการสรรหา พรรคเพื่อชาติ และคณะ เดินทางลงพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตามกำหนดการพรรคเพื่อชาติสัญจรระหว่าง 19 ถึง 26 มกราคม พร้อมทั้งเปิดสถาบันพัฒนาการเมือง ทั้งนี้มีจตุพร พรหมพันธุ์, ยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภา และยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก เป็นผู้ร่วมปราศรัยด้วย

โดยกำหนดการวันที่ 25 ม.ค. พรรคเพื่อชาติลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ โดยตอนบ่ายปราศรัยที่เทศบาลตำบลศีขรภูมิ อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ และ ปิดท้ายที่โรงสีคุณโรจนินทร์ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ทั้งนี้มีการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อชาติ จ.สุรินทร์ ได้แก่ เขต 2 นายสมชาย เกียรติคุณรัตน์ (หมอยา) เขต 3 นายพงศกร พันไหล เขต 4 นายโกวิฎ วัฒนกุล เขต 5 นายศุรวิษฐ ศิริพาณิชย์ศกุนต์ (หมอติ๊ก) เขต 6 นางยิ่งลักษณ์ ไชยศรีษะ และเขต 7 นายจันทร์ทอง ทนงตน

ยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภา กล่าวว่า ให้ประชาชนช่วยกันเทฝั่งที่เป็นเผด็จการลงถังขยะให้หมดก่อน ส่วนฝั่งประชาธิปไตยไม่ว่าจะเป็นพรรคไหนก็ตาม ก็ขอให้แยกแยะกันให้ออกว่า วันนี้ที่เราดำเนินการอยู่นี้ เนื่องจากรัฐธรรมนูญมันบีบบังคับ จากเผด็จการให้พรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้ง ในเขตในพื้นที่ ไม่เพียงพอที่จะรวมตัวกันแล้วได้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง ซึ่งมันยากอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นพรรคการเมืองต่างๆ ที่แยกตัวกันออกมานั้น พี่น้องประชาชนสามารถจะเลือกได้ ว่าอะไรที่เป็นประโยชน์สูงสุด

ส่วนจตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวว่า ต้องเข้าใจว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ การที่จะเดินไปถึง 376 เสียง ไม่ใช้เรื่องที่ง่ายในระบบบัตรเลือกตั้งใบเดียว พรรคเพื่อชาติตั้งขึ้นมาก็เพราะรู้ว่า ถ้าอยู่รวมกันก็จะได้เสียงไม่ถึงครึ่ง เพราะฉะนั้นการแยกออกมาจะทำให้เสียงถึงครึ่งของสภาผู้แทนราษฏร แม้ว่าจะไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล ถ้าฝ่ายสืบทอดอำนาจสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ เพราะเขาต้องการเสียงในสภาผู้แทนราษฏรเพียงแค่ 126 เท่านั้น แต่ว่าเวลาบริหารประเทศต้องอยู่กับสภาผู้แทนราษฏรสภาเดียวชนะก็ปกครองไม่ได้ ก็จะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ  ภารกิจของพรรคเพื่อชาติคือต้องหาทุกคะแนนเสียง เพื่อไปสมทบกับฝ่ายประชาธิปไตย และต้องคิดแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดว่า การเลือกฝ่ายประชาธิปไตยนั้นไม่ใช่การตัดคะแนนกัน แต่เป็นการเพิ่มคะแนนให้กัน เหมือนกับอีกซีกหนี่งเขาก็ไม่ปริปากพร่ำบ่น ว่า 5 พรรคการเมืองจะตัดคะแนนกัน เพราะสูตรการเลือกตั้งครั้งนี้ ต้องสู้กันอย่างเต็มที่ สำคัญที่ปลายทาง ในวันเลือกตั้ง 
 
จตุพรกล่าวด้วยว่า การจะอยู่หรือไปของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั้นคิดว่า พล.อ.ประยุทธ์น่าจะรู้ตัวเองดี  ไม่มีใครรู้ดีเท่ากับตัวของ พล.อ.ประยุทธ์เอง เพราะฉะนั้นจึงไม่วิตกเรื่องการสืบทอดอำนาจ เพราะไม่ใช่เรื่องง่าย เวลาคิดข้างเดียว มี 250 เสียง หาอีก 126 เสียง แต่มันปกครองไม่ได้ มันอยู่ไม่ได้ และต้องถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ เรื่องที่คนไม่รู้ก็จะกลายเป็นเรื่องที่คนไทยรับรู้กันทั้งหมด ยังเป็นวิบากอีกยาวไกล เพราะฉะนั้นการสืบทอดอำนาจคือการฆ่าตัวตายอย่างหนึ่งของเผด็จการ

เพื่อชาติปราศรัยช่วงค่ำประกาศปักธงรบเอาชนะเผด็จการ เอาประชาธิปไตยคืนมา

ส่วนช่วงค่ำ พรรคเพื่อชาติ นำโดยสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรค ดร.วิโชติ วัณโณ รองหัวหน้าพรรค ศักดา นพสิทธิ์ รองเลขาธิการ ดร.รยุศด์ บุญทัน รองโฆษกพรรค และคณะผู้บริหาร ได้เดินทางมาเวทีปราศรัยของลานอเนกประสงค์ริมถนนโชคชัย-เดชอุดม อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ โดยเป็นเวทีปราศรัยใหญ่บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักมีประชาชนนับหมื่นคนมาเฝ้ารอและให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น มีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครพรรคเพื่อชาติใน จ.สุรินทร์ 

ทั้งนี้ในการปราศรัยพรรคเพื่อชาติได้ประกาศปักธงรบขอพี่น้องชาวอีสานร่วมกันเอาชนะเผด็จการ แล้วนำประชาธิปไตยกลับคืนมา หวังว่านโยบายต่างๆ ที่พรรคจะแถลงข่าวที่ห้องอภิวรรณรัตนะชัย อิมพีเรียลลาดพร้าว ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 นี้ จะช่วยแก้ไขปัญหาความยากจน และทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็น นโยบายเงินช่วยเหลือผู้สูงวัย 2,000 บาทต่อเดือน และ นโยบาย 1 ตำบล 1 นักศึกษาแพทย์ เป็นต้น