Skip to main content
sharethis

เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ภาคเหนือ 16 จังหวัด 62 เขตเลือกตั้ง โดยเขต 1 เชียงใหม่ส่ง "พรชัย จิตรนวเสถียร" นายกสมาคมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ลงชิง ส.ส. ส่วน "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ยังมั่นใจชาวเหนือสนับสนุน รอบนี้พรรคมีนโยบายที่ตอบโจทย์ ที่ผ่านมาอาจแพ้รายเขต แต่ยังเชื่อมั่นได้คะแนนฐานเสียงพอสมควร ขณะที่วันจันทร์ที่ 28 ม.ค. กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์จะเคาะชื่อ 350 ผู้สมัครแบ่งเขต และ 150 ผู้สมัครบัญชีรายชื่อ


อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ, พรชัย จิตรนวเสถียร (ที่ 2 จากซ้าย) ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 เชียงใหม่ และ "แม่เลี้ยงติ๊ก" ศิริวรรณ ปราศจากศัตรู (ขวาสุด)


อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ถ่ายรูปคู่กับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เชียงใหม่

27 ม.ค. 2562 เช้าวันนี้อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และศิริวรรณ ปราศจากศัตรู หรือแม่เลี้ยงติ๊ก รองหัวหน้าพรรค ดูแลภาคเหนือ นำคณะผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค 62 เขตเลือกตั้งใน 16 จังหวัดภาคเหนือ พบปะประชาชนที่ จ.เชียงใหม่

ทั้งนี้กำหนดการตั้งแต่เวลา 09.00 น. หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และคณะเดินทางไปถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ มีศิริวรรณ ปราศจากศัตรู หรือ "แม่เลี้ยงติ๊ก" อดีต ส.ส.หลายสมัยของ จ.แพร่ และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลพื้นที่ภาคเหนือ เป็นผู้นำคณะของผู้สมัคร ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์กล่าวบทสวดสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์

ในโอกาสนี้อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังร่วมถ่ายภาพกับผู้สมัคร ส.ส. ในภาคเหนือทั้งภาพหมู่ และรายจังหวัด โดยใน จ.เชียงใหม่ พรรคประชาธิปัตย์ยังเปิดตัว พรชัย จิตรนวเสถียร นักธุรกิจและนายกสมาคมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ อดีตรองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่ โดยรอบนี้พรชัยมาเป็นแกนนำและลงสมัครชิงตำแหน่ง ส.ส.เขต 1 เชียงใหม่

โดยนอกจากพรชัยที่ลงเขต 1 เชียงใหม่ แล้ว ผู้สมัครลงชิงตำแหน่ง ส.ส. ในเชียงใหม่ได้แก่ วิวัฒน์ กิตติพรพานิช เขต 2, วีระวุฒิ เทพเรือง เขต 3, ดร.กัลยา แก้วมา เขต 4, ว่าที่ ร.ท.วิศธร เถาตระกูล เขต 5, วิศิษฎ์ วัชรินทร์ เขต 6, พรเลิศ ก๋าวินจันทร์ เขต 7, วรณัน อ้นท้วม เขต 8 และนวพล คีรีรักษ์สกุล เขต 9


อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ถ่ายรูปร่วมกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พิษณุโลก โดย นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 พิษณุโลก อดีตผู้ท้าชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมถ่ายภาพอยู่ซ้ายสุด


อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และสมบัติ ยะสินธุ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จ.แม่ฮ่องสอน ในการเลือกตั้งปี 2554 ทั้งนี้ในช่วงถ่ายภาพมีแกนนำพรรคแซวว่า "ยกจังหวัด ยกจังหวัด"

นอกจากนี้ยังถ่ายรูปร่วมกับผู้สมัคร ส.ส.พิษณุโลก โดยมี นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ที่เคยลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กับนายอภิสิทธิ์ ทั้งนี้ นพ.วรงค์ จะลงสมัครในพื้นที่เขต 1 จ.พิษณุโลก

ทั้งนี้ในช่วงถ่ายภาพหมู่ บรรดาแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ได้กล่าวแซวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. จากแม่ฮ่องสอน และตากว่า "ยกจังหวัด ยกจังหวัด" เนื่องจากในการเลือกตั้งปี 2554 พรรคประชาธิปัตย์ชนะเลือกตั้งยกจังหวัดภาคเหนือ 2 จังหวัดดังกล่าว

ด้านอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวโดยตัวเขาเชื่อว่าพี่น้องชาวเหนือจะให้โอกาสพรรคประชาธิปัตย์มากขึ้น เมื่อดูจากฐานคะแนนที่มีประชาชนสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์เป็นจำนวนมาก และมั่นใจนโยบายที่จะตอบโจทย์ปัญหาของประชาชน โดยคาดว่าพรรคจะมีโอกาสชนะมากขึ้น ส่วนความเป็นไปได้ในการชนะเลือกตั้งรายเขตที่ จ.เชียงใหม่ อภิสิทธิ์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์มีโอกาสรับใช้ชาวเชียงใหม่มาหลายครั้ง แม้ว่าจะแพ้ไป แต่ก็มีฐานเสียงที่สนับสนุนมากพอสมควร และครั้งนี้คิดว่าโจทย์ของประเทศและปัญหาของประชาชน พรรคของเขามีคำตอบที่ดีที่สุด

ต่อมาคณะผู้สมัคร ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ มาพบกับประชาชนที่พุทธสถาน ถ.ท่าแพ จ.เชียงใหม่ เพื่อเปิดนโยบายแก้ปัญหาความยากจน แก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง การประกันรายได้มีส่วนต่าง

โดยอภิสิทธิ์ ปราศรัยเปิดนโยบายพรรค ตอนหนึ่งกล่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์ผูกพันกับพี่น้องชาวเหนือและคนไทยทั้งประเทศมา 70 กว่าปี 5 ปีที่ผ่านมา พี่น้องประชาชนไม่มีผู้แทนราษฎรมาดูแลปัญหาทำให้เสียงของประชาชนส่งไปไม่ถึงคนทำงานจึงส่งผลให้เศรษฐกิจแย่ การเลือกตั้งครั้งนี้จะต้องทำให้ทุกคนหลุดพ้นจากความทุกข์ที่รอกันมา 5 ปี และจะไม่วนเวียนอยู่กับการเลือกตั้งแล้วปฏิวัติ เพราะผลกระทบจtตกที่ประชาชน โดยเฉพาะเกษตรกรที่ยากจนลง ส่งผลถึงพ่อค้าแม่ค้านักธุรกิจเดือดร้อน ดังนั้นหลังการเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์จะทำงานใน 3 ด้านคือ ‘แก้จน สร้างคน สร้างชาติ’

แก้จน หมายถึง การสานต่อบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มจาก 500 บาทเป็น 800 บาท กดเงินสดออกมาใช้ได้โดยไม่ต้องไปผ่านร้านค้าธงฟ้า, นโยบายโฉนดสีฟ้า ต่อยอดจากนโยบายโฉนดชุมชน ให้ประชาชนมีความมั่นคงในที่ดินทำกิน มีโฉนดภายใน 4 ปี ที่ดิน สปก. เอาไปใช้เป็นหลักประกันในการกู้ยืมเงินเพื่อลงทุนทำมาหากินได้ เพราะ 4 ปีที่ผ่านมารัฐบาลใช้ ม.44 ให้ใช้ที่ดินสาธารณะทำเหมืองหรือผลิตพลังงาน แต่ไม่ช่วยเหลือเกษตรกร, กองทุนน้ำชุมชน ให้ชุมชนบริหารจัดการขุดแหล่งน้ำและกระจายน้ำเข้าสู่ไร่นา, ระบบประกันภัยพืชผลจากภัยธรรมชาติ และตั้งเป้าหมายราคาพืชผลการเกษตรทุกตัว, เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำมากกว่า 120,000 บาทต่อปี, เพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเป็น 1,000 บาทต่อปี, เพิ่มเงิน อสม. 1,000 บาทต่อปี อภิสิทธิ์ ยืนยันว่านโยบายจะต้องมีที่มาของเงิน และไม่ทำให้บ้านเมืองล้มละลาย ขณะเดียวกันประชาชนที่เข้าหลักเกณฑ์จะต้องได้รับสิทธิ์นี้อย่างทั่วถึง

2. สร้างคน โดยนโยบาย 'เกิดปั๊บ รับแสน' ให้เงินเด็กแรกเกิด 5,000 บาทและจ่ายให้ทุกเดือน เดือนละ 1,000 บาท จนกว่าจะถึง 8 ขวบ, ปรับปรุงศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก, เพิ่ม 10 วันลาคลอดให้นานขึ้น, อาหารเช้าและอาหารกลางวันฟรีจนถึงมัธยมศึกษา, เรียนฟรีจนถึงชั้น ปวส. และส่งเสริมการศึกษาสายอาชีพให้เชื่อมโยงกับเอกชนเพื่อให้จบแล้วมีงานทำทันที, แจกคูปองเพิ่มทักษะ 3,500 บาทจำนวนหนึ่งล้านคนต่อปี เช่น การเรียนภาษา

3.สร้างชาติ เร่งปราบปรามยาเสพติด ยอมรับว่าการแพร่ระบาดของยาเสพติดมีคนของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องรู้เห็นด้วย จึงเพิ่มอำนาจ ปปส. ให้ส่งฟ้องไปยังอัยการได้เอง โดยไม่ต้องพึ่งตำรวจ, ให้ประชาชนเลือกผู้ว่าราชการจังหวัดได้ด้วยตนเอง, และยกระดับจังหวัดเชียงใหม่ให้เป็นศูนย์กลางอารยธรรมล้านนามหานครเพื่อให้ประชาชนมีรายได้จากการท่องเที่ยว ไม่ถูกครอบงำจากนายทุนจนสูญเสียความเป็นตัวเอง

อภิสิทธิ์กล่าวว่าหลังตั้งรัฐบาลแล้วประชาชนจะมีอำนาจในการตรวจสอบผู้แทนราษฎร, รัฐบาลและนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่เป็นนายกรัฐมนตรีแล้วออกทีวีดุคนอื่นตลอดเวลา

จากนั้น นายอภิสิทธิ์ พร้อมแกนนำพรรค และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เดินพบปะประชาชนที่ตลาดวโรรส สักการะศาลเจ้าเชียงใหม่ 200 ปี และในช่วงบ่ายจะพบปะกับคนรุ่นใหม่พรรคประชาธิปัตย์ที่ศูนย์ประสานงานเขต 1 ก่อนขึ้นรถแห่รอบคูเมืองและเดินถนนคนเดินท่าแพ โดยมีประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้ามาขอถ่ายรูปจำนวนมาก

จากนั้นคณะผู้สมัคร ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ นำโดยอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไปพบประชาชนที่ตลาดวโรรส พร้อมสักการะศาลเจ้าปุงเถ่ากงเพื่อความเป็นศิริมงคลในช่วงใกล้เทศกาลตรุษจีน นอกจากนี้ในช่วงเย็นจะไปที่ถนนคนเดิน ย่านประตูท่าแพ จ.เชียงใหม่ ก่อนนำคณะเดินทางกลับ

ขณะที่เมื่อวานนี้ (26 ม.ค.) ประชาชาติธุรกิจ รายงานว่า อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เดินทางไปที่โรงแรมเจบี อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อมอบนโยบายและร่วมสัมมนากฎหมายเลือกตั้งกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 50 เขตเลือกตั้งในภาคใต้ ในรายงานของประชาชาติธุรกิจ พรรคประชาธิปัตย์เน้นนโยบายด้านเศรษฐกิจหลักในพื้นที่ภาคใต้ ทั้งปาล์ม ยาง ประมง ท่องเที่ยว และแนวทางการแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมเตรียมการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในภาคใต้ เพื่อประกาศปฏิญญาทุ่งสง ที่อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์นี้

นอกจากนี้ในเว็บไซต์พรรคประชาธิปัตย์ ธนา ชีรวินิจ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่าในวันที่ 28 ม.ค. นี้ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์จะประชุมอนุมัติผู้สมัคร ส.ส. แบบเขต 350 คน และผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ 150 คน ให้เสร็จสิ้น และจะได้มีการพิจารณาอนุมัติบัญชีนายกรัฐมนตรี โดยยืนยันว่าจะมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นบัญชีนายกรัฐมนตรีของพรรคฯ

ธนายังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันที่ 1 ก.พ. 2562 ทางพรรคประชาธิปัตย์ได้จัดการปฐมนิเทศ และอบรมเกี่ยวกับนโยบาย และแนวทางในการหาเสียงสำหรับผู้สมัคร ส.ส.แบบเขต และบัญชีรายชื่อทั้ง 500 คน ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ เพื่อให้มีความชัดเจนในการหาเสียง ทางพรรคได้เชิญเจ้าหน้าที่ กกต. มาอบรมและบรรยาย เพื่อที่จะได้เปิดโอกาสให้ทางผู้สมัคร ส.ส. ได้สอบถามถึงปัญหาที่ยังคิดว่าไม่ชัดเจน เพื่อเป็นแนวทางที่ถูกต้องต่อไป ส่วนในระหว่างนี้ทางหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้กำชับให้ผู้สมัครทุกท่านไปอ่าน และทำความเข้าใจเกี่ยวกับระเบียบในการเลือกตั้งต่างๆ ของ กกต. ให้ชัดเจน  และหากมีอะไรที่ไม่ชัดเจนจะมีคณะกรรมการด้านกฎหมายของพรรคที่พร้อมที่จะชี้แจง และตอบปัญหาตลอดเวลา

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net