Skip to main content
sharethis

อธิบดีอัยการต่างประเทศระบุบาห์เรนยื่นเรื่องขอส่งตัวฮาคิมเป็นผู้ร้ายข้ามเเดนเเล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการยื่นคำร้องต่อศาลหรือไม่ภายในสัปดาห์หน้า แต่ยืนยันไม่ว่าผลลัพธ์อย่างไร ฝ่ายบริหารมีสิทธิตัดสินในขั้นสุดท้ายเพราะเป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

ฮาคีม อัล อาไรบี (ที่มาภาพ:gofundme.com)

31 ม.ค.2531 เว็บไซต์มติชน รายงานว่า นายชัชชม อรรฆภิญญ์ อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ ได้กล่าวถึงความคืบหน้า หลังจากที่พนักงานอัยการสำนักงานต่างประเทศยื่นคำร้องขออนุญาตศาลฝากขังนายฮาคีม อัล อาไรบี อายุ 25 ปี ชาวบาห์เรน ผู้ลี้ภัยและอดีตนักฟุตบอลทีมชาติบาห์เรน เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.2561 ตามหมายจับส่งผู้ร้ายข้ามแดน  ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรออัยการยื่นคำร้องขอศาลไต่สวนว่าจะส่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับไปดำเนินคดีที่ประเทศบาร์เรนหรือไม่

นายชัชชมกล่าวว่า ขณะนี้ทางอัยการได้รับคำร้องจากประเทศบาร์เรนในการขอให้ส่งตัวนายฮาคีมเป็นผู้ร้ายข้ามเเดนแล้ว ทางอัยการกำลังพิจารณาอยู่ว่าคำร้องของประเทศบาร์เรนว่าจะเข้าหลักเกณฑ์ตาม พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามเเดนของประเทศไทยหรือไม่ ถ้าพิจารณาเเล้วเห็นว่าเข้าหลักเกณฑ์ที่จะส่งผู้ร้ายข้ามเเดนไปให้บาร์เรน จะต้องยื่นเรื่องภายใน 60 วัน นับเเต่วันที่ศาลมีคำสั่งให้ฝากขัง ซึ่งจะตรงกับช่วงสัปดาห์หน้า เเต่ถ้าพิจารณาเเล้วว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์เราก็จะไม่ยื่นคำร้อง เมื่อครบกำหนดฝากขัง 60 วันศาลก็จะต้องปล่อย หรือเราอาจจะยื่นคำร้องต่อศาลว่าทางอัยการพิจารณาเเล้วไม่เข้าหลักเกณฑ์ศาลก็ปล่อยตัวนายฮาคิมเป็นอิสระ

ส่วนกรณีที่นางนะคา เซไตฮ์ ภรรยานายฮาคิมได้ส่งผู้รับมอบอำนาจยื่นหนังสือต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลไทยส่งตัวนายฮาคิมไปยังประเทศออสเตรเลียที่ได้รับสถานะผู้ลี้ภัยโดยอ้างหลักมนุษยธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศซึ่งประเทศไทยมีพันธกรณีร่วมอยู่ด้วยนั้นจะสามารถทำได้หรือไม่ หากอัยการมีการยื่นคำร้องต่อศาลไปเเล้ว

นายชัชชม กล่าวว่า หากฝ่ายบริหารโดยนายกรัฐมนตรีมีความเห็นว่าไม่ควรส่งนายฮาคิมเป็นผู้ร้ายข้ามเเดนตามคำร้องขอของประเทศบาห์เรน ถ้าอัยการมีความเห็นว่าเข้าเกณฑ์ส่งผู้ร้ายข้ามเเดนเเละยื่นคำร้องต่อศาลไปเเลัว ทางอัยการก็คงจะต้องถอนคำร้องขอต่อศาลดังกล่าวออกมา กรณีที่หากเรายื่นไปเเละศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้ขังไว้เพื่อส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามเเดนต่อไปเเล้ว ฝ่ายบริหารก็ยังมีอำนาจที่จะไม่ส่งไปยังประเทศที่ร้องขอไว้ได้ เพราะเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามเเดนมีประเด็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอยู่ด้วย ฝ่ายบริหารมีอำนาจตามกฎหมายตรงนี้

สำหรับ Hakeem หรือ ฮาคีม อัล-อราบี นั้น อดีตนักฟุตบอลทีมชาติบาห์เรนขณะเดินทางมาเที่ยวกับภรรยาที่ประเทศไทยเมื่อ 27 พ.ย. 2561 เขากลับถูกคุมขัง ทั้งที่ฮาคีมได้รับการรับรองและคุ้มครองในฐานะผู้ลี้ภัยโดยรัฐบาลออสเตรเลียแล้ว โดยศาลอาญาได้ฝากขังฮาคีมเป็นเวลา 60 วันนับตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค. 2561 โดยมีองค์กรสิทธิมนุษยชน และองค์กรกีฬานานาชาติแสดงความกดดันต่อทางการไทยมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้ส่งตัวเขากลับบาห์เรน

อย่างไรก็ตาม นายฮาคีมนั้นมีหมายจับแดงของตำรวจสากล หรืออินเตอร์โพล ฐานทำลายทรัพย์สินของประเทศบาห์เรน ในความผิดตามกฎหมายของประเทศบาห์เรน ในความผิดฐาน

1.ลอบวางเพลิงสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดอันตรายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
2.ชุมนุมโดยมิชอบด้วยกฎหมาย (มากกว่า 5 คน) ในสถานที่สาธารณะและใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อวัตถุประสงค์ในการก่ออาชญากรรมและก่อกวนความสงบเรียบร้อยของประชาชน
3.ครอบครองวัตถุไวไฟ (ระเบิดขวด) เพื่อวัตถุประสงค์ในการก่ออันตรายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
4.ทำให้รถยนต์ส่วนบุคคลของผู้อื่นเสียหาย ซึ่งนายฮาคิมให้การปฏิเสธมาตลอดว่าข้อกล่าวหาที่มีการกล่าวหานายฮาคิมในขณะวันเวลาที่เกิดเหตุเป็นช่วงที่ทำการแข่งฟุตบอลอยู่

ฮาคีมลี้ภัยไปอยู่ออสเตรเลียตั้งแต่ปี 2557 ได้รับสถานะผู้ลี้ภัยจากรัฐบาลปลายทางให้อาศัยในออสเตรเลียได้ไม่จำกัดเวลา หลังเขาถูกทางการบาห์เรนจับกุมตัวและทรมานในปี 2555 เนื่องจากสมาชิกในครอบครัวเคยเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองต่อต้านรัฐบาล หลังจากนั้นเขาก็ออกมาพูดเรื่องการถูกทรมานอย่างเปิดเผย แต่เขาถูกจับโดยหมายแดงขององค์การตำรวจนานาชาติหรือ INTERPOL หลังเดินทางจากนครเมลเบิร์น ออสเตรเลียมายังสนามบินสุวรรณภูมิเมื่อ 27 พ.ย. ที่ผ่านมา

การถูกจับตัวโดยหมายจับของตำรวจนานาชาติถูกตั้งคำถามโดยองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนฮิวแมนไรท์วอทช์ เนื่องจากหมายแดงของ INTERPOL ไม่สามารถใช้กับผู้ที่ได้รับการยืนยันสถานะเป็นผู้ลี้ภัย ทั้งนี้ในกรณีของผู้ลี้ภัย หมายแดงของ INTERPOL ไม่สามารถนำมาใช้กับผู้ลี้ภัยที่มีสถานะต่อไปนี้ (อ้างอิงจาก fairtrials.org)

  1. ผู้ที่ได้รับการรับรองสถานะเป็นผู้ลี้ภัยแล้ว
  2. การร้องขอหมายมาจากประเทศที่ผู้ลี้ภัยกลัวจะได้รับการกลั่นแกล้ง
  3. การร้องขอสถานะผู้ลี้ภัยไม่ได้อยู่นฐานเรื่องการเมืองเพื่อพิจารณาจากประเทศที่ขอสถานะ

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net