Skip to main content
sharethis

ศรีสุวรรณลุยเมืองเก่าสุโขทัยล่า 2 หมื่นชื่อถอดถอน 5 ป.ป.ช. กรณีวินิจฉัยเชื่อว่านาฬิกาหรูทั้ง 20 กว่าเรือนของ พล.อ.ประวิตร พร้อม ชวนประชาชนที่เจ็บป่วยจากฝุ่นพิษ ฟ้อง 'ประยุทธ์' เรียกค่าเสียหาย

3 ก.พ.2562 ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า วันนี้ได้เดินทางมายังเมืองเก่าสุโขทัย เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้มีโอกาสได้เข้าชื่อร่วมถอดถอน 5 กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีวินิจฉัยเชื่อว่านาฬิกาหรูทั้ง 20 กว่าเรือนของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นนาฬิกาที่ยืมมาจากเพื่อที่ตายแล้วจริง ทั้ง ๆ ที่มีข้อพิรุธและข้อสงสัยมากมาย ผิดวิสัยการไต่สวนและสอบสวนที่เป็นมาตรฐานสากลทั่วไป

เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ระบุด้วยว่า การเดินทางมาสุโขทัยในครั้งนี้ได้รับการตอบรับจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งอย่างล้นหลาม โดยที่สมาคมฯไม่จำเป็นต้องอธิบายความมาก เพียงแค่เอ่ยคำถามว่าเชื่อหรือไม่ที่ 5 ป.ป.ช.วินิจฉัยว่า นาฬิกา พล.อ.ประวิตร  เป็นของเพื่อนที่ตายแล้ว ทุกคนกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า “ไม่เชื่อ” และพร้อมที่จะมีส่วนร่วมเป็นหนึ่งใน 2 หมื่นชื่อที่จะใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ ม.236 ประกอบ ม.234(1) ในการยื่นข้อกล่าวหาต่อประธานรัฐสภาและประธานศาลฎีกาเพื่อตั้งคณะผู้ไต่สวนอิสระจากผู้ที่มีความเป็นกลางทางการเมืองและมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์เพื่อไต่วนหาข้อเท็จจริงและนำไปสู่การถอดถอน 5 ป.ป.ช. เพื่อรักษาบรรทัดฐานการกราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบต่อไป

ศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า ชาวสุโขทัยจำนวนมากต่างทยอยกันมาเข้าชื่อพร้อมถือบัตรประชาชนกันมาอย่างพร้อมเพียงและต่างขอบคุณสมาคมฯ ที่เปิดโอกาสให้คนสุโขทัยได้มีโอกาสใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ ซึ่งสมาคมฯได้แจ้งว่าจะเดินทางไปยังจังหวัดต่าง ๆ ตามความเหมาะสมโดยประสานกับแกนนำและเครือข่ายของสมาคมฯในแต่ละจังหวัดทั่วประเทศต่อไป

ทั้งนี้รายชื่อ 5 ป.ป.ช.ที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้าชื่อ 2 หมื่นรายชื่อเพื่อยื่นกล่าวหาตาม ม.236 ประกอบด้วย 1) ปรีชา เลิศกมลมาศ 2) ณรงค์ รัฐอมฤต 3) วิทยา อาคมพิทักษ์ 4) สุรศักดิ์ คีรีวิเชียร และ 5) พล.อ.บุณยวัจน์ เครือหงส์

ชวนประชาชนที่เจ็บป่วยจากฝุ่นพิษ ฟ้อง 'ประยุทธ์' เรียกค่าเสียหาย

ขณะทีเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา ศรีสุวรรณ ยังออกแถลงการณ์สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เชิญชวนประชาชนที่เจ็บป่วยจากฝุ่นพิษ มีสิทธิฟ้องนายกฯเรียกค่าเสียหายได้  โดยระบุว่า ตามที่เกิดวิกฤตการณ์ปัญหาการแพร่กระจายของ “ฝุ่นพิษ” เกินมาตรฐาน 50 ไมโครกรัม/ ลบ.ม.ครอบคลุมพื้นที่ กทม.และต่างจังหวัดมาอย่างต่อเนื่องหลายสัปดาห์ และยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลงหรือหายไปได้ โดยที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐโดยเฉพาะนายกรัฐมนตรียังไม่กล้าตัดสินใจในการใช้มาตรการที่เด็ดขาด ตามมาตรา 9 แห่ง พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม 2535 ได้

เหตุดังกล่าวขณะนี้ได้ก่อให้เกิดผลกระทบและเป็นภยันตรายต่อสาธารณชนอย่างรุนแรงและกว้างขวาง หลายคนต้องเจ็บป่วย เป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ภูมิแพ้ ตาอักเสบ ฯลฯ ต้องเสียเงินเป็นค่ารักษาพยาบาล ค่าจัดซื้อจัดหาหน้ากากอนามัยมาป้องกันตัวมากมาย รวมทั้งบริษัทห้างร้านหลายแห่งต้องสั่งหยุดงาน สถานศึกษาต้องปิดชั่วคราว ฯลฯ

แต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามาตรการแก้ไขปัญหาของนายกรัฐมนตรีกลับเป็นวิธีการที่เบาหวิว ไม่มีประสิทธิผลที่จะเป็นการแสดงออกถึงการมีศักยภาพในการแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษได้เลย และเป็นเพียงการสร้างภาพไปวัน ๆ เท่านั้น เช่น การใช้เครื่องพ่นน้ำดับฝุ่น การใช้โดรนดับฝุ่น หรือการให้ตึกสูงพ่นละอองน้ำ เป็นต้น ทั้ง ๆ ที่ปัญหาหลักคือ การเผาอ้อย เผาซังข้าว เผาขยะ ไอเสียจากยานยนต์ และปล่องควันจากโรงไฟฟ้าและโรงงานอุตสาหกรรม โดยที่ยังไม่ปรากฎว่านายกรัฐมนตรีจะมอบอำนาจให้ผู้ว่าราชการจังหวัดปฏิบัติราชการภายในเขตจังหวัดแทนนายกรัฐมนตรีได้ โดยให้ทำเป็นคำสั่ง และประกาศในราชกิจจานุเบกษาแต่อย่างใด

ด้วยเหตุดังกล่าว แถลงการณ์ของ ศรีสุวรรณ ระบุว่า หากประชาชนผู้ใดที่ได้รับผลกระทบ เสียหายและเจ็บป่วยจากการละเลยการปฏิบัติหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีหรือการปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าเกินสมควร มีสิทธิตามกฎหมายในประมวลกฎหมายแพ่ง มาตรา 420 ประกอบมาตรา 96 แห่ง พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม 2535 ในการยื่นฟ้องศาลปกครองเพื่อเรียกค่าเสียหายเอากับนายกรัฐมนตรีได้ โดยสามารถสามารถเขียนคำร้องและยื่นฟ้องได้โดยตรงที่ศาลปกครองกลาง หรือศาลปกครองต่างจังหวัดในเขตที่มีอำนาจใกล้บ้านท่าน โดยไม่จำเป็นต้องมีทนายความแต่อย่างใด หากต้องการคำแนะนำเพื่อดำเนินการดังกล่าวสามารถมอบอำนาจให้สมาคมฯดำเนินการแทนได้โดยติดต่อสมาคมฯได้ที่เวปไซด์ www.thaisgwa.com หรือทางเฟสบุ๊คใน Inbox ของศรีสุวรรณ จรรยา หรือโทร.02-152-8568 โทรสาร 02-152-8569 โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net