‘ประยุทธ์’ ชี้กรณี ‘ฮาคีม’ อยู่ระหว่างกระบวนการยุติธรรม รบ.ไม่แทรกแซงฝ่ายตุลาการ

ขณะที่พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดนระบุ หากคำร้องกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ให้ครม.พิจารณาได้ ด้านกรมราชทัณฑ์แจง ‘ฮาคีม’ ใส่กุญแจเท้าตามกม. ไม่ใช่ตรวน ย้ำทำตามหน้าที่ ให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษชน

(กลาง ใส่ตรวน) ฮาคีม อัล อาไรบี (ที่มา: Banrasdr Photo)

‘ประยุทธ์’ ชี้กรณี ‘ฮาคีม’ อยู่ระหว่างดำเนินการกระบวนการยุติธรรม รบ.ไม่อาจแทรกแซงฝ่ายตุลาการ

5 ก.พ. 2562 วันนี้ เว็บไซต์รัฐบาลไทยระบุว่า เวลา 13.30 น. ณ บริเวณห้องโถง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีกรณีที่มีกระแสข่าวต้องการให้ทางการไทย ปล่อยตัว ฮาคีม อัล-อาไรบี นักฟุตบอลชาวบาห์เรนซึ่งได้รับสถานะผู้ลี้ภัยในออสเตรเลีย ให้เดินทางไปยังประเทศออสเตรเลีย ว่า กรณีดังกล่าวอยู่ในช่วงดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งรัฐบาลไม่สามารถแทรกแซงฝ่ายตุลาการ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีไม่อยากให้รีบตัดสินใจไปก่อนการพิจารณาของศาล พร้อมระบุว่ากรณีดังกล่าวไม่ได้เป็นประเด็นทางการเมือง ในขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการประสานกับทางการของประเทศออสเตรเลียและบาห์เรน เพื่อที่จะทำให้กรณีดังกล่าวเป็นไปในทิศทางที่ดี  ในขณะเดียวกัน ที่มีกระแสแฮชแท็ก #BoycottThailand นายกรัฐมนตรี ระบุว่า รัฐบาลได้เตรียมการรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวเพื่อไม่ให้กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งออสเตรเลียและบาห์เรน อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนติดตามกรณีดังกล่าวต่อไป

 

พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดนระบุ หากคำร้องกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ให้ครม.พิจารณาได้

ขณะที่ใน พ.ร.บ. ส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ.2551 มาตรา 13 (2) ระบุว่า (๒) หากเห็นว่าคำร้องขอดังกล่าวอาจกระทบกระเทือนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือมีเหตุผลอื่นที่ไม่อาจดำเนินการให้ได้ ก็ให้กระทรวงการต่างประเทศเสนอความเห็นนั้นพร้อมด้วยคำร้องขอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยเร็ว ในกรณีที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบต่อความเห็นดังกล่าวของกระทรวงการต่างประเทศ ให้พิจารณาสั่งการตามที่เห็นสมควร หากคณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้ดำเนินการส่งผู้ร้ายข้ามแดนตามคำร้องขอ ก็ให้กระทรวงการต่างประเทศส่งเรื่องให้ผู้ประสานงานกลางดำเนินการต่อไปตามพระราชบัญญัตินี้

 

กรมราชทัณฑ์แจง ‘ฮาคีม’ ใส่กุญแจเท้าตามกม. ไม่ใช่ตรวน ย้ำทำตามหน้าที่ ให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษชน

ขณะเดียวกันวันนี้เวิร์คพอยท์นิวส์รายงานว่า พันตำรวจเอก ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ตามที่สื่อมวลชนเผยแพร่ภาพและข่าวให้เข้าใจว่า ฮาคีม อัล – อาไรบี อดีตนักฟุตบอลทีมชาติบาห์เรน ถูกใส่ตรวน ขณะไปขึ้นศาลเพื่อขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน นั้น กรมราชทัณฑ์ ขอชี้แจงว่า กรณีดังกล่าว เป็นกุญแจเท้าไม่ใช่ตรวนอย่างที่เข้าใจกัน ซึ่งเป็นระเบียนขั้นตอนปกติที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์สามารถกระทำได้ตาม พ.ร.บ ราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 มาตรา 21 ข้อ (4) ความว่า “เมื่อผู้ต้องขังถูกคุมตัวไปนอกเรือนจำและเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้มีหน้าที่ควบคุมเห็นเป็นการสมควรที่จะต้องใช้เครื่องพันธนาการ”  ซึ่งให้อำนาจเจ้าหน้าที่เรือนจำในการพิจารณาใส่เครื่องพันธนาการเป็นเรื่องที่ผู้ควบคุม เห็นแล้วว่าผู้ต้องขังรายนี้เป็นที่สนใจของสังคม และมีความเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เจ้าหน้าที่จึงพิจารณาเห็นสมควรใส่กุญแจข้อเท้า ซึ่งเป็นพันธนาการอย่างหนึ่งตามกฎหมาย

อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวอีกว่า งานราชทัณฑ์เป็นงานสุ่มเสี่ยงที่จะถูกมองว่า เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งใคร่ขอชี้แจงต่อสังคมว่า เรามีหน้าที่ควบคุมและเคลื่อนย้ายนักโทษ และผู้ต้องขังที่ถูกจำกัดอิสรภาพ หรือถูกคุมขังไว้ตามอำนาจศาล หรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปอย่างราบรื่นเรียบร้อย มิให้มีการแหกหักหลบหนี จะปล่อยให้เดินลอยชายตามใจคงไม่สามารถทำได้ เนื่องจากหากผู้ต้องขังหลบหนีระหว่างการควบคุมก็จะเป็นภัยต่อสังคม และเจ้าหน้าที่ก็จะถูกตั้งกรรมการสอบ ข้อหาละเว้น หรือละเลย ดังนั้น เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ โดยพิจารณาจากกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้อง ตลอดจน พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 ซึ่งได้ให้ความสำคัญกับเรื่องสิทธิมนุษยชนเพิ่มมากขึ้นอยู่แล้ว

 

อนึ่ง ฮาคีม อัล-อาไรบี ได้รับสถานะผู้ลี้ภัยจากออสเตรเลีย สามารถอาศัยในออสเตรเลียได้ไม่จำกัดเวลา หลังเขาหลบหนีการถูกทางการบาห์เรนจับกุม ทรมานและถูกตั้งข้อหาลับหลังเพราะสมาชิกในครอบครัวเคยเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองต่อต้านรัฐบาล เขาถูกจับที่ไทยเพราะมีหมายแดงขององค์การตำรวจนานาชาติหรือ INTERPOL เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2562 แต่ปัจจุบันหมายดังกล่าวถูกถอนแล้วตามระเบียบเรื่องการไม่ออกหมายต่อผู้ลี้ภัยที่ได้รับการรับรองสถานะแล้ว

ล่าสุดวันที่ 4 ก.พ. 2562 ที่ศาลอาญารัชดา ศาลนัดสอบคำให้การคดีฮาคีม อัล อาไรบี โดยศาลได้อ่านคำร้องของอัยการที่เห็นพ้องให้ส่งฮาคีมกลับไปยังราชอาณาจักรบาห์เรน โดยอ้างว่าจำเลยเป็นผู้ต้องสงสัยของสำนักงานอัยการและศาลบาห์เรน เนื่องจากทำผิดกฎหมายบาห์เรนที่มีโทษจำคุก 10 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ

หลังจากนั้น ทีมทนายความจำเลย (ฮาคีม) ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นคำคัดค้านการส่งตัวข้ามแดนไปยังบาห์เรนไปอีก 60 วัน เนื่องจากเพิ่งได้รับสำเนาคำร้องและเอกสารประกอบจากทางอัยการในวันนี้ และยังต้องเตรียมเอกสารจากต่างประเทศทั้งจากบาห์เรนและออสเตรเลีย ซึ่งมีทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาอาหรับและภาษาไทย จึงต้องใช้เวลาศึกษาและแปลเอกสาร

 

มีมนุษย์ในฟุตบอล: ต่างชาติกดดันไทยขังแข้งบาห์เรนลี้ภัย ขอแฟนบอลร่วมยืนหยัด

ศาลอ่านคำร้องส่ง 'ฮาคีม' กลับบาห์เรน นัดทนายส่งคำคัดค้าน-พิสูจน์หลักฐาน เม.ย. นี้

 

ก่อนหน้านี้กระทรวงการต่างประเทศของไทย ได้มีแถลงชี้แจงกรณีการจับกุมฮาคิมไปเมื่อ 8 ธ.ค. 2561 ว่า เขาถูกกักตัวโดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองสุวรรณภูมิเมื่อเดินทางมาถึงจากประเทศออสเตรเลีย เมื่อ 27 พ.ย. 2561 เวลา 20.50 น. ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 การกักตัวดังกล่าวเป็นไปโดยการตอบสนองต่อการแจ้งหมายแดง ซึ่งได้รับการแจ้งเตือนจากสำนักงานกลางตำรวจสากลแห่งชาติออสเตรเลีย (Interpol National Central Bureau) และคำร้องขออย่างเป็นทางการจากรัฐบาลบาห์เรนเพื่อจับกุมและขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน

ตามแนวทางของพระราชบัญญัติส่งผู้ร้ายข้ามแดนดังกล่าว สำนักงานอัยการสูงสุดอาจพิจารณายื่นคำร้องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนต่อศาลตามคำร้องขอของรัฐบาลบาห์เรนภายใน 60 วันนับตั้งแต่วันที่จับกุม เมื่อศาลรับพิจารณาคำร้องขอดังกล่าวแล้ว ศาลจะดำเนินการตามกระบวนการที่บัญญัติไว้ในกฎหมาย รวมทั้งการตรวจสอบคำร้องขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนอย่างละเอียดถี่ถ้วน ตลอดจนหลักฐานและคำให้การของพยานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ฮาคิมมีสิทธิในการให้ข้อคิดเห็น ข้อห่วงกังวล และพยานหลักฐานต่างๆ ต่อศาล

นอกจากนี้ เมื่อศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาแล้ว บุคคลที่เกี่ยวข้องยังคงมีสิทธิที่จะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์เพื่อให้พิจารณาและทบทวนต่อไปอีก ถ้าหากมีการอุทธรณ์ การดำเนินคดีส่งผู้ร้ายข้ามแดนจะถึงที่สุดภายหลังจากที่ศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาแล้วเท่านั้น

ในกรณีหมายแดงนั้น ข่าวของ กต. ระบุว่า แม้หมายแดงจะถูกถอนจากฐานข้อมูลของตำรวจสากลแล้ว แต่กระบวนการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนได้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ทางการไทยได้รับคำร้องขออย่างเป็นทางการจากรัฐบาลบาห์เรนเมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2561 และการนำส่งต่อมาซึ่งเอกสารต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับออกหมายจับชั่วคราวเมื่อ 3 ธ.ค. 2561 ทั้งนี้ แม้ไทยกับบาห์เรนไม่มีข้อตกลงทวิภาคีว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกัน แต่ฝ่ายบาห์เรนก็สามารถขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้ตาม พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของหลักประติบัติต่างตอบแทนและความร่วมมือซึ่งเป็นที่ยอมรับกันในระหว่างประเทศ

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท