Skip to main content
sharethis

หลัง กสทช. มีมติสั่งปิด Voice TV 15 วัน ก่อน 'เลือกตั้ง' หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ชี้เท่ากับปิดหูปิดตาประชาชน ขณะที่ กลุ่ม ‘ยามเฝ้าจอ’ จี้รัฐยุติคุกคามสื่อเห็นต่าง ขอผู้มีอำนาจยุติใช้เวลา TV เอกชน

12 ก.พ.2562 จากกรณีวันนี้ (12 ก.พ.62) คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีมติที่ประชุมล่าสุดให้ระงับใบอนุญาตในการออกอากาศสถานีโทรทัศน์ระบบดิจิทัลภาคพื้นดิน Voice TV เป็นเวลา 15 วันนับตั้งแต่ 13 ก.พ.นี้ เวลา 0.01 น. เป็นต้นไป จนทำให้สถานีโทรทัศน์ Voice TV ต้องเตรียมยื่นฟ้อง กสทช. ต่อศาลปกครอง และขอให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวนั้น

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โพสต์ในเฟซบุ๊คเพจ Thanathorn Juangroongruangkit - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในหัวข้อ เสรีภาพสื่อคือเสาหลักของการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรม โดยระบุว่า ตกใจมากที่ กสทช. มีมติระงับการออกกาศของสถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวีนาน 15 วัน โดยอ้างว่ารายการ Wake Up News และ Tonight Thailand มีการแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงยั่วยุ ขัดกับหลักกฏหมาย นี่คือการปิดสื่อระดับชาติ ในช่วงเวลาเพียงไม่ถึง 2 เดือนก่อนถึงการเลือกตั้งทั่วไป นี่คือการปิดหูปิดตาประชาชนจากการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร นี่คือการจำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด ช่วงของการเปลี่ยนผ่านคืนประชาธิปไตยกลับสู่มือของเราประชาชนคนไทย

"การสั่งระงับการออกอากาศวอยซ์ทีวี แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่ามีความพยายามทุกวิถีทางในการที่จะช่วงชิงความได้เปรียบในการเลือกตั้ง และจะทำให้เกิดข้อกังขาต่อความบริสุทธิ์ยุติธรรมในการเลือกตั้งที่จะมาถึงอย่างแน่นอน เพราะแม้แต่การวิพากษ์วิจารณ์ในหน้าสื่อก็ยังถูกจัดการอย่างเด็ดขาด แต่ผมเชื่อว่า #ยิ่งปิดคือยิ่งเปิด หมดยุคที่ประชนคนไทยจะถูกปิดหูปิดตาง่ายๆ หมดยุคที่เราจะยอมจำนนต่อการลุแก่อำนาจของเผด็จการ

"ผมขอเป็นกำลังใจให้สื่อมวลชนที่ยืนหยัดเพื่อเสรีภาพ สิทธิมนุษยชน และประชาธิปไตย เพราะเสรีภาพสื่อคือเสรีภาพของประชาชน และผมขอเรียกร้องให้คนไทยทุกคน ร่วมกันแสดงออกว่าเราจะไม่ยอมถูกล่ามโซ่ไว้กับอดีต ไม่ยอมถูกมือเผด็จการปิดหูปิดตา ไม่ยอมให้อำนาจมืดอยู่เหนือปากกาที่เราจะกาให้กับพรรคเมืองที่พาประเทศไทยไปสู่อนาคต" ธนาธร ระบุ

‘ยามเฝ้าจอ’ จี้รัฐยุติคุกคามสื่อเห็นต่าง ขอผู้มีอำนาจยุติใช้เวลา TV เอกชน

กลุ่ม ‘ยามเฝ้าจอ’ ซึ่งเป็นกลุ่มที่นำเสนอเรื่องราวความเคลื่อนไหวในวงการดิจิทัลทีวีมาอย่างต่อเนื่องออกแถลงการณ์ ต่อกรณีการคุกคามเสรีภาพสื่อในช่วงใกล้เลือกตั้ง ว่า ขอแถลงจุดยืนในการทำหน้าที่ติดตามสื่อโทรทัศน์นับตั้งแต่วันที่ 11 ก.ค. 2558 ที่ผ่านมา เราพบว่า Voice TV ถูกคุกคามมาอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลจากที่ iLaw รวบรวมไว้ พบว่าการสั่งระงับออกอากาศของ Voice TV ในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 21 และถือเป็นครั้งที่ 55 แล้วที่ กสทช. ภายใต้การกำกับของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามาแทรกแซงและจำกัดเสรีภาพสื่อ

ซึ่งรัฐบาลปัจจุบันและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการเมืองด้วยการคุกคามและจำกัดสิทธิเสรีภาพของผู้เห็นต่างอย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงมีความพยายามสร้างหอกระจายข่าววิทยุของหน่วยงานภาครัฐตามต่างจังหวัดในช่วงใกล้เลือกตั้ง ซึ่งมีความเสี่ยงจะถูกนำไปใช้สร้างความได้เปรียบให้กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

อีกทั้งยังมีการออกอากาศของรายการ “ศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ทุกวันศุกร์ เวลา 20.15 น. โดยประมาณ ซึ่งอ้างว่า “ขอความร่วมมือ” ให้ทุกสถานีออกอากาศรายการดังกล่าวพร้อมกัน ถือเป็นการกินเวลาไพรม์ไทม์ของสถานีโทรทัศน์ต่าง ๆ ซึ่งทำให้สถานีโทรทัศน์สูญเสียโอกาสและเวลาช่วงสำคัญที่สร้างรายได้ให้แก่บริษัทไปอย่างน่าเสียดาย และการออกอากาศรายการ “เดินหน้าประเทศไทย” ทุกวันเสาร์-พฤหัสบดี เวลา 18.00 น. โดยประมาณ ยังเป็นการนำเสนอนโยบาลของรัฐบาลปัจจุบันที่มีอำนาจเต็ม ต่างจากรัฐบาลก่อนหน้านี้ที่มีหน้าที่เป็นเพียงรัฐบาลรักษาการเท่านั้น ไม่มีอำนาจเต็มเท่ารัฐบาล คสช. ชุดปัจจุบัน

กลุ่ม ‘ยามเฝ้าจอ’ ขอเรียกร้องให้ คสช. รัฐบาล กสทช. และผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้อง ปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาเพื่อทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปอย่าง “สุจริต โปร่งใส และเที่ยงธรรม” ดั่งสโลแกนที่ กกต. กล่าวไว้ รวมถึงยุติการใช้อำนาจรัฐกดดันหรือคุกคามสื่อมวลชนหรือผู้เห็นต่างในทุกกรณี และขอให้ผู้มีอำนาจยุติการใช้เวลาออกอากาศสถานีโทรทัศน์ทุกระบบของภาคเอกชน แล้วเปลี่ยนมาใช้เวลาออกอากาศผ่านช่องทางของภาครัฐที่มีอยู่แทน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อผลการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 24 มี.ค. 2562 ต่อไป

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net