ศาลรัฐธรรมนูญเตรียมวินิจฉัยรับคำร้องยุบพรรคไทยรักษาชาติหรือไม่ พรุ่งนี้

13 ก.พ. 2562 ข่าวสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ รายงานว่า วันนี้ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้งได้รับมอบอำนาจจากคณะกรรมการการเลือกตั้งให้มายื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้งขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560  มาตรา 92 สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้รับคำร้องไว้ในทางธุรการและอยู่ระหว่างการตรวจสอบคำร้อง โดยศาลรัฐธรรมนูญจะเสนอคำร้องดังกล่าวต่อที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาว่า จะรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยหรือไม่ ในวันที่ 14 ก.พ. 2562 เวลา 13.30 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 92 ระบุว่า เมื่อคณะกรรมการมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญสั่งเพื่อยุบพรรคการเมือง

(1)กระทําการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอํานาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ

(2)กระทําการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

(3)กระทําการฝ่าฝืนมาตรา 20 วรรคสอง มาตรา 28 มาตรา 30 มาตรา 36 มาตรา 44 มาตรา 45 มาตรา 46 มาตรา 72 หรือมาตรา 75

(4)มีเหตุอันจะต้องยุบพรรคการเมืองตามที่มีกฎหมายกําหนด

เมื่อศาลรัฐธรรมนูญดําเนินการไต่สวนแล้ว มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองกระทําการ ตามวรรคหนึ่ง ให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคการเมือง และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้น

ทั้งนี้เมื่อเปรียบกับ พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมือง 2550 พบว่า มาตรา 94 (3) มีความแตกต่างกัน โดยในกฎหมายเก่าระบุไว้ว่า "กระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ"

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 8 ก.พ. พรรคไทยรักษาชาติได้ยื่นบัญชีรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคือ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ ต่อ กกต. โดยที่ทูลกระหม่อมหญิงฯ ได้เปิดเผยต่อสาธารณะผ่านอินสตาแกรม ยันยินยอมให้พรรคไทยรักษาชาติใช้ชื่อเพื่อเสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรีเป็นเพียงการแสดงถึงสิทธิ เสรีภาพ ตามรัฐธรรมนูญ และได้ลาออกจากฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์ และอยู่ในฐานะสามัญชนแล้ว ต่อมาในเวลา 22.55 น. โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย และในเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พระราชโองการ ประกาศ สถาบันพระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งชี้ถึง “การนำสมาชิกชั้นสูงในพระบรมราชวงศ์มาเกี่ยวข้องกับระบบการเมือง ไม่ว่าจะโดยทางใดก็ตาม จึงเป็นการกระทำที่ขัดต่อโบราณราชประเพณี ขนบธรรมเนียม และวัฒนธรรมของชาติ ถือเป็นการกระทำที่มิบังควรไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง”

ต่อมาวันที่ 11 ก.พ. กกต. ได้เปิดเผยรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ที่พรรคการเมืองเสนอทั้งหมด 69 รายชื่อ จาก 45 พรรคการเมือง ซึ่งในจำนวนทั้งหมด ไม่ปรากฎรายชื่อของ ทูลกระหม่อมหญิงฯ โดย กกต. ระบุถึงเหตุผลที่ไม่รวมรายชื่อของทูลกระหม่อมหญิงฯ ไว้ในรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพราะ พระบรมราชวงศ์ทุกพระองค์ทรงอยู่ในหลักการเกี่ยวกับการดำรงอยู่เหนือการเมือง  และความเป็นกลางทางการเมืองของพระมหากษัตริย์ด้วย และไม่สามารถ ดำรงตำแหน่งใดๆ ในทางการเมืองได้ เพราะจะเป็นการขัดกับเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญ และประเพณีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทั้งนี้ ตามพระราชโองการ ประกาศสถาบันพระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งประกาศ ณ วันที่ 8 ก.พ. 2562 ประกอบรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560

ขณะที่ รัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 182  ระบุว่า บทกฎหมาย พระราชหัตถเลขา และพระบรมราชโองการอันเกี่ยวกับราชการแผ่นดิน ต้องมีรัฐมนตรีลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ เว้นแต่ที่มีบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่นในรัฐธรรมนูญ

ทั้งนี้ พระราชการเมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2562 นั้นไม่ปรากฎผู้รับสนองพระราชโองการ

สำหรับรายชื่อคณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ ประกอบด้วย

1.ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ
2.ฤภพ ชินวัตร รองหัวหน้าพรรคคนที่ 1
3.สุณีย์ เหลืองวิจิตร รองหัวหน้าพรรคคนที่ 2
4.พฤฒิชัย วิริยะโรจน์ รองหัวหน้าพรรคคนที่ 3
5.นพ.พงษ์ศักดิ์ ภูสิทธิ์สกุล รองหัวหน้าพรรคคนที่ 4
6. รุ่งเรือง พิทยศิริ กรรมการบริหารพรรค
7.จุลพงศ์ โนนศรีชัย กรรมการบริหารพรรค
8.มิตติ ติยะไพรัช เลขาธิการพรรค ลูกชายนายยงยุทธ ติยะไพรัช แกนนำพรรคเพื่อไทย
9.ต้น ณ ระนอง รองเลขาธิการพรรคคนที่ 1
10.วิม รุ่งวัฒนจินดา รองเลขาธิการพรรค
11.คณาพจน์ โจมฤทธิ์ รองเลขาธิการพรรคคนที่ 3
12.พงศ์เกษม สัตยาประเสริฐ
13.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ นายทะเบียนสมาชิกพรรค
14.วรรษมล เพ็งดิษฐ์ เหรัญญิกพรรค

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท