ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ตอบคำถามเรื่องพระราชโองการ ในฐานะทายาทผู้สืบตราจุลจอมเกล้าในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ชี้พระราชโองการของพระมหากษัตริย์ถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิในแผ่นดิน และต้องน้อมนำใส่เกล้าใส่กระหม่อม ปฏิบัติให้เป็นไปตามพระราชประสงค์
แฟ้มภาพ
13 ก.พ. 2562 ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า ในระหว่างการสนทนาและบรรยายพิเศษ เรื่อง “พระมหากษัตริย์ พ่อของแผ่นดิน” แก่ข้าราชการ เยาวชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา ผู้มีความสนใจ ณ พิพิธภัณฑ์และหอสมุดสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ วังวรดิศ มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้เรียนถาม ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติราชการกระทรวงยุติธรรม ในเรื่องพระบรมราชโองการ และพระราชโองการของพระมหากษัตริย์ ในฐานะทายาทผู้สืบตราจุลจอมเกล้าในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
ม.ล.ปนัดดา ตอบว่า ได้รับการสั่งสอนอบรมมาแต่เด็กจากบิดา คือ อดีตเอกอัครราชทูต หม่อมราชวงศ์สังขดิศ ดิศกุล ผู้เป็นหลานชายใหญ่ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ และหม่อมเจ้าพูนพิศมัย ดิศกุล ผู้มีศักดิ์เป็นท่านย่าของ ม.ล.ปนัดดา ว่า พระบรมราชโองการและพระราชโองการ หรือในภาษาอังกฤษเรียกว่า “The Royal Command” ของพระมหากษัตริย์ถือเป็นเรื่องอันมีความศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินมาช้านาน ในทางจารีตประเพณีถือเป็นที่เทิดทูนบูชาสูงสุดแห่งชีวิต ปวงชนชาวไทยจักน้อมนำใส่เกล้าใส่กระหม่อม หรืออาจกล่าวได้ว่า เทิดทูนไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อมในเรื่องใดๆ อันเป็นพระบรมราชโองการและพระราชโองการของพระมหากษัตริย์
“เมื่อครั้งพ่อของกระผมยังมีชีวิตอยู่ ได้เล่าให้ฟังว่า คราวใดที่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้รับพระบรมราชโองการจากในหลวง ท่านจะกราบถวายบังคมบูชาและเทิดทูนไว้ซึ่งพระบรมราชโองการและพระบรมเดชานุภาพขององค์พระมหากษัตริย์ และน้อมนำสู่การปฏิบัติเพื่อให้เป็นไปตามพระราชประสงค์นั้น และเพื่อยังความเป็นสิริมงคลสูงยิ่งแก่ผู้เป็นข้าทูลละอองธุลีพระบาทสืบไป... จากกรณีที่เกิดขึ้นซึ่งเหตุการณ์ทางการเมือง กระผมมองว่าถึง ณ เวลานี้ ทุกผู้ทุกฝ่ายต้องยุติการกล่าวอ้างหรือกล่าวพาดพิงพระนามอันเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทุกอย่างถือว่าเป็นที่ยุติ” ม.ล.ปนัดดากล่าว