ศาลปกครองสั่งทุเลาคำสั่ง กสทช.พักใช้ใบอนุญาต 'วอยซ์ ทีวี'

ศาลปกครองมีคําสั่งทุเลาการบังคับตามคําสั่งของ กสทช. ที่พักใช้ใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ฯ ช่องรายการวอยซ์ ทีวี ไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคําสั่ง เป็นอย่างอื่น

 

15 ก.พ.2562 สำนักงานศาลปกครอง รายงานว่า วันนี้ ศาลปกครองมีคําสั่งทุเลาการบังคับตามคําสั่งของ กสทช. ที่พักใช้ใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ฯ ช่องรายการวอยซ์ ทีวี ไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคําสั่ง เป็นอย่างอื่น

รายละเอียดเพิ่มเติม สำนักงานศาลปกครอง รายงานว่า คดีนี้ผู้ฟ้องคดี (บริษัท วอยซ์ ทีวี จํากัด) ฟ้องว่า ผู้ฟ้องคดีได้รับความเดือดร้อนเสียหายจากการที่ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 (คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีมติในการประชุมครั้งที่ 3/2562 เมื่อวันที่ 12 ก.พ.2562 พักใช้ใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และ ประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ช่องรายการ วอยซ์ ทีวี ของผู้ฟ้องคดี เป็นระยะเวลา 15 วัน ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 13 ก.พ.2562 เป็นต้นไป ตามหนังสือผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 (สนง.กสทช.) ลงวันที่ 12 ก.พ.2562

สืบเนื่องจาก ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ได้รับเรื่องร้องเรียนขอให้ตรวจสอบการออกอากาศ รายการ Tonight Thailand เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.2561 เวลาประมาณ 21.05 น. ในหัวข้อ สุดารัตน์ระอา ทหาร-ตร. ยังตามประกบลงพื้นที่ และได้ตรวจสอบพบการออกอากาศรายการ Wake Up News เมื่อวันที่ 21 ม.ค.2562 เวลาประมาณ 07.05 น. ในหัวข้อ 10 เรื่องที่คนไทยกังวลใจเกี่ยวกับการเมืองไทย หัวข้อ รปช. ติงชัชชาติไม่รู้จริงเรื่องข้าว และหัวข้อ เฉลิมเชื่อพรรค 3 ฝ่าย ปชต. กวาด 300 ที่นั่ง วันที่ 22 ม.ค.2562 ในหัวข้อ ทักษิณสอนมวยรัฐบาลแก้ปัญหาฝุ่นละออง วันที่ 28 ม.ค. 2562 เวลา ประมาณ 07.55 น. ในหัวข้อ เสรีพิศุทธ์ ปลุก ปชช. เอา ปชต. คืนมา และวันที่ 29 ม.ค.2562 ในหัวข้อ สุดารัตน์เปิด 5 แนวทางกระเป๋าตุง หัวข้อ ชัชชาติ ประกาศดัน 5 ยุทธศาสตร์สู่ไทยยั่งยืน และ หัวข้อ กกต. กดสื่อจัดตั้งหาเสียงคาดมี 45 พรรคส่งสมัคร สส.

ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 จึงมีหนังสือลงวันที่ 24 ม.ค.2562 และหนังสือลงวันที่ 1 ก.พ. 2562 เชิญผู้ฟ้องคดีชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อประกอบการ พิจารณา จากนั้น ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ได้รวบรวมข้อเท็จจริงและคําชี้แจงของผู้ฟ้องคดีเสนอต่อผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ในการประชุม ครั้งที่ 3/2562 เมื่อวันที่ 12 ก.พ.2562 ซึ่งผู้ฟ้องคดีเห็นว่าการเสนอรายการ ดังกล่าว เป็นการวิเคราะห์ข่าวสารต่อสาธารณชน ซึ่งเป็นสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของตน ในที่สาธารณะตามปกติในระบอบประชาธิปไตย มิได้ก่อให้เกิดความสับสนแก่ประชาชน การที่ผู้ถูกฟ้องคดี ที่ 1 มีมติในการประชุมครั้งที่ 3/2562 เมื่อวันที่ 12 ก.พ. 2562 พักใช้ใบอนุญาตให้ใช้ คลื่นความถี่และประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ช่องรายการ วอยซ์ ทีวี ของผู้ฟ้องคดี จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงขอให้ศาลเพิกถอนคําสั่งทางปกครองตามหนังสือ ที่ สทช 2412/5124 เรื่อง คําสั่งกําหนดโทษทางปกครองให้พักใช้ใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการโทรทัศน์ ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ลงวันที่ 12 ก.พ.2562 และเพิกถอนมติของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ในการประชุมครั้งที่ 3/2562 เมื่อวันที่ 12 ก.พ. 2562 และเพิกถอนหนังสือบันทึกข้อตกลง ระหว่างผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 กับผู้ฟ้องคดี ฉบับลงวันที่ 4 มิ.ย.2557 และผู้ฟ้องคดีมีคําร้องขอให้ ศาลทุเลาการบังคับตามมติของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ในการประชุมครั้งที่ 3/2562 เมื่อวันที่ 12 ก.พ.2562 จนกว่าศาลจะมีคําพิพากษา

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ให้ความคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ของบุคคลซึ่งประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน และสื่อมวลชนไว้อย่างชัดแจ้ง การที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 จะใช้ อํานาจสั่งพักใช้ใบอนุญาตของผู้ฟ้องคดีได้ก็ต่อเมื่อเป็นกรณีที่มีข้อเท็จจริงปรากฏว่า ผู้ฟ้องคดีมี พฤติการณ์หรือการกระทําความผิดตามมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 และปรากฏด้วยว่า มีความเสียหายอย่างร้ายแรงเกิดขึ้นอันเนื่องมาจาก การกระทําดังกล่าว หากขาดองค์ประกอบใดองค์ประกอบหนึ่ง ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ย่อมไม่อาจออกคําสั่ง พักใช้ใบอนุญาตของผู้ฟ้องคดีได้ เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 มิได้เสนอว่าการออกรายการ ของผู้ฟ้องคดีดังกล่าวเกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงหรือไม่อย่างไร และไม่ปรากฏว่าผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ได้พิจารณาในประเด็นความเสียหายอย่างร้ายแรงก่อนมีมติออกคําสั่งกําหนดโทษทางปกครองให้พักใช้ ใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลของผู้ฟ้องคดี เช่นกัน ในชั้นนี้จึงเห็นว่าคําสั่งกําหนดโทษทางปกครองดังกล่าวน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย หากให้คําสั่ง กําหนดโทษทางปกครองดังกล่าวมีผลต่อไป อาจเกิดความเสียหายทางธุรกิจของผู้ฟ้องคดีที่มีการสั่งสม ฐานผู้ชมและความเชื่อมั่น ซึ่งไม่อาจเรียกคืนได้ จึงเป็นการยากแก่การเยียวยาภายหลัง อีกทั้ง การทุเลา การบังคับตามคําสั่งทางปกครองดังกล่าวไม่เป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของรัฐหรือแก่บริการ สาธารณะ เนื่องจากผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสอง ยังคงมีอํานาจหน้าที่กํากับดูแลผู้ได้รับอนุญาตประกอบกิจการ โทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลรวมทั้งผู้ฟ้องคดีตามกฎหมาย กรณีจึงมีเหตุสมควรที่ศาลจะกําหนด มาตรการหรือวิธีการเพื่อบรรเทาทุกข์ให้แก่ผู้ฟ้องคดีเป็นการชั่วคราวก่อนการพิพากษา โดยสั่งให้ทุเลา การบังคับตามคําสั่งกําหนดโทษทางปกครองให้พักใช้ใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการ โทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลของผู้ฟ้องคดี ตามหนังสือของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ลงวันที่ 12 ก.พ.2562 ตามมาตรา 66 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณา คดีปกครอง พ.ศ.2542 ประกอบกับข้อ 72 วรรคสาม แห่งระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการ ในศาลปกครองสูงสุด ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2543 ไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมี คําสั่งเป็นอย่างอื่น

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท