Skip to main content
sharethis

พรรคเพื่อไทยปราศรัยใหญ่ครั้งแรกในรอบ 5 ปี ชูนโยบายแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปรับโครงสร้างหนี้ครั้งใหญ่ให้นักธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กยืนได้-ทวงคืนอากาศดีภายใน 3 ปี จะตั้งศูนย์วอร์รูมต้านฝุ่นพิษเร่งนำเข้าหน้ากากและเครื่องฟอกอากาศแบบไม่มีภาษี-เปลี่ยนรถเมล์ทั้งหมดให้เป็นระบบไฟฟ้าแทนการซื้อรถถังจากจีน


ที่มาภาพ: Banrasdr Photo

เมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2562 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ข่าวสด รายงานว่าเมื่อเวลา 18.20 น. ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการ กทม. พรรคเพื่อไทย จัดเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งแรก นายโภคิน พลกุล ขึ้นปราศรัยว่าตนทำงานการเมืองมาไม่น้อยกว่า 35 ปี ได้ปราศรัยหาเสียงครั้งสุดท้ายคือปี 48 ผ่านมา 13 ปี ถูกยึดอำนาจ 2 รอบ อำนาจถูกใช้ผ่านคนหยิบมือเดียวจากปลายกระบอกปืน ดังนั้นประชาชนต้องกลับมาเป็นใหญ่ในแผ่นดิน ไม่ใช่คนกลุ่มเดียวที่พยายามจะสร้างระบบราชการให้ข้าราชการเป็นใหญ่

คนทั่วไปจะค้าขาย จะทำอะไรก็แล้วแต่ ต้องขออนุญาตหมด ซึ่งต้องใช้เวลาหลายเดือน แล้วจะแข่งกับโลกไหวไหม ได้คุยกับพรรคการเมืองอื่นว่าหากเราใช้ยุทธศาสตร์ 20 ปีแล้วเราจะเป็นอย่างไร เขาก็ตอบว่า เราคงจะเป็นคนมีคุณธรรม สุจริต มีจิตอาสา ตนก็ถามว่าที่เขียนมานี้ คนเขียนทำหรือยัง ผู้บริหารประเทศเอาเปรียบ โกหก ไม่ฟังเสียงพี่น้องประชาชน ใช้อารมณ์เกรี้ยวกราด ขาดความสุภาพ แบบนี้หรือที่อยากให้คนไทยเป็น

วันนี้ระบบราชการต้องเล็ก แต่มีประสิทธิภาพ กฎหมายต้องเอื้อประโยชน์ให้ประชาชนทำมาหากินได้ง่ายขึ้น ตอนที่ตนเป็น รมว.มหาดไทยอยากจะทำเรื่องนี้แต่ถูกรัฐประหารไปก่อน การแก้กฎหมายเรื่องนี้จึงยังค้างคาอยู่

จากนั้นเวลา 19.00 น. นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา ขึ้นปราศรัยกล่าวว่าต้นเหตุแห่งปัญหาคือพวกลุงๆ ที่ไม่ได้เรื่องวางแผนสร้างสถานการณ์ยึดอำนาจอย่างเดียวไม่พอ อยากอยู่นานๆ มาตอนนี้ 4-5 ปีแล้วยังอยู่ เวลามีคนบอกเมื่อมาเสนอตัวเป็นแคนดิเดตนายกฯ ก็ควรลาออกจากตำแหน่งนายกฯ และหัวหน้าคสช. เสีย

เขากลับมาบอกว่า “มึงมาไล่ดูสิ” เขาวางแผนมาอย่างดี ยกร่างรัฐธรรมนูญตามระบบที่เขาคิดไว้ เอาไปเสนอสภาฯ ที่ คสช.คัดมาทั้งหมด เขาเขียนรัฐธรรมนูญ 1.ให้ ส.ว. 250 คนมาจากการแต่งตั้ง แล้วสามารถร่วมเลือกนายกฯ ได้ด้วย 2.ส่งพวกกุมารทั้งหลายมาตั้งพรรค เพราะ 250 เสียงไม่พอ

ดังนั้นเราจะทำให้รัฐธรรมนูญที่เขาออกแบบไว้ไม่ทำงานโดยการเลือกเพื่อไทยยกทั้งบ้าน ทั้งตำบล ทั้งเขต ทั้งแขวงและทั้งจังหวัด เพราะทุกเสียงมีความหมาย ทุกคะแนนจะถูกนำมาคำนวณว่าเพื่อไทยจะได้ ส.ส.เท่าไหร่ 3.จากพรรคเดียวเบอร์เดียว เป็นพรรคเดียวหลายเบอร์ เบอร์ต่างกันหมด ชาวบ้านอาจจะเกิดความสับสน ดังนั้นเข้าคูหาดูที่โลโก้ เห็นโลโก้และชื่อพรรคเพื่อไทยอยู่ไหนกาตรงนั้น

พวกท่านต้องไปใช้สิทธิ เพราะหากท่านไม่ไปใช้สิทธิเขาเตรียมผีไปใช้สิทธิแทนนะ เป็นการเลือกตั้งที่พยายามจะมีการทุจริตมากที่สุด เพราะรัฐและองค์กรอิสระถูกคุมไว้หมดแล้ว เหลือแต่เราพี่น้องชาวไทยที่มีอำนาจตัดสินใจอยู่เลือกเพื่อไทยทั้งประเทศ

'ชัยเกษม' ชี้ต้องปฏิรูปกองทัพ ทหารใหญ่เกษียณแล้วต้องออกไปเช่าบ้าน ไม่ใช่ยังมีบ้านพักให้

นายชัยเกษม นิติสิริ 1 ในแคนดิเดต นายกฯ ปราศรัยว่าเป็นครั้งที่ 2 ในชีวิตของตนที่ขึ้นปราศรัย และเป็นการปราศรัยใหญ่ครั้งแรกของตน ทั้งนี้ตนได้รับผิดชอบให้พูดเรื่องกระบวนการยุติธรรม และเรื่องกฎหมายที่ต้องเป็นธรรม รวมถึงกระบวนการใช้กฎหมายก็ต้องเป็นธรรมด้วย กฎหมายที่ไม่เป็นธรรมสำหรับตนคือ กฎหมายที่ไม่ได้ออกมาโดยการใช้อำนาจของประชาชน แต่ใช้อำนาจของคณะปฎิวัติ

ซึ่งตนไม่อยากเรียกว่าคณะรักษาความสงบ เพราะภาคใต้ยังปึงๆ ปังๆกันอยู่เลย ไม่ได้สงบอย่างที่ท่านว่า นอกจากนี้กฎหมายยังออกมาในยุคที่ไม่ปกติ มาด้วยมาตรา 44 มาโดย สนช.ที่มาจากคณะปฏิวัติ ท่านไปดูว่าอะไรที่ไม่ถูกใจ ท่านส่งข้อมูลมา แล้วเราจะกิโยติน เปลี่ยนแปลง ยกเลิก หากเราได้เป็นเสียงข้างมากในสภาฯ

อย่างไรก็ตาม วันนี้เราต้องปฏิรูปกองทัพ ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ที่ดินต่างๆ ไม่ควรถูกใช้เป็นสวัสดิการของทหาร แต่ควรเอามาใช้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ข้างราชการผู้ใหญ่ของทหารต้องออกไปเช่าบ้าน ไม่ใช่เกษียณแล้วยังมีบ้านพัก อยู่เรือนรับรอง ในขณะที่พวกท่านต้องเช่าบ้านอยู่ ตรงนี้ต้องได้รับการแก้ไข สิ่งเหล่านี้เราต้องค่อยๆ ทำ ค่อยเป็นค่อยไป ทำทีละเรื่อง

ตนเชื่อว่าประชาชนทั่วไปมีความรู้สึกร่วมกัน นอกจากนี้ หาก พท.เป็นรัฐบาล องค์กรอิสระต่างๆต้องได้รับการแก้ไขด้วย รวมทั้งองค์กรที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมต้องถูกตรวจสอบและท้วงติงได้

'เฉลิม' ขอให้เลือกพรรคเพื่อไทยพรรคเดียว ยึดอำนาจจากเผด็จการมาเป็นประชาธิปไตย

เวลา 19.30 น. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง กล่าวปราศรัยอย่างดุเดือดว่า ขอให้เลือกพรรคเพื่อไทยเพียงพรรคเดียวเพื่อยึดอำนาจจากเผด็จการมาเป็นประชาธิปไตย พรรคเพื่อไทยหัวใจคือประชาชน เผด็จการมึงออกไป ต้องการให้พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคเดียวในการล้มการสืบทอดอำนาจ

ทั้งนี้คนต้นเหตุให้มีการยึดอำนาจคือ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ส่วนคนสนับสนุนคือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตนไม่โกรธ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. ที่ยึดอำนาจเพราะ คนเหล่านี้เปิดประตูให้ทหารเข้ามา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างการปราศรัยช่วงต้นทางเวทีได้มีการเปิดภาพ นายสุเทพและนายอภิสิทธิ์ กอดคอร่วมเดินขบวนเป่านกหวีดกับ กปปส. ขับไล่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์บอกไม่รู้จักตนนั้น ไม่เป็นอะไร แล้วเราไปเจอกันในสภาฯ และที่พล.อ.ประยุทธ์ อารมณ์ร้อนขนาดนี้อยู่ไม่ได้หรอกขอให้เปลี่ยนใจซะ และตอนที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เล่นการเมืองครั้งแรก ได้ ส.ส. 200 กว่าแต่พรรคประชาธิปัตย์แตะ 100 นิดๆ ทำให้อภิปรายไม่ไว้วางใจไม่ได้ แล้วสร้างวาทกรรมเผด็จการรัฐสภาฯ

พอบริหารงานมา 4 ปี เลือกตั้งสมัยสองพรรคของนายทักษิณก็ได้ 300 กว่า พอถูกยึดอำนาจในปี 49 หลังจากนั้นมีพรรคพลังประชาชนลงเลือกตั้งก็ชนะเลือกตั้งอีก เลือกตั้งปี 54 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ชนะได้ส.ส. 240 กว่าๆ แต่พรรคประชาธิปัตย์แพ้มาตลอด ปีนี้ 2562 พรรคเพื่อไทยจะกลับมาอีกที

ตนขออย่างเดียวอย่าโกงเพราะวันนี้พลังประชารัฐได้เปรียบจนพวกตนไม่มีที่ยืน และรอบนี้จะเล่นรอบสุดท้ายจะช่วยเพื่อไทยหาเสียง ถ้าไม่ได้เป็นอะไรก็ไม่เอา แต่ถ้าเหลืออะไรให้ตนก็เอา ที่บอกจะต้องแก้รัฐธรรมนูญ เพราะไม่เป็นประชาธิปไตย นักลงทุนไม่มาลงทุน

เลือกตั้งครั้งนี้ขออย่างเดียว อย่าโกง แต่ตนไม่กลัว เพราะความกลัวทำให้เสื่อม ขอสาปแช่ง ใครดูแลการเลือกตั้ง ใครทุจริตเลือกตั้ง ขอให้วิบัติฉิบหาย จงเกิดแก่ท่าน ที่พูดไม่ได้แช่ง แต่ถ้าใครโกงเลือกตั้ง ขอให้เป็นอย่างนั้น

'สุดารัตน์' ชูมาตรการกอบกู้เศรษฐกิจ

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ที่มาภาพ: Banrasdr Photo

สำนักข่าวไทย รายงานว่าคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ปราศรัยว่าครั้งสุดท้ายที่ได้ขึ้นปราศรัยคือปี 2548 เป็น 14 ปี และจากการลงพื้นที่ไปพบปะกับประชาชนพบว่าเศรษฐกิจแย่มาก นี่คือความเจ็บปวดจากคนทำงานพรรคเพื่อไทย ประชาชนถูกยึดอำนาจด้วยเหตุผลต่างๆ นานา และรัฐบาล คสช.สัญญาว่าจะคืนความสุขให้ประชาชนและสัญญาว่าขอเวลาอีกไม่นาน เป็นเวลากว่า 5 ปีแล้ว

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่าพรรคเพื่อไทยมีความพร้อมที่จะเข้ามาบริหารประเทศอย่างมืออาชีพ แก้ปัญหาในทุกมิติ วันนี้เพื่อไทยจะกลับมากู้เสียงประเทศให้เวทีโลก หมดเวลาให้รถถังแล้ว และไม่อยากแจกบัตรคนจนแล้ว อยากแจกบัตรคนรวย วันนี้ทุกคนต้องอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี จะไม่มีใครจนทุกคนต้องมีรายได้เพิ่มขึ้น

โดยคุณหญิงสุดารัตน์ ได้เปิดเผย 5 มาตรการกอบกู้เศรษฐกิจ โดยจะมีการปรับโครงสร้างหนี้ครั้งใหญ่ ให้นักธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กยืนให้ได้ เนื่องจากในอนาคตอันใกล้เศรษฐกิจจะแย่ โดยเพื่อได้จะให้คนไทยสามารถอยู่รอดในระบบเศรษฐกิจได้, เติมเงินทุนให้ประชาชน ตนเชื่อว่าทุกคนอยากทำงานไม่อยากจน ไม่ต้องการรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปตลอดชีวิต ขยายแหล่งทุนให้สามารถเข้าถึงได้จึง ต้องมีธนาคารพัฒนารายได้ในทุกจังหวัด หรือ Finance Company, ชูทั้งโลกเป็นตลาดสินค้า ประชาชนต้องมีที่ขายของ ที่ต้องมีการจัดระเบียบแบบฉลาด พาสินค้าไทยไปบุกตลาดโลกให้สำเร็จ ซึ่งในอดีตทำมาแล้วและจะทำให้สำเร็จ, มาตรการอำนวยความสะดวกใบอนุญาต ลดการขออนุญาตที่ต้องง่ายโปร่งใสรวดเร็ว พร้อมกับชูนโยบายลดภาษีอย่างฉลาด แต่ไม่ใช่การรีดภาษีจากผู้มีรายได้น้อย 

ด้านการเกษตร คุณหญิงสุดารัตน์ เปิดเผยว่าพรรคเพื่อไทยมีนโยบายพักชำระหนี้เกษตรกร 3 ปี, ภายใน 6 เดือนราคาสินค้าต้องเพิ่มค้น 30% ต่อไปนี้เกษตรกรต้องกำหนดราคาการขายสินค้าได้ และเป็นศูนย์กลางอาหารปลอดภัยสินค้าโลก และมีกองทุนการปรับเปลี่ยนหน้าดินและยืนยันว่าจะเป็นรายได้ที่ยั่งยืน

ด้านการท่องเที่ยวจะพัฒนาให้ กทม. เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวโลก โดยตั้งเป้า 2 ปี เพิ่มนักท่องเที่ยว 50 ล้านคน เม็ดเงิน 3 ล้านล้านบาท และสร้างความมั่นใจในความปลอดภัย พร้อมกับสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ เตรียมเสนอยกเลิกวีซ่าไทย-จีน เพื่อเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวเป็น 15 ล้านคน พร้อมพัฒนา Street Food เป็นศูนย์กลางดึงดูดนักท่องเที่ยว

พร้อมเสนอ Smart Small Business Center สร้างให้คนรุ่นใหม่มีธุรกิจของตนเอง โดยจะตัดงบประมาณมาจากกระทรวงกลาโหม 10% เนื่องจากจะไม่มีการเกณฑ์ทหาร นำคนรุ่นใหม่มาสร้างนักธุรกิจรุ่นใหม่ พร้อมกับมีกองทุนคนเปลี่ยนงาน บัตรทองสตาร์ทอัพ มีสิทธิพิเศษนอกเหนือเขตอีอีซี ส่วนการรักษาพยาบาล จะนำ 30 บาทรักษาทุกโรค ยาดี รักษาดี ไม่ต้องรอคิว มีหมอประจำตัวอยู่ในโทรศัพท์มือถือ

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่าหากเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะทวงคืนอากาศดีภายใน 3 ปี จะตั้งศูนย์วอร์รูมต้านฝุ่นพิษ และจะบอกความจริงกับประชาชน พร้อมเร่งนำเข้าหน้ากากและเครื่องฟอกอากาศแบบไม่มีภาษี เพื่อให้ประชาชนมีเครื่องป้องกันตัวเอง และใน 4 ปีจะเปลี่ยนรถเมล์ทั้งหมดให้เป็นระบบไฟฟ้า แทนการซื้อรถถังจากจีน

"โดย 4 ปีที่ผ่านมาของรัฐบาล คสช.ใช้งบประมาณไป 14.4 ล้านล้านบาท ประชาชนมีหนี้สะสมเพิ่มมากขึ้น และเป็นไปตามที่รัฐบาล คสช.สัญญาไว้เมื่อ 2 ปี ก่อนว่าคนจนจะหมดไป แต่ตอนนี้จนทั่วหน้า และการเลือกตั้งในครั้งนี้เลือกตั้งใบเดียวเลือกทั้งคน พรรค และนายกรัฐมนตรี และขอให้จำเพียงโลโก้ของพรรคเพื่อไทย ตนเชื่อว่าทุกคนจำได้เพราะถูกสลักไว้ในใจคนไทยอยู่แล้ว ส่วน ส.ว. จำนวน 250 คนมาจากการคัดเลือกของ คสช. และมีสิทธิ์เลือกนายกรัฐมนตรี พร้อมกับสามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้ถึง 2 สมัย ถือว่าเป็นการร่างรัฐธรรมนูญที่เอาเปรียบมากที่สุด โดยกติกาจะไม่ยิ่งใหญ่ไปกว่าหัวใจประชาชนไทย ซึ่งต้องจับมือกันให้แน่นออกจากทุกข์"

สำหรับการปราศรัยใหญ่ ในกรุงเทพฯ ครั้งนี้ ได้มีการเปิดตัวผู้สมัครกรุงเทพมหานครของพรรคเพื่อไทย ทั้ง 22 เขต โดยแกนนำแต่ละคน เน้นการนำเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ, พัฒนาประเทศ ทำกระบวนการกฎหมายให้ยุติธรรม สร้างคนสร้างชาติด้วยการศึกษา เรียนฟรี 15 ปี และปรับลดดอกเบี้ย กยศ. โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักผู้สนับสนุนพรรคร่วมร้องเพลง และชูป้ายเชียร์ผู้สมัครพรรคในเขตต่างๆ ตลอดการปราศรัยด้วย 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net