Skip to main content
sharethis

พล.อ.ประยุทธ์ ระบุทหารเกณฑ์มีความจำเป็น และเป็นการตอบแทนบุญคุณของแผ่นดิน ขอพรรคการเมืองอย่าหาเสียงสนุกปาก ย้ำงบประมาณกลาโหมขึ้นจริง แต่ทุกกระทรวงก็เพิ่มหมด ยันลงพื้นที่ไม่ใช่การหาเสียง ส่วนเรื่องยื่นยุบพรรคพลังประชารัฐเป็นหน้าที่ของ กกต. กับศาลรัฐธรรมนูญ

ภาพจากคลังภาพรัฐบาลไทย

18 ก.พ. 2562 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวถึงกรณีพรรคการเมืองชูนโยบายยกเลิกการเกณฑ์ทหารและลดงบประมาณของกระทรวงกลาโหมในการหาเสียงเลือกตั้ง ว่า ทุกคนต้องเข้าใจว่าหน้าที่ในการป้องกันประเทศไม่ใช่หน้าที่ของทหารอย่างเดียว แต่เป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน ส่วนการเกณฑ์ทหารเป็นหน้าที่ของชายไทยตามรัฐธรรมนูญที่ต้องตอบแทนคุณแผ่นดิน ซึ่งไม่ได้เป็นทุกคน แต่ใช้หลักการที่ให้มีจำนวนเพียงพอในยามที่ไม่ใช่สงคราม 

“ทั้งหมดที่พูดไม่ได้แก้ตัวให้ใคร แต่พูดตามหลักการของรัฐบาล ที่ทหารมีหน้าที่ป้องกันประเทศ ป้องกันชายแดน น่านน้ำ น่านฟ้า ยาเสพติด แรงงานต่างด้าว อีกทั้งมีหน้าที่ในการพัฒนาประเทศด้านต่าง ๆ และมีหน้าที่เป็นกำลังเสริม สนับสนุนให้หน่วยงานต่างๆ ที่ต้องเตรียมการและไม่ใช่เพื่อต่อต้านการเมือง เพราะทหารของกระทรวงกลาโหมต้องปฏิบัติตามคำสั่งของหัวหน้ารัฐบาล” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ ยังชี้แจงถึงการจัดตั้งหน่วยทหาร ว่าต้องประกอบไปด้วย นายทหาร นายสิบและพลทหาร โดยเป็นไปตามแนวทางของทุกประเทศและไทยได้นำมาปรับใช้ตามความเหมาะสม ซึ่งทุกอย่างต้องเป็นการเตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้า ไม่ใช่เมื่อเกิดสถานการณ์แล้วค่อยเกณฑ์กำลังพลมา และทุกวันนี้ไม่ใช่ว่าจะมองในแง่สงครามเพียงอย่างเดียว แต่อาจมีเรื่องผลกระทบจากแนวชายแดนที่อาจจะเกิดขึ้น

ส่วนเรื่องการลดงบประมาณกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องพิจารณาว่าแต่ละกระทรวงมีงบประมาณเท่าใดและเหตุใดจะต้องเพิ่มงบประมาณ ซึ่งอาจจะมีความจำเป็นเรื่องการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่ทดแทนของเก่าที่ชำรุดและใช้มาเป็นเวลานาน ไม่เช่นนั้นไทยจะไม่มีศักยภาพด้านสงครามเทียบเคียงกับต่างประเทศ และอาจส่งผลกระทบต่อการฝึกปฏิบัติการร่วมกับนานาชาติ อีกทั้งในสัดส่วนงบประมาณของทุกกระทรวงก็เพิ่มขึ้นทุกปีตามหลักการ จึงขอให้ทุกคนเข้าใจ ทุกอย่างมีคณะกรรมการพิจารณา

“การหาเสียง ถ้าเอาแต่สนุกปาก พูดอะไรก็ได้ ไม่ต้องคำนึงถึงประเทศชาติและความเป็นจริง วันหน้าท่านต้องรับผิดชอบนะ ถ้ามันเกิดอะไรขึ้นมา ต้องรับผิดชอบทั้งหมด เรื่องการช่วยเหลือบรรเทาภัยพิบัติ เรื่องน้ำท่วมอะไรต่าง ๆ จะเห็นว่าทหารออกไปทำงานได้ ยุทโธปกรณ์ทางทหารหลายอย่างร้อยละ 50 ใช้ในการดูแลประชาชนทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเฮลิคอปเตอร์ ยานพาหนะต่าง ๆ ก็ใช้หมด ไม่ได้เก็บไว้ใช้ทางทหารอย่างเดียว รถน้ำ รถดับเพลิงไปแจกน้ำชาวบ้านตลอดเวลา ถ้าเราไปตัดงบฯ เขาหมดแล้วสิ่งเหล่านี้หายไป พังไปจะทำอย่างไร” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว   

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรีได้ฟังเพลงหนักแผ่นดินที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่รู้ ไม่ได้ยิน ไม่ได้ฟัง

ลงพื้นที่ไม่เกี่ยวกับการหาเสียง พปชร. จะถูกยุบหรือไม่ให้เป็นหน้าที่ของ กกต. และศาล รธน.

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการลงพื้นที่ตรวจราชการ ที่มีประชาชนมาให้กำลังใจ จะถูกมองเป็นการช่วยพรรคการเมืองหาเสียงโดยอ้อมหรือไม่ ว่า ตามกฎหมายสามารถทำได้ และตนมองว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง เพราะว่าประชาชนมาให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี ไม่เกี่ยวข้องกับใคร และเป็นคนละเรื่องกับการหาเสียง ดังนั้นอย่าพูดให้เกิดความเสียหาย เพราะการที่ประชาชนตอบรับการทำงานของตน ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา อย่านำมาโยงกับเรื่องการเมืองทั้งหมด ตนทำงานมา 4-5 ปี เป็นเรื่องปกติที่จะมีทั้งคนรักคนชัง 

ต่อข้อถามว่า มีพรรคการเมืองยื่นเรื่องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยุบพรรคพลังประชารัฐ กรณีเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพราะอาจมีอำนาจทับซ้อนและอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว ว่า เป็นเรื่องของศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา ซึ่งได้สอบถาม กกต.ถึงเรื่องที่ทำได้และทำไม่ได้มาหมดแล้ว ส่วนที่มีการทำลายป้ายหาเสียงนั้น มองว่า เป็นการกระทำของคนที่คิดไม่ดี ไม่บริสุทธิ์ใจ และไม่เห็นว่ามีความจำเป็นต้องใช้ความรุนแรง หากเก่งจริงต้องออกมาแสดงให้เห็น เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการจับกุม 

ส่วนมุมมองเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในการทำงานของรัฐบาลที่ผ่านมา ได้รับการยอมรับจากนานาชาติมากขึ้น โดยเฉพาะภาคเศรษฐกิจ ซึ่งตนมองว่าอาจจะต้องมีการสานต่องานหรือไม่ และเมื่อมีคนสนับสนุนให้ตนทำงานต่อ ก็ต้องขอบคุณ และหากเป็นไปได้ อะไรที่จะทำเพื่อประชาชนและประเทศได้ ก็จะทำ ซึ่งทั้งหมดเป็นเรื่องของประชาชน  ทั้งนี้คาดหวังว่าก่อนการเลือกตั้งบ้านเมืองต้องสงบเรียบร้อย  แต่วันนี้ก็มีการหาเสียง ต่อว่ารัฐบาลและเล่นงานตนเกือบทุกพรรค ทั้งที่ตนต้องการให้สงบเพื่อเดินหน้าประเทศไปสู่การเลือกตั้ง พร้อมตั้งคำถามว่าคนเหล่านี้ไม่ต้องการให้บ้านเมืองสงบหรือไม่ และหากทำวันนี้ให้ปลอดภัยหรือสงบไม่ได้ วันหน้าก็อาจเกิดปัญหาขึ้นอีก ซึ่งวันนี้คนบางคนที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศไปมาก แต่ก็ยังรับฟังกันอยู่ ตนไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นทุกคนต้องรู้จักเรียนรู้ว่าจะทำอย่างไรให้ปลอดภัย 

“ต่างประเทศเขาก็ยอมรับว่าผมมาอย่างนี้ เขาก็มีความรู้สึกว่าผมมาอีกทางได้หรือไม่ ตามรัฐธรรมนูญ ตามเลือกตั้ง ตามกฎหมาย ผมก็จะมาตามนั้น ถ้ามันได้ก็คือได้ ไม่ได้ก็จบ ผมคาดหวังว่าคนไทยรักกัน ไม่มีความขัดแย้ง เสถียรภาพในวันข้างหน้า ทุกคนน่าจะมุ่งหวังไปในทางเดียวกับผมมั้ง ว่าทุกอย่างที่ทำกันวันนี้ ทุกคน ทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย เราหวังว่าจะให้ประเทศชาติไปในทิศทางใด ท่านทำออกไปอย่างไรก็ได้อย่างนั้นกลับมา ทำดีก็ได้สิ่งที่ดีกลับมา ถ้าทำไม่ดี ก็ได้สิ่งไม่ดีกลับมา นี่เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องยอมรับ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ที่มาจาก: สำนักข่าวไทย1 , 2

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net