อดีตที่ปรึกษาคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ชี้กรณีเว็บไซต์พรรคอนาคตใหม่ลงประวัติหัวหน้าพรรคผิด อาจผิด พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 73 (5) กรณีจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งด้วยการหลอกลวง อาจมีโทษถึงยุบพรรค ย้ำต้องรอดูว่า จะมีผู้ไปยื่นเรื่องร้องเรียนกับ กกต. หรือไม่

เจษฎ์ โทณวณิก (แฟ้มภาพ)

สืบเนื่องจากกรณีที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลมีเดียว่า เว็บไซต์พรรคอนาคตใหม่ ได้ลงประวัติของธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ผิด โดยเว็บไซต์พรรคอนาคตใหม่ ได้ลงประวัติตอนหนึ่งของ ธนาธร ว่า เคยดำรงตำแหน่งประธานสภาอุตสภาหกรรมแห่งประเทศไทย 2 สมัย ตั้งแต่ปี 2551-2555 นั้นคลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริง

ต่อมา 20 ก.พ. 2562 มติชนออนไลน์ ได้ตรวจสอบที่เว็บไซต์พรรคอนาคตใหม่พบว่า ทางพรรคได้ดำเนินการแก้ไขประวัติในเว็บไซต์แล้ว โดยระบุว่า ธนาธร เคยได้ดำรงตำแหน่งประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครนายก ตั้งแต่ปี 2550-2554 และ ถูกรับเลือกให้เป็นเลขาธิการสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย ระหว่างปี 2550-2553

ขณะที่วันนี้ (21 ก.พ.) แนวหน้าออนไลน์ รายงานว่า เจษฎ์ โทณวณิก อดีตที่ปรึกษา คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า การปล่อยข้อมูลที่ผิดพลาดไว้ในเว็บไซต์พรรคอนาคตใหม่นานถึง 5 เดือน ในแง่กฎหมาย อาจไม่ได้มองว่า ตั้งใจหลอกลวง แต่ความเป็นพรรคที่ชูเรื่องของเทคโนโลยี และหาเสียงในโลกออนไลน์เป็นหลัก เมื่อพบว่า ไม่ถูกต้องก็ควรรีบแก้ไข ไม่ใช่ปล่อยทิ้งไว้นานถึง 5 เดือน ซึ่งการอ้างว่าเป็นความผิดพลาดของทีมงานแต่ทิ้งข้อมูลที่ไม่ถูกต้องไว้นานขนาดนี้ก็ เป็นคำแก้ตัวที่อ้างยาก

เจษฎ์ กล่าวด้วยว่า ตามกฎหมายเลือกตั้งส.ส.มาตรา 73 (5) กำหนดห้ามไม่ให้ผู้สมัครจูงใจผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งด้วยการหลอกลวง ซึ่ง ความผิดดังกล่าวมีโทษถึงขั้นยุบพรรค จึงต้องติดตามดูว่าจะมีผู้ใดไปยื่นคำร้องเรื่องนี้ต่อ กกต. หรือไม่ เรื่องนี้จึงอาจถือว่า เป็นมรสุมการเมืองลูกใหม่ของพรรคอนาคตใหม่ และเห็นว่า ยิ่งใกล้วันเลือกตั้งแต่ละพรรคการเมืองก็ช่วงชิงความได้เปรียบจนขาดความเหมาะสมมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น มีทั้งการใช้วิธีที่ไม่สมควรการใช้ข้อมูลไม่ถูกต้องไปจนถึงการเคลื่อนไหวปลุกระดมยั่วยุ  ซึ่งเป็นการทำลายบรรยากาศการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตามอย่างมั่นใจว่า หากไม่มีเหตุชุมนุม ที่ลุกลาม บานปลายก็ไม่มีเหตุที่จะต้องเลื่อนการเลือกตั้งออกไป