สมาพันธ์เกษตรปลอดภัยขอบคุณ 3 กระทรวงฯ ไม่แบนพาราควอต

สมาพันธ์เกษตรปลอดภัย นำรายชื่อเกษตรกร 3 หมื่นราย ขอบคุณ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงสาธารณสุข สำหรับมติคณะกรรมการวัตถุอันตรายเห็นชอบมาตรการจำกัดการใช้วัตถุอันตราย พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพรีฟอส จนกว่าจะมีสารทดแทนหรือนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพหรือประสิทธิผลที่ดีกว่าและไม่สร้างความเดือดร้อนให้เกษตรกร

เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2562 นายสุกรรณ์ สังข์วรรณะ เลขาธิการสมาพันธ์เกษตรปลอดภัย ผู้แทนคณะเกษตรกร 3 หมื่นราย เปิดเผยว่าเกษตรกร 5.7 ล้านครัวเรือน หรือ 25 ล้านคน มีความยินดีดำเนินการตามมาตรการต่างๆ ที่ภาครัฐกำหนดโดยยึดหลักพื้นฐานความจริงที่เกษตรกรสามารถปฏิบัติได้ เพื่อประโยชน์ต่อภาคเศรษฐกิจ สังคม สุขภาพทุกคน และสิ่งแวดล้อม ในด้านความปลอดภัย ด้วยประสบการณ์ตรงของครอบครัว และคนใกล้ชิดภาคการเกษตร ตลอดระยะเวลา 50 ปี ไม่มีผู้ได้รับผลกระทบจากพาราควอตตามข้อกล่าวอ้างต่าง ๆ ทั้งเนื้อเน่า พาร์กินสัน ขี้เถาในทารก มะเร็ง หรือต่าง ๆ สอดคล้องกับ ผลการประชุมของกลุ่มนักวิชาการและแพทย์จำนวน 15 ราย เกี่ยวกับผลกระทบพาราควอตในด้านเศรษฐกิจ สุขภาพ และสิ่งแวดล้อม เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยมี ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร. นายแพทย์สมชัย บวรกิตติ ราชบัณฑิตแห่งสำนักงานราชบัณฑิตยสภา เป็นประธาน ได้ข้อสรุปชัดเจนแล้วว่า สารกำจัดวัชพืชพาราควอตที่เกษตรกรไทยได้นำมาใช้ “เป็นประโยชน์” ถ้านำไปใช้ตรงจุดประสงค์และปฏิบัติถูกต้องตามข้อแนะนำ หากใช้ผิด ก็ไม่ต่างไปจากสารพิษที่แพทย์นำไปใช้บำบัดโรคและรักษาผู้ป่วย พาราควอตก็ยังเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรไทยต่อไปจนกว่าจะมีสารกำจัดวัชพืชที่ดีกว่ามาใช้

นอกจากนี้ ยังมีรายงานด้านระบาดวิทยา ประเทศออสเตรเลีย พ.ศ. 2559 พบว่าไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะสรุปว่า การสัมผัสพาราควอตมีส่วนสัมพันธ์กับพาร์กินสัน และสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อม สหรัฐอเมริกา ศึกษาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540, 2546, 2549 และ 2555 พบว่า พาราควอต ไม่เป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์ ไม่มีผลต่อระบบสืบพันธุ์หรือตัวอ่อน ไม่ทำให้เกิดการกลายพันธุ์ ไม่มีผลต่อระบบประสาท ไม่เกี่ยวข้องกับการยับยั้งการทำงานของต่อมไร้ท่อ ไม่ยับยั้งการทำงานของเอ็นไซม์โคลีนเอสเตอเรส และไม่มีผลทำให้ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง สอดคล้องกับผลการศึกษาขององค์กรอนามัยโลก และการศึกษาภายในประเทศไทยของโดยแพทย์ในหลายสถาบัน รวมทั้งมีรายงานจากหน่วยงานของออสเตรเลียว่ามีการใช้พาราควอตในอีก 80 ประเทศ

นางสาวอัญชุลี ลักษณ์อำนวยพร ประธานเครือข่ายอาสาคนรักแม่กลอง กล่าวเสริมว่า “ปัจจุบัน ยังไม่มีสารใดมาทดแทนพาราควอตได้ และสารชีวภัณฑ์บางยี่ห้อที่มีจำหน่ายในท้องตลาดทั่วไป ไม่มีการขึ้นทะเบียนที่ถูกต้อง และมีการผสมของสารเคมี ไม่ได้เป็นสารธรรมชาติตามที่กล่าวอ้าง โดยมีผลการตรวจสอบล่าสุดเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาจากกรมวิชาการเกษตร จากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และประสบการณ์ตรง ทั้งในเรื่องผลกระทบต่อสุขภาพ สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจและสังคม จึงเป็นเหตุให้คณะกรรมการฯ จึงได้ตัดสินใจ ไม่ให้ยกเลิกการใช้ 3 สารเคมี ในขณะที่ข้อกล่าวอ้างต่าง ๆ นั้น ไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน”

“สุดท้ายนี้ อยากให้ผู้ต่อต้านพาราควอต รณรงค์ยกเลิกห้ามจำหน่ายบุหรี่และสุราในประเทศไทย เพราะอันตรายมากกว่าพาราควอต 300 เท่า ซึ่งมีการเสียชีวิตจากบุหรี่ต่อปีมากกว่า 100,000 ราย” นางสาวอัญชุลี ลักษณ์อำนวยพร กล่าวสรุป

อนึ่ง 'มูลนิธิชีววิถี' (BIOTHAI) เคยได้ออกมาตั้งข้อสังเกตการเคลื่อนไหวของ 'สมาพันธ์เกษตรปลอดภัย' ว่าเป็นองค์กรที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นหลังจากการมีข้อเสนอให้มีการแบนพาราควอต โดยผู้ก่อตั้งมักปรากฎตัวและทำกิจกรรมร่วมกับ 'สมาคมอารักขาพืช' ซึ่งเป็นสมาคมการค้าที่จัดตั้งขึ้นโดยบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายพาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส รายใหญ่ในประเทศไทย (คลิ๊กอ่านเพิ่มเติมในสำนักข่าวอิศรา)

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท