รายงานขององค์กรจับตามองกลุ่มหัวรุนแรงในสหรัฐฯ ระบุว่ามีกลุ่มความเกลียดชังหรือ 'เฮทกรุป' (hate groups) มากขึ้นเรื่อยๆ ในสหรัฐฯ นับตั้งแต่โดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นเป็นประธานาธิบดี ในขณะที่ทางการสหรัฐฯ เปิดเผยว่าพวกเขาสามารถยับยั้งแผนการ 'ก่อการร้ายจากคนในประเทศ' เอาไว้ได้ โดยที่แผนการดังกล่าวมาจากกลุ่มคนขาวหัวรุนแรงที่พยายามก่อเหตุโจมตีในวงกว้างต่อกลุ่มคนที่พวกเขามองว่าเป็นศัตรูทางการเมืองของทรัมป์ กลุ่มชาตินิยมหัวรุนแรงนี้มีเป้าหมายต้องการทำให้ประเทศสหรัฐฯ กลายเป็น 'มาตุภูมิของคนขาว'
ที่มาภาพ: U.S. Attorney’s Office for the District of Maryland อ้างใน commondreams.org
24 ก.พ. 2562 เมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้วทางการสหรัฐฯ จับกุม เจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังรักษาชายฝั่ง ร.ท. คริสโตเฟอร์ พอล ฮัสสัน หลังจากที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนกล่าวหาว่าเขากักตุนอาวุธเพื่อก่อเหตุรุนแรงภายในสหรัฐฯ โดยเป้าหมายของเขาเป็นนักการเมืองและสื่อมวลชน ได้แก่ แนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนฯ สหรัฐฯ, วุฒิสมาชิก อลิซาเบธ วอร์เรน, นักการเมืองคนรุ่นใหม่ อเล็กซานเดรีย โอแคซิโอ-คอร์เทซ ซึ่งทั้งหมดนี้มาจากพรรคเดโมแครต นอกจากนี้ยังมีเป้าหมายเป็นนักการเมืองรายอื่นๆ รวมถึงสื่อมวลชนอีกหลายคน เช่น โจ สการ์เบอโรห์ ผู้ประกาศข่าว MSNBC
รัฐบาลสหรัฐฯ ระบุในเอกสารของศาลว่า "จำเลยมีเจตนาจะสังหารพลเรือนผู้บริสุทธิ์จำนวนมากในระดับแทบจะไม่เคยมีมาก่อนในประเทศนี้"
มีการจับกุมฮัสสัน 1 วัน หลังจากที่ศูนย์เซาธ์เทิร์นโพเวอตีลอว์ (SPLC) ศูนย์ที่ติดตามเรื่องกลุ่มสุดโต่งในสหรัฐฯ เปิดเผยรายงานการวิจัยระบุว่า มีจำนวนกลุ่มความเกลียดชังเพิ่มมากขึ้นในสหรัฐฯ ติดต่อกันมาเป็นเวลา 4 ปีแล้ว โดยที่กลุ่ม SPLC ชี้ให้เห็นว่าการใช้โวหารเหยียดเชื้อชาติของทรัมป์รวมถึงนโยบายและประวัติการส่งเสริมความรุนแรงต่อสื่อและต่อผู้วิจารณ์ตัวเขากลายเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการรวมกลุ่มจากความเกลียดชังอย่างแพร่หลายมากขึ้น
SPLC ระบุในรายงานว่าปริมาณกลุ่มความเกลียดชังที่มีปฏิบัติการทั่วสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ถึง 1,020 กลุ่มในปี 2561 ในขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์โหมไฟให้คนขาวเกลียดชังผู้พยพและการเปลี่ยนแปลงเชิงประชากรศาสตร์ในประเทศ
เฮย์ดี เบริช ผู้อำนวยการโครงการข้อมูลข่าวสารของ SPLC กล่าวว่าทรัมป์ไม่ได้เป็นแต่คนที่ทำให้เกิดการแบ่งขั้วตรงข้ามเท่านั้น แต่ยังทำให้เกิดการกลายเป็นพวกหัวรุนแรงด้วย เพราะทรัมป์ไม่ได้ลดความเกลียดชังแต่ทำการยกระดับความเกลียดชังมากขึ้นทั้งจากโวหารและนโยบายของเขา
ในรายงานการสืบสวนสอบสวนของทางการกลางสหรัฐฯ ระบุว่าฮัสสันกำลังวางแผนโจมตีคนที่ต่อต้านทรัมป์ โดยมีข้อมูลการพยายามค้นหาด้วยกลุ่มคำว่า "สงครามกลางถ้าหากมีการถอดถอนทรัมป์" เป็นต้น
โอแคซิโอ-คอร์เทซ หนึ่งในนักการเมืองที่ถูกตั้งเป้าโจมตีในครั้งนี้กล่าวเรียกร้องให้สื่อต่างๆ เลิกรายงานข่าวแบบ 'สะเพร่า' เช่นการรายงานข้อมูลรายละเอียดส่วนบุุคคล หรือเรื่องการเน้นใส่สีตีไข่ทฤษฎีสมคบคิดที่ไม่มีการตรวจสอบซึ่งแพร่สะพัดไปในกลุ่มความเกลียดชังฝ่ายขวา
"ทรัมป์ได้ให้ทำให้กลุ่มที่เชื่อว่าคนขาวดีกว่าชนชาติอื่นเปล่งเสียงความโกรธและความหวาดระแวงของตัวเองออกมา และตอนนี้ก็เป็นช่วงอันตรายอย่างมากเมื่อกลุ่มหัวรุนแรงเริ่มหมดความหวังที่พวกเขาเคยมีให้กับการเป็นประธานาธิบดีของทรัมป์ บางคนจะระบายความโกรธนี้ใส่คนที่พวกเขาทำให้กลายเป็นตัวร้ายและคนที่พวกเขากล่าวหาว่าเป็นปัญหาของอเมริกา" เบริชกล่าว
เรียบเรียงจาก
As Hate Crimes Soar Under Trump, White Nationalist Allegedly Had Plan to Kill 'Innocent Civilians on Scale Rarely Seen' in US, Common Dreams, 21-02-2019
https://www.commondreams.org/news/2019/02/21/hate-crimes-soar-under-trump-white-nationalist-allegedly-had-plan-kill-innocent
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)