Skip to main content
sharethis

27 ก.พ. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 ก.พ. สภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรรมศาสตร์ ร่วมกับเครือข่ายเยาวชนสังเกตการณ์การเลือกตั้ง (We Watch) ได้จัดเวทีเสวนาการเลือกตั้งหัวข้อ “นโยบายแรกที่คุณจะทำหากได้เป็นรัฐบาล” ที่อาคารบรรยายรวม 1 ห้อง 201 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต โดยมีผู้ร่วมเสวนาเป็นตัวแทนจาก 5 พรรคการเมืองประกอบด้วย พรรณิการ์ วานิช พรรคอนาคตใหม่, เกตินิคม กฤษณะเศรณี พรรครวมประชาชาติไทย, อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี พรรคประชาธิปัตย์, ร้อยโทหญิงสุณิสา ทิวากรดำรง และกรวีร์ ปริศนานันทกุล พรรคภูมิใจไทย ดำเนินการเสวนาโดย โอมาร์ หนุนอนันต์ ผู้ประสานงานเครือ We Watch

เริ่มแรก โอมาร์ หนุนอนันต์ ผู้ดำเนินรายการได้ชี้แจงให้ผู้ร่วมเสวนาทุกคนทราบว่า เวทีนี้จะมีคำถามหลักทั้งหมด 5 คำถามให้ตัวแทนพรรคการเมืองแต่ละคนได้ตอบภายในเวลา 3 นาที โดยคำถามทั้งหมดเป็นการเปิดโอกาสให้แต่ละพรรคการเมืองได้แสดงแนวคิด และนโยบายในแต่ละด้านประกอบด้วย นโยบายด้านสิ่งแวดล้อม, นโยบายด้านการศึกษา, นโยบายด้านเศรษฐกิจ, นโยบายด้านการจัดการปัญหาคอร์รัปชัน และจุดยืนทางการเมืองหลังการเลือกตั้ง

นโยบายสิ่งแวดล้อม

รปช. ชูแก้ปัญหาฝุ่นควันด้วยการเพิ่มค่าปรับไซต์งานก่อสร้างที่สร้างฝุ่น

เกตินิคม มองว่าการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมต้องแก้ที่ 2 จุดคือ การแก้ไขปัญหาในเชิงระบบ และการแก้ที่ตัวบุคคล เขายกตัวอย่างถึงปัญหาฝุ่นควัน PM 2.5 ที่เป็นปัญหาอยู่ในเวลานี้ว่าเกิดจากการก่อสร้างในหลายจุดไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างรถไฟฟ้า หรือห้างสรรพสินค้าซึ่งไม่สามารถหยุดการดำเนินการก่อสร้างของเอกชนได้ เพราะเป็นการขยายความเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ พบว่ากำลังประสบปัญหาเดียวกัน ไทยไม่ได้เป็นประเทศเดียวในโลกที่มีปัญหานี้

เกตินิคม กล่าวต่อไปถึงการแก้ปัญหาว่า สามารถทำได้โดยการควบคุมการก่อสร้างให้มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม หากพบว่าไซต์งานก่อสร้างแห่งใดละเลยในเรื่องสิ่งแวดล้อมก็จะต้องเสียค่าปรับ ซึ่งปัจจุบันนี้หากเทียบค่าปรับกับราคาที่เอกชนจะต้องจ่ายหากทำให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมพบว่าค่าปรับยังถูกกว่าค่าดำเนินการจำกัดฝุ่นควันไม่ให้ออกมาจากไซต์งาน หากมีการเพิ่มค่าปรับให้แพงขึ้นก็จะทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนการทำงานโดยคำนึงถือเรื่องของมลภาวะทางอากาศมากขึ้น

ส่วนการแก้ปัญหาตัวบุคคล เกตินิคม เห็นว่าหากประชาชนร่วมด้วยช่วยกันลดการสร้างฝุ่นควัน ลดการใช้รถ และหันมาใช้บริการขนส่งสาธารณะแทนก็จะสามารถช่วยลดปัญหาฝุ่นควันได้

ปชป. เน้นสร้างสวนสาธารณะกลางเมือง ตั้งคำถามทำไม คสช. ไม่ใช้ ม.44 ปลดล็อคการนำเข้าหน้ากากกันฝุ่น

อรรถวิชช์ ระบุว่า เวลานี้มีที่ดินของหน่วยงานราชการจำนวนมากที่ถูกปล่อยทิ้งไว้ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดซึ่งส่วนมากเป็นที่ดินในสังกัดของกรมธนารักษ์ ที่ดินเหล่านี้ควรจะถูกนำมาใช้สร้างประโยชน์โดยการสร้างเป็นสวนสาธารณะกลางเมือง ส่วนบริการขนส่งสาธารณะอย่างรถเมล์ควรเปลี่ยนเป็นรถระบบไฟฟ้า หรือรถแท็กซี่ เมื่อหมดสัมปทานก็ควรสนับสนุนให้ใช้เป็นรถยนต์ระบบไฟฟ้าทั้งหมด

อรรถวิชช์ ระบุต่อว่า การแก้ไขปัญหาเฉพาะที่เร็วที่สุดในเวลานี้ คือการปลดล็อคการนำเข้าหน้ากากกันฝุ่นควัน ซึ่งการจะนำเข้าเวลานี้จะต้องขออนุญาตก่อน ซึ่งไม่แน่ใจว่าทำไมรัฐบาลจึงไม่ใช้มาตรา 44 ในการปลดล็อคเรื่องนี้เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าตรงนี้ก่อน

ภูมิใจไทย สร้างระบบขนส่งสาธารณะที่ดี ลดวันทำงาน-ลดจำนวนรถยนต์บนท้องถนน

กรวีร์ กล่าวว่า ในมหานครใหญ่ทั่วโลก ไม่มีที่ไหนที่จะอยู่โดยปราศจากระบบการขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ มีความรวดเร็ว ตรงต่อเวลา และมีความสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นประเทศในทวีปยุโรป หรือประเทศใหญ่ๆ ในทวีปเอเชีย ถ้าประเทศไทยมีระบบการขนส่งสาธารณะที่ดีเชื่อว่า ไม่มีใครที่อยากจะขับรถออกมาจากบ้านทุกวัน ในประเทศที่พัฒนาแล้วหลายประเทศแทบจะไม่มีความจำเป็นในการมช้รถยนต์ส่วนตัว เพราะทุกที่สามารถที่เดินทางไปได้โดยขนส่งสาธารณะ ซึ่งเรื่องนี้จะต้องใช้เวลาในการแก้ไขปัญหาค่อนข้างนาน และใช้งบประมาณมหาศาล

กรวีร์ กล่าวต่อไปถึง ระบบการขนส่งทางน้ำในกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สำคัญ แต่ไม่ได้รับความใส่ใจ ผู้โดยสารไม่ได้รับความสะดวกสบาย อีกทั้งสภาพแวดล้อมก็ไม่ได้ถูกปรับปรุง แต่ระบบการขนส่งทางน้ำเป็นเรื่องที่สามารถแก้ไขได้ง่ายกว่า และเร็วกว่า

กรวีร์ ชี้ว่า เรื่องที่เป็นนโยบายของพรรคภูมิใจซึ่งเกี่ยวข้องกับการลดการสร้างมลภาวะคือ การปรับลดวันทำงานจาก 5 วัน ให้เหลือ 4 วันต่อ 1 สัปดาห์ ก็จะสามารถช่วยลดจำนวนประชากร และจำนวนรถยนต์ที่จะออกมาบนท้องถนน

เพื่อไทย เสนอยกเว้นภาษีรถยนต์ไฟฟ้า เพิ่มสถานีบริการพลังงานไฟฟ้า หนุนประชาชนเปลี่ยนพฤติกรรม

ร้อยโทหญิงสุณิสา กล่าวว่า มาตรการป้องกันปัญหามลภาวะทางอากาศหรือฝุ่นควันที่ยั่งยื่นที่สุดคือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน เช่นการลดการใช้รถยนต์ที่สร้างมลพิษ เพราะเป็นสาเหตุสำคัญในการก่อให้เกิดมลภาวะทางอากาศ โดยรณรงค์ให้ประชาชนหันมาใช้รถยนต์ที่ใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น เช่นรถยนต์ระบบไฟฟ้า

ร้อยโทหญิงสุณิสา กล่าวต่อว่า ปัจจุบันคนยังไม่กล้าที่จะเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ระบบไฟฟ้า ด้วยสาเหตุหลายปัจจัย สิ่งที่รัฐบาลควรจะทำคือการส่งเสริมให้ประชาชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น การยกเว้นกำแพงภาษีสำหรับรถยนต์ที่ใช้พลังงานสะอาด และกระตุ้นให้สถานประกอบการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า หรือปั๊มน้ำมันเอง จัดเตรียมพื้นที่สำหรับการชาร์ตแบตให้รถยนต์ระบบไฟฟ้า เพื่อรองรับการใช้รถยนต์ระบบไฟฟ้าของประชาชน นอกจากนี้รัฐบาลควรจัดให้มีระบบการขนส่งสาธารณะที่ครอบคลุม

อนาคตใหม่ ชี้ทัศนคติของผู้นำเป็นสิ่งสำคัญในการจัดการปัญหา

พรรณิการ์ มองว่า วิสัยทัศน์ของผู้นำในการมองปัญหา การจัดการปัญหา การทำงานบูรณาการทำงานร่วมกัน เป็นสิ่งที่สำคัญมากในช่วงเวลาที่บ้านเมืองประสบกับปัญหา PM 2.5 ซึ่งที่ผ่านมาผู้นำไม่สามารถที่จะตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนในปัญหาดังกล่าวได้อย่างท่วงที ถึงแม้ว่าตนจะมีอำนาจสั่งการที่เด็ดขาดกว่ารัฐบาลพลเรือน แต่กลับไม่สามารถที่จะตอบสนองได้

เธอกล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา ข้อมูลเรื่องสิ่งแวดล้อมจากแอพพลิเคชันของรัฐบาลมักมีข้อมูลที่คลาดเคลื่อนกับข้อมูลของหน่วยงานเอกชน อีกทั้งการประกาศแจ้งเตือนประชาชนมีความล่าช้า ขาดประสิทธิภาพ เธอยกตัวอย่างถึงประเทศญี่ปุ่นในการแจ้งเตือนภัยพิบัติแบบเรียลไทม์ ซึ่งประชาชนสามารถเข้าถึงได้โดยตรง ทำให้มีการแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็วในช่วงระยะเวลาสั้นๆ

พรรณิการ์ เน้นย้ำการแก้ปัญหาระยะยาวว่า ทางพรรคขอเสนอการใช้รถสลับวันเหมือนในยุโรปที่เคยทำ สนับสนุนการลดราคาโดยสารสาธารณะ ส่งเสริมการวิจัยแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ การสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าหรืออุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า และเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเมืองใหญ่ต่างๆ ซึ่งจะเป็นการป้องกันมลพิษในระยะยาวได้อย่างดีที่สุด

นโยบายด้านการศึกษา

ปชป. ปัดฝุ่นการศึกษาทางไกล เพิ่มการกระจายอำนาจทางการศึกษาของแต่ละพื้นที่ในโรงเรียน

อรรถวิชช์ ยกมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม หรือ E-learning ซึ่งเคยมีมาก่อน แต่ด้วยในปัจจุบันซึ่งเทคโนโลยีพัฒนาไปไกลมากแล้ว แต่การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม กลับไม่ถูกนำมาใช้เลย สิ่งนี้เป็นสิ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก เพื่อการศึกษาที่ห่างไกลสามารถเข้าถึงการเรียนการสอนที่ดีมากขึ้น

เขา กล่าวต่อไปถึงการกระจายอำนาจทางการศึกษา ในโรงเรียนต่างๆ ที่ควรจะจัดการการศึกษาในโรงเรียนของตนเอง สอดคล้องกับบริบท วัฒนธรรม ในพื้นที่ของตน อย่างโรงเรียนในพื้นที่การท่องเที่ยว จะต้องสามารถที่จะสนับสนุนการเรียนภาษา ปัจจุบันความสามารถของโรงเรียนประเทศเรามันกระจุกตัวอยู่แค่ในเมือง หรือบางจังหวัดเท่านั้นที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเรื่องเหล่านี้ควรจะต้องถูกกระจายออกไปผ่านการกระจายอำนาจ

ภูมิใจไทย ยกระดับความสามารถครู เล็งเห็นถึงการใช้เทคโนโลยีในการเรียน 

กรวีร์ กล่าวถึงการปรับหลักสูตรการผลิตครูให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น และผลักดันการใช้เทคโนโลยีร่วมกับการเรียนในแต่ละโรงเรียนทั้งระดับชั้นประถม มัธยม และมหาวิทยาลัย สามารถเข้าถึงการศึกษาที่ดี ที่มีคุณภาพ ยกตัวอย่างโรงเรียนในพื้นที่ชนบท ที่มีจำนวนนักเรียนน้อย ครูน้อย ส่งผลให้ครูแต่ละคนต้องสอนหลายๆ วิชารวมกัน หากมีการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ สามารถที่จะนำครูที่เก่งที่สุด หรือผู้ที่มีประสบการณ์ที่เชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ มาสอนออนไลน์ เปิดโอกาสให้กับเยาวชน นักเรียน ไม่ว่าจะขาดโอกาสต่างๆ สามารถที่จะเข้าถึงการศึกษาที่ดี ที่มีคุณภาพไม่ต่างกับการเรียนในกรุงเทพฯ

เพื่อไทย ปรับการศึกษาให้คนรุ่นใหม่กล้าคิด กล้าตั้งคำถาม กับการเข้าถึงการศึกษาที่เพิ่มมากขึ้น

ร้อยโทหญิงสุณิสา กล่าวว่าการปรับการศึกษาที่ทันสมัยในโลกตะวันตก ได้ส่งผลให้นักเรียนเปิดกว้างทางความคิดเห็น กล้าที่จะคิด กล้าที่จะพูด ในต่างประเทศซึ่งมีโครงสร้างทางการศึกษาที่กว้างขวาง นักเรียนสามารถค้นหาความรู้ในที่ต่างๆ โดยที่รัฐจะต้องหนุนเสริมผ่านทุน ผ่านการเรียนที่หลากหลาย

ร้อยโทหญิงสุณิสา เน้นย้ำในภาพรวมของหลายๆ พรรคที่ได้ชูประเด็นการเข้าถึงการศึกษาว่ามีความสำคัญอย่างมาก การเข้าถึงการศึกษาไม่จำเป็นต้องใช้ค่าใช้จ่ายมากกว่าที่จำเป็น และไม่จำเป็นที่ผู้เรียนต้องพิสูจน์ว่าตนเองด้อยโอกาสจึงจะได้รับสิทธิในการเข้าถึงการศึกษา แต่การศึกษาควรจะเป็นสวัสดิการที่ทั่วถึง

อนาคตใหม่ ชูกระจายอำนาจจัดการการศึกษา รัฐกุมแค่หลักสูตรแกนกลางเท่านั้น

พรรณิการ์ กล่าวว่า ทางพรรคถอดบทเรียนจากฟินแลนด์ในด้านการกระจายอำนาจ การศึกษาไม่ควรรวมศูนย์ โรงเรียนจะต้องปกครองโดยคณะกรรมการโรงเรียนหรือ School boards ที่มีอำนาจในการจัดการบริหาร เช่นการให้ตัวแทนของผู้ปกครอง เอกชน ครู กลุ่มประชาสังคม ผู้นำชุมชนต่างๆ ให้มาร่วมกันในการที่จะกำหนดการศึกษาในโรงเรียนแต่ละพื้นที่ ว่าหลักสูตรการศึกษา กิจกรรมจะเป็นอย่างไร โดยมีแกนกลางที่รัฐกุมไว้เพียงแค่หลักสูตรแกนกลางเพียงเท่านั้น

พรรณิการ์ ย้ำเรื่องการปรับหลักสูตร เนื่องจากที่ผ่านมาคะแนน PISA ของไทยที่ตกหล่นอย่างน่าใจหาย อนาคตใหม่ต้องการปรับหลักสูตรจากส่วนกลางให้มากที่สุด ลดวิชาที่ไม่เกิดประโยชน์ เพิ่มวิชาชีพที่นักเรียนสามารถนำมาใช้ได้ ให้โรงเรียนต่างๆ สามารถปรับตัวของตัวเองตามพื้นที่ที่ตัวเองอยู่ เช่น สามจังหวัดชายแดนใต้ มีการศึกษาเรื่องอุตสาหกรรมฮาลาล ทางอีสานเพิ่มการเรียนในด้านการพัฒนาในท้องที่ และทางเหนือเพิ่มการศึกษาด้านภาษาจีน เพื่อรองรับการท่องเที่ยวต่างๆ

รปช. เน้นกลุ่มเปราะบางเรียนฟรีถึง ปวส. สนับสนุนทำงานระหว่างเรียนเพื่อจุนเจือครอบครัว

เกตินิคม มองว่าปัญหาการศึกษามีอยู่ 2 กลุ่มด้วยกันคือกลุ่มเปราะบางทางการศึกษา ที่ไม่สามารถเข้าถึงการศึกษาได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากครอบครัวไม่สามารถสนับสนุนการศึกษาได้ จึงทำให้กลุ่มนี้บางส่วนต้องออกมาทำงานเพื่อเลี้ยงดูตนเอง ส่งตัวเองเข้าเรียนได้ รวมทั้งจะต้องเลี้ยงดูคนทางบ้านอีกด้วย ส่งผลให้ไม่มีโอกาสที่จะเรียนหนังสืออย่างเต็มที่ได้ ทางพรรคเล็งเห็นการสนับสนุนการศึกษาฟรีให้ถึง ปวส. เรียนเฉพาะทางที่สามารถจะนำมาประกอบวิชาชีพในระหว่างศึกษาได้อย่างตรงวิชาชีพ สามารถที่จะจุนเจือครอบครัวได้ตลอดเวลา

เกตินิคม กล่าวต่อไปว่า กลุ่มที่สอง คือกลุ่มคนทั่วไปที่สามารถเข้าถึงการศึกษาได้ แต่ขาดโอกาสที่จะค้นหาชีวิตของตัวเอง ทางพรรคจะสนับสนุนให้มีการเรียนวิชาชีพเพิ่มขึ้น จัดให้มีการศึกษาที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น เพื่อนักเรียนนักศึกษาสามารถที่จะนำมาใช้ในชีวิตได้อย่างเต็มที่

นโยบายด้านเศรษฐกิจ

ปชป. ชี้ว่าการลดความหลื่อมล้ำไม่ใช่การลดแลกแจกแถม เน้นประกันราคาข้าว ประกันรายได้ต่อปีของประชาชน

อรรถวิชช์ ชี้ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะยกเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำควบคู่ไปกับการเพิ่มรายได้ เพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวนา ย้ำว่าจะไม่ใช่การลดแลกแจกแถม แต่จะเป็นการประกันรายได้เกษตรกร สมมติว่ารัฐรับซื้อราคาข้าวอยู่ที่หนึ่งหมื่นบาทต่อตัน ชาวนานำข้าวมาขายในราคาตามที่กำหนด และรัฐนำมาขายในตลาดแปดพันบาท เพราะฉะนั้น รัฐมนตรีเกษตรจะต้องจัดการในส่วนประกันราคาข้าวให้ได้ สิ่งที่สำคัญคือจะต้องทำให้ชาวนาได้รับราคาตามที่รัฐบาลตั้งไว้ ไม่ใช่ไปหักค่าต่างๆ แน่นอนว่ารัฐสูญเสียกำไรอยู่แล้ว แต่เพื่อให้เงินมันสามารถมาถึงมือชาวนา ประชาชน จริงๆ

อรรถวิชช์ ย้ำเรื่องการขึ้นรายได้ขั้นต่ำที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการขึ้นรายได้ขั้นต่ำแบบก้าวกระโดดมากเกินความเป็นจริง ซึ่งการปรับขึ้นจะต้องไม่เป็นแบบก้าวกระโดด เพราะจะเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยด้วย สิ่งที่พรรคคิดว่าทำได้คือ ประกันรายได้ขั้นต่ำในแต่ละปีอยู่ที่ 120,000 บาท ถ้าได้ต่ำกว่านั้น รัฐจะจ่ายเข้าโดยตรงผ่านบัญชีธนาคาร ซึ่งพิสูจน์มาแล้วว่าเราสามารถรักษาวินัยทางการคลังได้

ภูมิใจไทย ปัดการยื่นเงินให้เปล่าอย่างบัตรคนจน พรรคยกการเพิ่มรายได้ให้พี่น้องเกษตรกร

กรวีร์ กล่าวว่า การให้เงินเปล่าแก่ประชาชนเพียงอย่างเดียวไม่สามารถแก้ไขปัญหาความเหลือมล้ำได้ พรรคภูมิใจไทยต้องการที่จะเพิ่มรายได้ หรือระบบการแบ่งปันกำไร ซึ่งเกษตรกรเป็นอาชีพที่มีอยู่เยอะที่สุดในประเทศ เราจะไม่นำรายได้ของรัฐบาลมาอุ้มชาวนา แต่ของเราจะเอากำไรที่เราได้ในระบบ มารวมไว้ และแบ่งปันกำไรให้ชาวนา ชาวไร่ ให้กับทุกฝ่าย เพื่อเพิ่มรายได้และลดการขาดทุน

กรวีย์ กล่าวต่อไปถึง ตลาดใหม่อย่าง Grab สามารถที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินทรัพย์ เช่นรถยนต์ ซึ่งประชาชนสามารถนำมาสร้างรายได้เพิ่ม ดังนั้นการสนับสนุน Grab ให้มันถูกกฎหมาย หรือสนับสนุนให้ประชาชนสามารถนำสินทรัพย์ของตัวเองมาประกอบการ มาทำมาค้าขายโดยที่ไม่ถูกจำกัดโดยกรอบกฎหมาย จึงเป็นสิ่งที่พรรคต้องการสนับสนุนอย่างเต็มที่ และการสนับสนุนพืชเศรษฐกิจใหม่ เพื่อเพิ่มตัวเลือกในตลาด อย่างกัญชาทางการแพทย์ ควรให้ประชาชนสามารถปลูกได้เอง เพื่อนำมาค้าขายให้แก่การทำประโยชน์ทางการแพทย์ ซึ่งสามารถเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรอย่างมหาศาล

เพื่อไทย เผยปัจจัยที่จะทำให้เกิดการเพิ่มรายได้ของประชาชนได้ คือการมีของรัฐบาลประชาธิปไตย

ร้อยโทหญิงสุณิสา กล่าวว่า หัวใจหลักของปัญหาเศรษฐกิจไทย คือระบอบการปกครองเผด็จการทหาร ซึ่งได้ทำลายขีดความสามารถในการค้าขายในเวทีโลก ซึ่งไทยถูกกีดกันจากนานาชาติ ทำให้สินค้าไทยไม่สามารถที่จะแข่งในตลาดโลกได้เลย เช่นการขายข้าวที่เราถูกตั้งกำแพงภาษีหรือถูกแบนจากนานาชาติ อันเนื่องจากการปกครองของทหาร อีกทั้งเรายังมีคู่แข่งจากประเทศต่างๆ ดังนั้นเราต้องการที่จะแก้ให้ประเทศไทยมีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น เพื่อให้ประชาชนจากภาคส่วนต่างๆ ได้มีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

อนาคตใหม่ ผลักดันธนาคารท้องถิ่นเพื่อการเข้าถึงของแหล่งทุนของประชาชน

พรรณิการ์ ชี้ว่าการนำเงินงบประมาณของรัฐไปใช้กับการประกันราคาข้าว จำนวนหลายหมื่นล้านบาท เป็นการแก้ปัญหาปลายเหตุ แต่ควรจำนวนเงินเหล่านั้นมาสร้างอุตสาหกรรมที่ชาวนาเป็นผู้ประกอบการอย่างเต็มตัว หรือการสร้างเกษตรกรรมก้าวหน้า พรรคอนาคตใหม่จะสร้างให้เกษตรกรสามารถที่จะเข้าหาถึงทุนได้ง่าย เพื่อที่จะให้เป็นผู้ประกอบการได้กู้ยืม ลงทุนในธุรกิจตัวเอง ไม่ใช่แค่เกษตรกรรม รวมถึงธุรกิจอย่างอื่น

พรรณิการ์ กล่าวเสริมว่า การเข้าถึงเงินทุนจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย ถ้าไม่มีการผลักดันให้เกิดธนาคารท้องถิ่น ประเทศไทยมีธนาคารที่น้อยมากถ้าเทียบกับสัดส่วนประชากร ประเทศญี่ปุ่นมีธนาคาร 500 กว่าธนาคาร มีธนาคารทุกๆ จังหวัด ประเทศไทยมี 13 ธนาคาร และทั้งหมดล้วนแล้วอยู่ในกรุงเทพมหานครทั้งสิ้น และปัญหาที่เกิดขึ้นคือประชาชนขาดความสามารถในการเข้าถึงแหล่งทุนที่ถูกผูกขาดอยู่ไม่กี่ธนาคาร การเกิดขึ้นของธนาคารท้องถิ่นจะทำให้เกิดการหมุนเวียนเงินในท้องถิ่นมากขึ้น และธนาคารท้องถิ่นจะสามารถปล่อยกู้ ปล่อยทุนได้ง่ายกว่า มีการเก็บดอกเบี้ยที่ต่ำ ซึ่งจะส่งผลให้ประชานสามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้ง่ายขึ้น

รปช. ผลักดันการขยายตัวของวิชาชีพ

เกตินิคม ระบุว่าประชาชนที่มีความเปราะบางในด้านการทำงานมีอยู่ สองกลุ่มด้วยกัน คือกลุ่มเกษตรกร โดยที่ผ่านมาไม่สามารถเข้าแหล่งเงินทุน ไม่สามารถถือครองปัจจัยการผลิต ชาวนาเสียเปรียบจากพ่อค้าคนกลาง โรงสี ส่วนกลุ่มเปราะบางที่เป็นแรงงาน ทางพรรครวมพลังประชาชาติไทยจะผลักดันให้มีการขยายตัวของวิชาชีพ และเพิ่มเวลาให้มากพอที่จะให้สามารถที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของตัวเองได้

นโยบายคอร์รัปชัน

ปชป. ยกใช้เทคโนโลยีตรวจสอบการคอร์รัปชัน

อรรถวิชช์ กล่าวว่าควรสนับสนุนให้ประชาชนมีความกล้าในที่จะตรวจสอบการทำงานของผู้ใช้อำนาจรัฐ อย่างในปัจจุบัน องค์กรต่างๆ ไม่มีความกล้าที่จะทำตามกฎหาย และแทบไม่เหลือองค์กรไหนที่ประชาชนจะสามารถพึ่งพิงได้เลย พรรคประชาธิปัตย์สนับสนุนการใช้เทคโนโลยีเพื่อตรวจสอบในหน่วยงานราชการต่างๆ เพื่อลดการโกง สร้างความมีส่วนร่วมโดยตรงของประชาชนควบคู่ไปกับการทำงานของราชการ

ภูมิใจไทย ชี้การขาดหายไปของนักการเมืองตลอด 5 ปีที่ผ่านมา การคอร์รัปชันไม่ได้ลดลง

กรวีย์ ระบุว่าความคิดว่าด้วยนักการเมืองคือผู้ที่ทำการทุจริตเป็นความคิดที่อยู่กับสังคมไทยมานาน แต่ในเวลานี้ประเทศไทยไม่มีนักการเมืองมา 5 ปี แต่ก็ยังพบว่ามีการทุจริตคอร์รัปชันอยู่ ในปัจจุบันยังมีการคอร์รัปชันมหาศาล เป็นเพราะว่าองค์กรอิสระต่างๆ ไม่มีความเป็นอิสระจากรัฐบาล สิ่งที่สำคัญที่สุด คือการตรวจสอบจากประชาชน เพื่อถ่วงดุลการทำงานของรัฐบาล และในปัจจุบันที่เทคโนโลยีพัฒนาได้ไปไกล สามารถที่จะนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการตรจสอบได้

เพื่อไทย เผยต้นทางการคอร์รัปชันคือการ สกัดกั้นการแสดงความคิดเห็น

ร้อยโทหญิงสุณิสา กล่าวว่าการจะแก้ปัญหาได้ คือทำให้สังคมไทยได้รับรู้การลงโทษจากการโกงอย่างตรงไปตรงมา ปัจจุบันที่เราอยู่ภายใต้เผด็จการ มีการแต่งตั้งพรรคพวกกันเองเขาไปอยู่ในองค์กรอิสระต่างๆ ซึ่งเป็นการทำลายความเป็นองค์กรอิสระ จนหมดความน่านับถือ

ร้อยโทหญิงสุณิสา กล่าวต่อไปว่า ปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้การตรวจสอบการโกงอย่างยุติธรรมและตรงไปตรงมา คือการมีอิสระเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น แต่ในปัจจุบันกลับมีการฟ้องร้องคดีความ โดยใช้ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ เป็นเครื่องมือจึงทำให้ประชาชนกลัวที่จะตรวจสอบ

อนาคตใหม่ เน้นการตรวจสอบจากประชาชนผ่านเทคโนโลยีที่ทันสมัย ผลักดันการคุ้มครองผู้เปิดโปงการทุจริต

พรรณิการ์ สนับสนุนให้ใช้เทคโนโลยีในการตรวจสอบการทำงานหน่วยงานต่างๆ ซึ่งประชาชนสามารถเข้าดูได้ในฐานข้อมูลที่เปิดเผย Open Data รวมทั้งผลักดันการคุ้มครองพยานหรือผู้เปิดโปงการทุจริตคอร์รัปชัน

พรรณิการ์ กล่าวต่อไปว่า สิ่งที่สำคัญที่สุด คือการให้ประชาชนเลือกได้ว่า ภาษีที่เสียไปในแต่ละปีควรจะนำไปพัฒนาในด้านใด ยกตัวอย่างประเทศญี่ปุ่นที่เปิดให้ประชาชนแสดงความเห็นได้ว่า ภาษีที่จ่ายให้รัฐไปนั้นจะไปอยู่ที่ส่วนไหนของประเทศ

รปช. ปลุก Social sanction เพื่อทำให้สังคมไทยเกลียดการโกง

เกตินิคม ระบุว่า ทุกวันนี้การโกงมีอยู่ทุกมุมของสังคม ซึ่งเรียกว่า การโกงที่ควบคุมได้ เป็นการโกงที่ฝังรากลึกลงในสังคม ซึ่งล้วนแล้วมันเป็นความเคยชินในชีวิตประจำวัน พรรคจึงต้องการทำให้มี Social Sanction สร้างวัฒนธรรมการกำจัดการโกงจากสังคม สร้างจิตสำนึกให้ประชาชนรับรู้ได้ว่า การโกงคือฉุดรั้งประเทศชาติ สร้างความเสียหายต่อชีวิต และการโกงด้วยระบบ ที่ส่งผลต่อความเสียหายต่อประเทศ ดังนั้นการส่งเสริมให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบเป็นเรื่องที่สำคัญ

จุดยืนทางการเมืองหลังการเลือกตั้ง

ปชป. ย้ำจุดยืนทางการเมืองของตัวเองที่ไม่ใช่คู่ขัดแย้งอีกแล้ว และพรรคไม่เคยทำให้การเมืองเกิดเงื่อนไขให้มีรัฐประหาร

อรรถวิชช์ ยกประสบการณ์ที่ผ่านมา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งทำให้เกิดความวุ่นวายก่อนการรัฐประหาร และนำมาสู่รัฐบาลทหาร ยอมรับว่าก่อนการรัฐประหาร ประชาธิปัตย์เป็นคู่ขัดแย้งของพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด ต่อมาพลเอกประยุทธ์มาเป็นตัวกลาง แต่ตอนนี้กลับมาเป็นตัวละครเสียเอง โดยมีพรรคพลังประชารัฐสนับสนุนอย่างเต็มที่

อรรถวิชช์ กล่าวต่อไปว่า ตอนนี้เหลือคู่ขัดแย้งสองฝั่งเท่านั้น คือฝั่งที่เอาพลเอกประยุทธ์ กับไม่เอาพลเอกประยุทธ์ และในตอนนี้มีพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจะขออยู่ตรงกลาง จะขอเป็นกลางในความขัดแย้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้รังเกียจพรรคที่เชียร์ทหาร เพราะเขามาจากการเลือกตั้งเหมือนกัน แต่ถ้าตราบใดที่พรรคพลังประชารัฐมีการโกง ใช้มาตรา 44 แบบนี้ถือว่าไม่แฟร์ ในขณะเดียวกันพรรคประชาธิปัตย์ยืนยันแล้วว่าจะไม่ร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย

ภูมิใจไทย ไม่อยากเห็นความขัดแย้งทางการเมืองอีก ชี้ปากท้องประชาชนสำคัญกว่า

กรวีย์ กล่าวที่ผ่านมาว่า การเมืองไทยเสียเวลาไปมากกับความขัดแย้ง ไม่มีการออกนโยบายที่จะทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างมากที่สุด จุดยืนของพรรคภูมิใจไทยที่มีมาโดยตลอดคือ ไม่ต้องการเป็นคู่แข่ง หรือคู่ขัดแย้งกับพรรคใด  เพราะความขัดแย้งในอดีตได้นำพาประเทศไทยมาอยู่ในจุดที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้

เพื่อไทย ยืนยันไม่ร่วมกับพรรคที่แอบอิงกับทหาร

ร้อยโทหญิงสุณิสา กล่าวว่า การรัฐประหารที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งเกิดจากการที่พรรคการเมืองบางพรรคมีพฤติกรรมที่เอื้อให้เกิดการรัฐประหาร และเวลานี้จุดยืนทางการเมืองของพรรคการเมืองต่างๆ มีความชัดเจนแล้ว แบ่งออกเป็นสองฝั่งคือ ฝั่งที่นิยมทหาร นิยมการรวบอำนาจ สนับสนุนระบอบที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ส่วนอีกฝั่งหนึ่งคือ ฝั่งที่นิยมประชาธิปไตย ซึ่งพรรคเพื่อไทยยืนอยู่ฝั่งนี้มาโดยตลอด

ร้อยโทหญิงสุณิสา ย้ำด้วยว่า พรรคเพื่อไทย จะไม่ร่วมมือพรรคที่ฝักใฝ่อำนาจนิยม อิงแอบทหาร อย่างแน่นอน และสิ่งแรกที่จะทำหากเป็นรัฐบาลคือการปฏิรูปชุดใหญ่ ทั้งด้านการเมือง และเศรษฐกิจ สิ่งที่สำคัญคือการปฏิรูปกองทัพเพื่อเลิกการแทรกแซงทางการเมือง การปรับลดขนาดของกองทัพที่ไม่จำเป็น การยกเลิกการเกณฑ์ทหาร เพื่อทุกคนจะได้มีโอกาสของตัวเองที่จะกำหนด และเพิ่มระบบการสมัครทหารมากขึ้น สร้างความเป็นทหารอาชีพ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของกองทัพ

อนาคตใหม่ ยึดมั่นในจุดยืนทางการเมืองประชาธิปไตย

พรรณิการ์ ระบุว่า พรรคอนาคตใหม่จะสร้างการเมืองที่ยืนอยู่บนหลักประชาธิปไตย เพราะเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่อยากลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลง ประชาชนเป็นองคาพยพที่ใหญ่ที่สุด พรรคต้องการแรงสนับสนุนจากประชาชน ตั้งแต่คนอายุ 18-25 ปี ซึ่งเป็นคนที่จะต้องใช้ชีวิตในอนาคตอีกยาวนาน จึงต้องออกมาทำการเมืองให้เป็นประชาธิปไตย ต่อต้านการสืบทอดอำนาจของทหาร ถ้าประชาชนอยากเปลี่ยน จงเลือกคนใหม่ พรรคใหม่ เพื่อที่อนาคตจะไม่เหมือนเดิม เพื่ออนาคตที่เป็นประชาธิปไตยกว่าอดีตที่ผ่านมา

รปช. ชี้การเมืองไทยแบ่งได้แค่สองฝั่งคือ คนที่เคารพหลักนิติธรรม กับไม่เคารพ ย้ำ รปช ยืนข้างประชาชน

เกตินิคม ชี้ว่า จากจุดเริ่มต้นของการก่อตั้งพรรคมาแรงสนับสนุนจากพี่น้องมวลมหาประชาน ที่ต้องการก้าวออกจากวังวนการเมืองไทยที่วุ่นวาย จากอดีตเหลือง-แดง ปัจจุบันที่แยกเป็นเผด็จการ-ประชาธิปไตย แต่แท้จริงแล้วอาจแบ่งได้ว่าเป็นกลุ่มคนที่ไม่ยอมรับไม่เคารพในหลักนิติธรรม กับกลุ่มคนที่เคารพในหลักนิติธรรม

เกตินิคม กล่าวต่ออีกว่า ที่ผ่านมากลุ่มคนที่เคยเข้าร่วมการชุมนุม ซึ่งถูกตัดสินคดีให้จำคุก บางคนก็เคารพในหลักกฎหมาย ยอมเข้าคุก แต่สิ่งหนึ่งที่เขายอมทำเพราะเป็นการผดุงระบอบประชาธิปไตย เรียกร้องความเป็นธรรมให้ยังคงอยู่ ดังนั้นพรรคมีจุดยืนที่แน่นอนว่ายืนอยู่เคียงข้างประชาชนอย่างแน่นอน
 

หมายเหตุ: 1.สาเล็ม มะดูวา เป็นนักศึกษาฝึกงาน จากคณะรัฐศาสตร์ การปกครอง ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี

2.ภาพประกอบทั้งหมดจากสภานักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net