โฆษกกลาโหม แจงไม่ได้เอาทหารเกณฑ์ไปซักผ้า เพราะทุกบ้านมีเครื่องซักผ้าใช้หมดแล้ว

โฆษกกลาโหมแจงมีเพียง 13 ประเทศในโลกที่ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ชี้ประเทศไทยยังมีความจำเป็นต้องมีทหารเกณฑ์ ระบุทหารเกณฑ์ปัจจุบันมีเกียรติ ไม่ได้เอาไปซักผ้าแบบในละคร เพราะทุกวันนี้ทุกบ้านมีเครื่องซักผ้าหมดแล้ว ด้านหมวดเจี๊ยบ รองโฆษกพรรคเพื่อไทยโต้ ทั่วโลกเลิกทหารเกณฑ์ไปแล้ว 88 ประเทศ ไม่ใช่แค่ 13 ซัดข้ออ้างทั้งหมดของโฆษกกลาโหมไม่มีน้ำหนัก

27 ก.พ. 2562 มติชนออนไลน์ รายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กระทรวงกลาโหม พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ได้แถลงชี้แจงต่อกรณีที่พรรคการเมืองบางพรรคมีนโยบายยกเลิกการเกณฑ์ทหาร โดยระบุว่า รัฐธรรมนูญทุกฉบับ โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญปี 2560 ได้กำหนดหน้าที่ของรัฐในการพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึงรักษาเอกราชอธิปไตย และผลประโยชน์ของชาติ ความมั่นคงของรัฐ และความสงบเรียบร้อยของประชาชน โดยหน้าที่ของรัฐต้องดำเนินการให้มีทหารไว้ เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาประเทศ โดยกองทัพมีหน้าที่เตรียมกำลัง ป้องกันราชอาณาจักร และใช้กำลังตามอำนาจหน้าที่ โดยเฉพาะในพื้นที่เขตแดนทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ

พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า ภาพรวมของทหารมีการใช้กำลัง 1 ใน 3 ไปปฏิบัติภารกิจป้องกันชายแดน รวมถึงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และในส่วน 2 ใน 3 ต้องฝึกตามวงรอบ และปฏิบัติภารกิจ ดูแลความมั่นคงภายในประเทศ ทหารกองประจำการ จึงเป็นกำลังพลหลักของกองทัพ ที่หมุนเวียนกันเข้ามาทำหน้าที่รับใช้ชาติ รวมถึงการดูแลปกป้องภัยคุกคามรูปแบบใหม่ เช่น ภัยยาเสพติด ภัยคุกคามทางไซเบอร์ และภัยพิบัติที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ ภัยก่อการร้ายอาชญากรรมข้ามชาติ การค้ามนุษย์ การแก่งแย่งชิงทรัพยากร รวมถึงโรคระบาดต่างๆ ที่เป็นภัยที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากสงคราม ซึ่งรัฐต้องดูแลเรื่องเหล่านี้ด้วยสำหรับความต้องการทางทหารกองประจำการนั้น ใน 1 ปีมีชายไทยลงทะเบียนเป็นทหารกองเกินไว้ประมาณ 6-7 แสนคน แต่เข้ารับการตรวจเลือกประมาณ 4 -5 แสนคน ส่วนที่หายไปเพราะร่างกายไม่ผ่านการคัดเลือกและอีกส่วนหนึ่งก็มีการขอผ่อนผัน ซึ่งในส่วนความต้องการของกองทัพมีประมาณ 1 แสนคน หรือเป็น 1 ใน 5 ของยอดที่เข้ารับการตรวจเลือก ที่ผ่านมาในแต่ละปีมีคนสมัครใจเป็นทหารกองประจำการประมาณ 20% แต่ในปีพ.ศ. 2557-2558 มียอดสมัครใจ 45%

พล.ท.คงชีพ กล่าวอีกว่า สถานภาพกำลังพลในกองทัพ แบ่งเป็นส่วนประชากร 4% ส่วนสนับสนุนการรบ 7% ส่วนภูมิภาค 14% ส่วนกำลังรบ 63% ส่วนส่งกำลังบำรุง 4% และส่วนการฝึกศึกษา 8% ซึ่งภารกิจของทหารกองประจำการ จะแบ่งเป็นการเตรียมกำลัง และปฏิบัติภารกิจภายในประเทศ 67% ส่วนภารกิจป้องกันชายแดน 33% ที่ผ่านมาเรามีบทเรียนจากในอดีตเมื่อเวลาเกิดสงครามคนไม่มีความพร้อม เพราะไม่ได้รับการฝึกจึงทำให้เกิดการสูญเสียเป็นจำนวนมาก ทางรัฐบาลในสมัยนั้น จึงได้ตราระเบียบการรับราชการทหารปี พ.ศ. 2497 ออกมา เพื่อให้ชายไทยทุกคน เข้ามารับการตรวจเลือกการเป็นทหาร เพื่อดูแลประเทศชาติ เตรียมกำลัง และความพร้อมสามารถเผชิญต่อภัยสงครามได้

ทั้งนี้ในโลกนี้มีอยู่ 39 ประเทศ ที่ยังใช้ระบบการเกณฑ์ทหารอยู่ และ 13 ประเทศที่ยกเลิกการเกณฑ์ทหารไปแล้ว และ 29 ประเทศที่ไม่เกณฑ์หาร แต่ที่ผ่านมาหลายประเทศที่เคยยกเลิกระบบการเกณฑ์ทหาร แล้วนำกลับมาพิจารณาใช้อีกเช่น ประเทศสวีเดน ประเทศลิทัวเนีย และประเทศจอร์แดน ส่วนที่ประเทศอิตาลี โรมาเนีย เยอรมนี และฝรั่งเศส กำลังพิจารณาหลักเกณฑ์การเกณฑ์ทหารกลับมาใช้อีก ส่วนประเทศไทยนั้น เราทำแบบผสม เราจำเป็นต้องใช้การตรวจเลือกทหาร แบบผสมทั้งความสมัครใจ และเกณฑ์ทหารควบคู่กัน ทั้งนี้ทหารที่รับราชการมีอยู่ 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มที่มีความต้องการเป็นทหาร โดยความสมัครใจ 2. กลุ่มที่ถือว่าเป็นหน้าที่ของชายไทย ที่ต้องทำตามกฎหมาย กลุ่มนี้ก็จะเข้ามารับการตรวจเลือกและจับสลากใบดำ-ใบแดง และ 3. กลุ่มที่ไม่ต้องการรับราชการทหารเลย แม้จะมีแรงจูงใจมากเท่าไรก็ตาม

“อย่างไรก็ตาม ระบบการเกณฑ์ทหาร กำลังมีการพิจารณาควบคู่ไปกับระบบกำลังสำรอง เช่น นักศึกษาวิชาทหาร ที่มีการเปิดรับนักศึกษาวิชาทหาร สามารถใช้สิทธิ์ในการเรียนหลักสูตรวิชาทหารเพื่อลดเวลา หรือได้รับการยกเว้น ไม่ต้องเข้ารับการตรวจเลือก หรือสามารถไปบรรจุอยู่ในบัญชีกำลังพลสำรอง ในชั้นยศต่างๆ เพื่อเรียกระดมในสถานการณ์วิกฤติ วันนี้เราเปิดโอกาสให้ชายไทยได้มีหลายช่องทาง ไม่ใช่ว่าทุกคนต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหารทั้งหมด” โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าว

พล.ท.คงชีพ กล่าวยืนยันว่า การเข้ามาเป็นทหารกองประจำการ ทางกองทัพจะดูแลเรื่องสิทธิ์ในหลายเรื่อง และดูแลคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น โดยเชื่อว่าชายไทยที่ผ่านการเกณฑ์ทหาร ทุกคนเมื่อปลดประจำการไปแล้วก็จะเป็นผู้นำทางสังคมและผู้นำครอบครัวที่ดี ไม่สร้างปัญหาให้สังคม เป็นคนมีระเบียบวินัย มีอุดมการณ์เพื่อชาติ และเป็นคนที่มีคุณภาพ แม้เราจะไม่ได้ออกไปรบ แต่ต้องเตรียมกำลังให้พร้อม โดยเฉพาะมิติงานด้านความมั่นคง

เมื่อถามว่า สังคมยังรู้สึกว่าทหารเกณฑ์ถูกนำไปเป็นพลทหารรับใช้บ้าน จะลดจำนวนตรงนี้หรือยกเลิกไปเลยหรือไม่ พล.ท.คงชีพ กล่าวอีกว่า ตนไม่ได้ปฏิเสธ แต่วันนี้ถือว่าน้อยมากหรือแทบจะไม่มี และถือเป็นนโยบายอยู่แล้วที่เราหลีกเลี่ยงการใช้ทหารไปทำภารกิจที่ไม่เหมาะสม โดยเคารพในเกียรติและศักดิ์ศรีของเขา ภาพเก่าๆ ในละครผู้กองยอดรัก ที่ใช้ไปซักผ้า คงไม่มีให้เห็น เพราะทุกบ้านมีเครื่องซักผ้าใช้หมดแล้ว เราก็พยายามดูแล ไม่ให้มีการลิดรอนเกียรติภูมิของทหารเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม เรารับฟังทุกข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ แต่ปัจจุบันมิติความมั่นคงครอบคลุม เราต้องศึกษาและทำความเข้าใจร่วมกันอย่างรอบคอบเพื่อไม่ให้อยู่ในเกณฑ์เสี่ยงกระทบต่อความมั่นคง และผลประโยชน์ของชาติ โดยต้องใช้เทคโนโลยีเข้ามาแทนที่ ซึ่งต้องใช้งบประมาณในการดำเนินการ

“ที่มีการเรียกร้องให้ยกเลิกการเกณฑ์ทหารในภาวะที่เราต้องการทหารขนาดนี้ จะยอมรับกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้หรือไม่ วันนี้ต้องศึกษาและทำความเข้าใจกันก่อน ไม่อยากให้มีการพูดกันลอยๆ จะกระทบต่อจิตใจต่อคนปฏิบัติหน้าที่ พลทหารทุกคนเป็นรั้วของชาติที่มีชีวิต จิตใจ ควรมาหันมาให้เกียรติและให้กำลังใจในการทำงาน ผมเชื่อว่าชายไทยทุกคนจะภาคภูมิใจและเดินเข้ามาสมัครเป็นทหาร “ พล.ท.คงชีพ กล่าวและว่าส่วนการใช้ความรุนแรงระหว่างการฝึกทหารกองประจำการนั้น เป็นนโยบายของ รมว.กลาโหม และผู้บัญชาการทหารบกอยู่แล้ว ให้ระมัดระวังพฤติกรรมการใช้ความรุนแรง หากเกิดเหตุการณ์ขึ้น ครูฝึกและรุ่นพี่จะถูกปลดออกจากราชการ อีกทั้งผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นต้องรับผิดชอบ ได้รับโทษถึงขั้นปรับย้าย ตนเชื่อว่าขณะนี้น้อยลงมาก ที่เห็นในโซเชียลมีเดีย ก็เป็นคลิปเก่าที่นำมาเผยแพร่ให้เกิดความเข้าใจผิด สร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีให้ทหาร

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทย อนาคตใหม่ เสรีรวมไทย หาเสียงยกเลิกการเกณฑ์ทหาร หากเข้ามากำหนดนโยบาย กองทัพจะชี้แจงหลักการนี้ได้หรือไม่ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า คิดว่าเมื่อฟังสิ่งที่ชี้แจงแล้วจะเข้าใจ และพรรคการเมืองเหล่านั้นก็เคยทำงานทางการเมืองมาแล้ว และเป็นนักการเมืองหน้าเดิมๆ และมีหน้าใหม่เข้ามาบ้าง รัฐบาลที่ผ่านมาก็เป็นรัฐบาลในวิถีประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลที่มาจากพรรคเพื่อไทย หรือ พรรคประชาธิปัตย์ เคยทำงานในสภาฯ การแก้ไข พ.ร.บ.การเกณฑ์ทหาร ก็อยู่ในสภาฯ รวมถึงการรับกำลังพลเข้ามาเป็นทหาร ก็ต้องมีการขออนุมัติงบประมาณจาก ครม. จึงไม่อยากไปหาเสียงในลักษณะลอยๆ ว่าจะยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ประเทศเรามี 2 ระบบ คือ เกณฑ์ทหารและสมัครใจ ดังนั้นอย่าไปชูเป็นนโยบายหาเสียงเลย เมื่อเข้ามาก็ทำความเข้าใจกันเพราะความมั่นคงมีหลายมิติ จะบอกว่าไม่มีการสู้รบทำไมต้องมาเกณฑ์ทหารจำนวนมากมายนั้น ตนอยากให้มองว่าควรเป็นการรักษาสมดุลอำนาจทหารมากกว่า โดยไม่ต้องรบ แต่สามารถรักษาผลประโยชน์ของชาติได้

“ทหารทำงานด้วยแรงศรัทธา อุดมการณ์ ไม่ใช่จ้างด้วยเงิน เพราะเงินซื้อสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ ไม่ควรตีค่าความรับผิดชอบต่อแผ่นดิน ความรักชาติ เป็นเงิน การดูแลแผ่นดินเกิด และความมั่นคงของชาติ เป็นหน้าที่ของทุกคน ผมต้องการชี้แจง ไม่ใช่เป็นการตอบโต้ การนำไปหาเสียงแบบนี้ก็ต้องพิจารณากันเองว่าเหมาะสมหรือไม่” พล.ต.คงชีพ กล่าว

จับเงิบประยุทธ์ เมื่อบังคับเกณฑ์ทหารเหลือน้อยในโลก – กองทัพไม่ใช่แกนบรรเทาสาธารณภัย

หมวดเจี๊ยบโต้ โฆษกกลาโหมชี้แจงข้อมูลผิด แถมทุกข้ออ้างไม่มีน้ำหนัก

ด้านไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่า ร.ท.หญิง สุณิสา ทิวากรดำรง รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากข้อมูลของซีไอเอ ระบุว่า ขณะนี้มี 88 ประเทศในโลกที่ยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหารไปแล้ว ไม่ใช่แค่ 13 หรือ 29 ประเทศอย่างที่โฆษกกระทรวงกลาโหมอ้าง ไม่ทราบว่าท่านอ้างอิงข้อมูลจากแหล่งไหน ส่วนที่อ้างว่าฝรั่งเศสมีความคิดจะกลับมารื้อฟื้นการเกณฑ์นั้น ท่านไม่เห็นหรือว่า ช่วงนี้ประธานาธิบดีฝรั่งเศสโดนต่อต้านรุนแรงขนาดไหน แม้ว่าสาเหตุหลักของการจลาจลเมื่อเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา จะพุ่งเป้าไปที่เรื่องการขึ้นภาษีน้ำมัน แต่ในช่วงหลังได้ลุกลามไปเป็นนโยบายด้านอื่นๆ ด้วย แล้วท่านคิดว่าคนฝรั่งเศสจะยอมถูกบังคับเกณฑ์ทหารงั้นหรือ เพราะฝรั่งเศสเป็นประเทศแรกๆ ที่ยกเลิกการเกณฑ์ทหารหลังเกิดเหตุการณ์ปฏิวัติฝรั่งเศส

"นอกจากนี้ ประเทศที่พัฒนาแล้วส่วนใหญ่มีความเชื่อว่าการบังคับเกณฑ์ทหารส่งผลกระทบต่อความสามารถในการผลิตของประเทศ และการบังคับเอาคนที่ไม่เต็มใจมาเป็นทหารย่อมทำลายประสิทธิภาพในการทำงานให้กองทัพ ดังนั้นข้ออ้างของโฆษกกระทรวงกลาโหมจึงไม่มีน้ำหนัก" ร.ท.หญิง สุณิสา กล่าว

"ล่าสุดบังคับเกณฑ์ทหารถึง 104,734 นายต่อปี โดยมีข่าวทหารเกณฑ์หลายรายถูกบังคับใช้เป็นแรงงานทาส ไม่ได้ทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างที่คิด ที่สำคัญต้องเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร แต่เปลี่ยนไปใช้ระบบสมัครใจ และกองทัพอย่าอ้างว่าทำไม่ได้ เพราะเคยเลิกบังคับเกณฑ์ทหารแล้วใช้ระบบรับสมัครมาแล้ว 2 ครั้งในอดีต และมีคนสมัครจนล้นทั้ง 2 ครั้ง แต่ตอนหลังก็เลิกทำไปเฉยๆ หลังจากเข้ามามีอำนาจทางการเมือง ซึ่งโฆษกกระทรวงกลาโหมก็ยอมรับเองว่า ทุกวันนี้มีคนสมัครเป็นพลทหารฯ เยอะตั้งเกือบ 50% ดังนั้นถ้ากองทัพลดปริมาณทหารเกณฑ์ที่จะเรียกใช้งานลงได้ครึ่งหนึ่ง ข้อเสนอให้ยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหาร แล้วใช้ระบบสมัครใจ 100% ย่อมเป็นไปได้ ไม่ใช่การขายฝัน" ร.ท.หญิง สุณิสา กล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท