Skip to main content
sharethis

วันเลือกตั้งขยับใกล้เข้ามาทุกที แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. กลับกำลังพ่ายแพ้ในสงครามวัฒนธรรมป็อบ จริงอยู่ที่กลุ่มผู้สนับสนุนประยุทธ์ก็ยังคงสนับสนุนลุงต่อไปอย่างไม่เสื่อมคลาย แต่ประชาชนจำนวนมากก็ไม่ได้เห็นดีเห็นงามกับบทเพลง เมนูอาหาร เสื้อผ้า เครื่องดนตรี หรือกลยุทธ์ในสื่อสังคมออนไลน์ของประยุทธ์เช่นเดียวกัน เพราะกระแสมหาชนและพรรคการเมืองอื่น ๆ ได้ขยับจากช่วงเรียกน้ำจิ้มไปสู่การถกเถียงและหาเสียงด้วยนโยบายอย่างจริงจังแล้ว อย่างไรก็ตาม ถึงจะพ่ายแพ้ในสงครามวัฒนธรรมป็อบ พล.อ. ประยุทธ์ก็ยังเป็นฝ่ายได้เปรียบอยู่ดีเพราะมีรัฐธรรมนูญ 60 คอยค้ำจุน


ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ประชาชนกว่า 2.6 ล้านคนจะไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 17 มีนาคม และประชาชนกว่า 48.4 ล้านคนจะไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคม พรรคการเมืองต่าง ๆ ได้เคลื่อนเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียง และเริ่มนำเสนอจุดยืนทางการเมืองโดยใช้ท่าทีเคร่งขรึมและจริงจังกันแล้ว และประชาชนก็อยากฟังว่าพรรคการเมืองเหล่านี้จะเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาต่าง ๆ อย่างไร

ดีเบตสาธารณะที่จัดโดยสำนักข่าว The Standard ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการดีเบตที่ดีที่สุดครั้งหนึ่ง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ผู้สมัครนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ให้คำมั่นสัญญาว่าจะปฏิรูปกองทัพผ่านนโยบาย Smart Army โดยมุ่งพัฒนาทหารให้เป็นมืออาชีพ ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร และโยกย้ายงบประมาณทหารมาใช้เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ ส่วนพรรคภูมิใจไทยและชาติไทยพัฒนามุ่งเน้นนำเสนอนโยบายทางด้านเกษตรกรรม

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศในงานดีเบตว่าจะไม่สนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชาเป็นนายกรัฐมนตรี แต่อาจจะร่วมมือกับพรรคพลังประชารัฐเพื่อจัดตั้งรัฐบาลได้ หากพรรคพลังประชารัฐยอมรับเงื่อนไขที่ตนเป็นผู้ตั้ง พรรคอนาคตใหม่วิจารณ์พรรคประชาธิปัตย์ว่าไม่ควรเข้าร่วมกับพรรคการเมืองที่สนับสนุนคณะรัฐประหาร ส่วน พ.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ก็ต้องเผชิญกับการตรวจสอบจากสาธารณะอย่างหนัก เนื่องจากได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติภายใต้การนำของรัฐบาลทหารหลังรัฐประหาร 2549 ซึ่งมีพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์เป็นนายกรัฐมนตรี

The Standard Debate
แหล่งที่มา: The Standard

บรรยากาศทางการเมืองดุเดือดขึ้นพร้อม ๆ กับที่การใช้วัฒนธรรมป็อบในการหาเสียงลดน้อยลง ปรากฏการณ์ “ฟ้ารักพ่อ” จากละครดอกส้มสีทองที่วิวัฒนาการกลายมาเป็นวลีเด็ดของแฟนคลับผู้สนับสนุนนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เริ่มจางหายกลายเป็นเพียงฉากพื้นหลังของบรรยากาศการหาเสียง เนื่องจากพรรคอนาคตใหม่ต้องเผชิญทั้งกับการฟ้องร้องคดี ถ้อยคำครหา และข้อมูลบิดเบือนต่างๆ มากมายจากกลุ่มผู้มีอำนาจ

ฉาก "ฟ้ารักพ่อ" ในละครดอกส้มสีทอง
แหล่งที่มา: ช่อง 3

ปรากฏการณ์ "ฟ้ารักพ่อ" ของธนาธร
แหล่งที่มา: Thanathorn Juangroongruangkit

เราสามารถเห็นแบบแผนเช่นนี้เกิดขึ้นกับพรรคเพื่อไทยได้เช่นกัน ก่อนหน้านี้ “น้องจินนี่” ยศสุดา เกยุราพันธุ์ ลูกสาวของ “แม่หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นหัวคะแนนคนสำคัญของพรรคเพื่อไทยที่ดึงดูดหนุ่มๆ ฝ่ายประชาธิปไตยให้หันมาสนับสนุนมากมาย ส่วนชัชชาติ สิทธิพันธุ์ นักการเมืองที่ “แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี” ก็ทำได้ดีในสนามวัฒนธรรมป็อบ แต่ตอนนี้กระแสในวัฒนธรรมป็อบเริ่มจางลงแล้ว หลังจากที่พรรคไทยรักษาชาติถูกยุบโดยศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 7 มีนาคม ส่งผลให้พรรคเพื่อไทยต้องทำงานหนักขึ้นในการหาเสียงและนำเสนอนโยบายที่เป็นรูปธรรม

“น้องจินนี่” ยศสุดา เกยุราพันธุ์ และ “แม่หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์
แหล่งที่มา: ข่าวสด

มีม: อนาคตใหม่เสียฐานคะแนนให้พรรคเพื่อไทย
แหล่งที่มา: พรรคอนาคตมีม

ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กินปาท่องโก๋รูปไดโนเสาร์ เพื่อข่มขู่คู่ต่อสู้ฝ่ายอนุรักษ์นิยม
แหล่งที่มา: ข่าวสด

พรรคการเมืองอื่นๆ เข้าร่วมกับสงครามวัฒนธรรมเช่นกัน โดยส่งผู้สมัครหน้าตาดีลงแข่งในสื่อสังคมออนไลน์มากมาย แต่คนที่ลงมาในสมรภูมิรบสนามนี้ช้าที่สุดคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จริงอยู่ที่ประยุทธ์เป็นกระแสอยู่ในสื่อสังคมออนไลน์มานานแล้ว แต่กระแสตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมาคือประยุทธ์ตกเป็นฝ่ายถูกล้อเลียนและวิพากษ์วิจารณ์อยู่ในอินเตอร์เน็ตเป็นประจำ การพยายามแก้เกมของประยุทธ์เพื่อปรับภาพลักษณ์ได้รับกระแสตอบรับไม่สู้ดีนักจากสาธารณชนเพราะคนหลายกลุ่มในสังคมสะสมความรู้สึกเชิงลบต่อเผด็จการมาตลอด 4-5 ปี

ไม่ใช่ทุกคนที่รักท่านผู้นำ ล่าสุดเพลงวันใหม่ ซิงเกิ้ลที่ 8 ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้อง "แพ้คาบ้าน" หลังมีคนกดดิสไลค์ถึง 6,500 ร้อยคน และมีคนกดไลค์เพียง 473 คนเท่านั้น หากสงสารลุงตู่ ท่านผู้อ่านสามารถกดฟังเพลงเป็นกำลังใจให้ลุงได้ด้านล่าง

ต่อมาเพจทางการของ พล.อ. ของประยุทธ์ได้โพสต์รูปอาหาร #ฉลาดเลือก ลงในเฟสบุ๊คเพื่อโฆษณาไลฟ์สไตล์ง่าย ๆ เป็นกันเองของประยุทธ์ ทว่าลุงตู่กลับต้องเผชิญกับกระแสตีกลับอีก หลังจากประชาชนตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการจัดฉาก แถมยังมีคนแซวด้วยว่า “เรือดำน้ำดี ไม่จำเป็นต้องแพง” เพื่อโยงถึงกรณีการซื้อเรือดำน้ำจากจีนโดยใช้งบประมาณกว่า 3 หมื่น 6 พันล้านบาท

 

พล.อ.ประยุทธ์ยังคงพยายามต่อไป ในวันที่ 9 มีนาคม มีรายงานว่าบรรดาแฟนเพจของ พล.อ.ประยุทธ์ ได้โพสต์อัลบั้มรูปประชาสัมพันธ์เพื่อปรับภาพลักษณ์ใหม่ก่อนเข้าสู่การเลือกตั้ง

แน่อยู่แล้วว่าผู้สนับสนุนตลอดกาลของลุงตู่ก็ยังจะสนับสนุนต่อไปอย่างไม่เสื่อมคลาย แต่ถึงอย่างนั้นลุงตู่ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากเพจ ตุ๊ด รีวิว ซึ่งเรียกสิ่งที่ลุงตู่ทำว่าเป็น "Wrong Personal Branding" และสำหรับในสังคมไทย กลุ่มเพศทางเลือกถือเป็นกูรูทางด้านวัฒนธรรมที่ใครจะมองข้ามไปไม่ได้เลย:

“ปัญหาของการนำเสนอตัวตนที่ขัดแย้งนี้ น่าจะมาจากความพยายามที่จะ "ลดวัย" ดูอบอุ่นน่ารัก อมยิ้มสดใส ลบภาพเดิมๆที่ดู aggressive หน่อย เป็นการพยายามเปลี่ยนตัวตน จากภาพที่ดูขึงขังจริงจังในลุคของ "ทหารระดับสูงวัยเก่า" เป็นหนุ่มใหญ่เข้าใจวัยรุ่น เพื่อจับฐานเสียงใหม่ที่ตนไม่ (ค่อย) ได้รับ คือ กลุ่มคนรุ่นใหม่ เพื่อ focus ไปยังฐานที่พรรคน้องใหม่ และพรรคลุคมืออาชีพทันสมัยพรรคอื่นๆ เขามีฐานเสียงวัยรุ่นกัน

จริงๆ part อบอุ่นนี้ อาจจะเป็นมุม cute cute ของลุงตู่ ที่เราไม่ค่อยเห็น แต่มันขัดตา และดูไม่จริง ไม่เป็นตัวเขา เพราะเราเคยชินกับประสบการณ์ในอดีตที่เห็นบนสื่อบ่อยครั้งจนติดตา ทำให้การแก้ไขหรือปรับภาพลักษณ์แบบด่วนๆลักษณะนี้ จึงไม่สามารถถูกยอมรับได้ง่ายนัก

แผนการโฆษณายังคงดำเนินต่อไป ในวันที่ 12 มีนาคม สำนักข่าวหลายแห่งรายงานว่าระหว่างเยี่ยมชมบูธโครงการส่งเสริมอาชีพของผู้ต้องขัง ประยุทธ์ลงไปถ่ายรูปจิบกาแฟ และหยิบกีต้าร์ที่ผลิตโดยอดีตผู้ต้องขังขึ้นมาเล่นพร้อมกับกล่าวว่า “บางครั้ง ผมก็มีอารมณ์ศิลปินบ้าง โมโหบ้าง เป็นอารมณ์ทหารบ้าง คือ สิ่งในตัวผม” แต่ชาวเน็ตก็ยังไปแซวอยู่ดีว่ากีต้าร์ไม่มีสาย แถมยังสนับสนุนให้ไปทำงานในวงการดนตรีแทนเป็นนายกด้วย


ประยุทธ์เล่นกีต้าร์ไม่มีสาย
แหล่งที่มา: วาสนา นาน่วม

จากหลายสิ่งหลายอย่างเหล่านี้ เราคงพอเห็นได้ว่าประยุทธ์กำลังพ่ายแพ้ในสงครามวัฒนธรรมป็อบ แต่อย่างไรเสีย ประยุทธ์ก็ยังชนะอยู่ดีเพราะมีรัฐธรรมนูญ 60 ค้ำจุนอยู่ ด้วยรัฐธรรมนูญฉบับนี้ประยุทธ์จะได้รับการสนับสนุนจาก ส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้งถึง 250 คน ส่งผลให้ประยุทธ์ต้องการ ส.ส.อีก 126 คนเท่านั้นก็จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี

เมื่อวันที่ 9 มีนาคม สำนักข่าวหลายแห่งรายงานว่า พล.อ.ประวิตร เป็นประธานในที่ประชุมสรรหา ส.ว. 400 คนด้วยตัวเอง ในจำนวนนี้ คสช.จะคัดให้เหลือ 196 คนเพื่อแต่งตั้ง ขณะที่ ส.ว. อีก 50 ตำแหน่งที่เหลือจะได้รับการคัดเลือกจาก คสช.โดยตรง ส่วน 4 คนสุดท้ายมาจากผู้บัญชาการเหล่าทัพต่างๆ สิ่งยืนยันว่า ส.ว. ทั้ง 250 คนน่าจะเลือก พล.อ. ประยุทธ์ แน่นอน คงจะมาจากคำพูดของพล.อ. ประวิตร ซึ่งตอบผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 13 มีนาคมว่า “เราตั้งมา ก็ต้องคุมให้ได้”

ตามรัฐธรรมนูญ 2560 ส.ว. มีวาระ 5 ปี และสามารถเลือกนายกรัฐมนตรีร่วมกับ ส.ส.ได้ในช่วง 5 ปีแรกของการบังคับใช้รัฐธรรมนูญ ขณะที่นายกรัฐมนตรีและ ส.ส.ชุดใหม่หลังการเลือกตั้งมีวาระทั้งหมด 4 ปี ซึ่งน้อยกว่า ส.ว. อยู่ 1 ปี หมายความว่า ส.ว. ชุดใหม่ที่ คสช. แต่งตั้ง จะสามารถเลือกนายกรัฐมนตรีร่วมกับ ส.ส. ได้อีกครั้งด้วยในรัฐบาลสมัยหน้าหลังการเลือกตั้ง พ.ศ.2566

นอกจากนี้ พล.อ. ประยุทธ์ยังได้รับการสนับสนุนจากองค์กรอิสระต่างๆ ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งด้วย ทั้งที่เป็นผู้เห็นชอบเสนอเรื่องให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ แต่ กกต.ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจาก คสช. กลับตัดสินใจสั่งไม่ดำเนินคดีกับพรรคพลังประชารัฐในคดีโต๊ะจีน หลังจากพบว่าอาจมีการใช้งบประมาณของรัฐเพื่อการบริจาคระดมทุน นอกจากนี้ ผู้ตรวจการแผ่นดินยังออกมายืนยันล่าสุดด้วยว่าพล.อ. ประยุทธ์ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเองว่าตนเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ จนนำไปสู่การร้องเรียนว่าเจ้าหน้าที่รัฐไม่สามารถเป็นผู้สมัครตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้

คดีที่น่าจับตามองหลังจากนี้คือกรณีที่พรรคพลังประชารัฐบังคับให้ประชาชนเลือกพรรคของตนแลกกับการได้สิทธิบัตรคนจน แต่ใครหลายคนคงคาดการณ์ได้แล้วว่า กกต.ไม่น่าดำเนินการฟ้องร้องอะไรเหมือนเช่นเคย ถึงจะพ่ายแพ้ในสงครามวัฒนธรรมป็อบ แต่ประยุทธ์ก็ยังเป็นฝ่ายได้เปรียบในการเลือกตั้งครั้งนี้อยู่ดี คำพูดของไพบูลย์ นิติตะวัน ที่กล่าวไว้ในรายการ เป็นเรื่องเป็นข่าว ทางช่อง PPTV ว่า  “พล.อ.ประยุทธ์ ก็เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว” น่าจะบอกเล่าความจริงที่โหดร้ายได้ดีที่สุด

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net