Skip to main content
sharethis

ภูมิใจไทยและอนาคตใหม่เปิดปราศรัยพร้อมกันที่ จ.นครราชสีมา 'อนุทิน ชาญวีรกูล' เผยเลขาธิการพรรคโทรฯ ตื้อ "หัวหน้า กัญชาดี" "จะพาให้คนไทยรวย" ทำให้เขาสนใจนโยบายปลดล็อกกัญชา พร้อมตั้ง 4 เงื่อนไขร่วมรัฐบาล "ไม่ขัดแย้ง-รักประชาชน-เทิดทูนสถาบัน-ประเทศรุ่งเรือง" ด้าน 'ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ' ย้ำทุกพรรคการเมืองเป็นคู่แข่งไม่ใช่ศัตรู เป้าใหญ่คือโครงสร้างที่ไม่เป็นธรรม-ผู้นำกองทัพที่เป็นปฏิปักษ์ประชาธิปไตย ลั่น 24 มีนาต้องทำให้คนรุ่นหลังไม่เจอกับรัฐประหารอีกเลยในชีวิต

(ซ้าย) อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ขวา) ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่

เมื่อคืนวันที่ 15 มี.ค. ที่ จ.นครราชสีมา มีการปราศรัยของ 2 พรรคการเมืองคือพรรคภูมิใจไทย ที่ตลาดเซฟวัน อ.เมือง จ.นครราชสีมา ส่วนพรรคอนาคตใหม่ ปราศรัยที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา

 

ภูมิใจไทย 'อนุทิน ชาญวีรกูล' ตั้ง 4 เงื่อนไขร่วมรัฐบาล

อนุทิน ชาญวีรกูล และการปราศรัยของพรรคภูมิใจไทย ที่ตลาดเซฟวัน จ.นครราชสีมา เมื่อ 15 มีนาคม 2562 (ที่มา: Facebook/คนภูมิใจไทย)

พรรคภูมิใจไทย นำโดยอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย, ศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค รวมทั้งคณะผู้บริหารพรรค ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.นครราชสีมา พร้อมทีมยุทธศาสตร์ ปราศรัยที่ตลาดเซฟวัน

โดยเมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. อนุทิน ชาญวีรกุล เริ่มปราศรัยกับผู้สนับสนุน โดยวิดีโอการปราศรัยที่เผยแพร่ในเฟซบุ๊คเพจคนภูมิใจไทยนั้น ตอนหนึ่งเขากล่าวว่า "พ่อแม่พี่น้องเบื่อเรื่องความขัดแย้ง เบื่อเรื่องความแตกแยกหรือยัง เบื่อไหมครับ 10 กว่าปี กีฬาสี สีแดง สีเหลือง สีส้ม สีน้ำเงิน สีอะไรต่างๆ นานา พ่อแม่พี่น้องเบื่อหรือยัง ประเทศไทยไปไหนไม่ได้เลย โคราชไม่เจริญมากกว่าที่ควรจะเป็น"

หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยประกาศความพร้อมและเงื่อนไขร่วมรัฐบาล โดยตอนหนึ่งกล่าวถึงข้อได้เปรียบของพรรคตามรัฐธรรมนูญ 2560 ว่า "ถึงเวลาแล้วครับ อาศัยสถานการณ์ในช่วงนี้ อาศัยกฎที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ รัฐธรรมนูญมีกฎระเบียบ มีมาตราต่างๆ ซึ่งเมื่อเขียนแล้ว หากพี่น้องเลือกพรรคภูมิใจไทยมากๆ มีกำลังมากพอ ใครจะเป็นรัฐบาลต้องมีพรรคภูมิใจไทยเท่านั้น แล้วเมื่อพรรคภูมิใจไทยเข้าไปร่วมรัฐบาล ใครก็จะทะเลาะกันไม่ได้ เพราะพรรคภูมิใจไทยจะไม่ให้ทะเลาะกัน ใครทะเลาะกันภูมิใจไทยถอนตัวจากรัฐบาล อยู่ได้ให้มันรู้ไป พรรคภูมิใจไทยเชื่อว่าประเทศไทยจะเจริญก้าวหน้า เดินหน้าต่อไปได้ มีทางเดียวคือประชาชนต้องรักกัน ประชาชนคือใคร เราไม่สามารถเอาคน 70 ล้านคนไปนั่งในรัฐบาล ในสภาได้ ประชาชนเลยเลือกผู้แทนไปเป็นตัวแทนประชาชน ที่ผ่านมาผู้แทนประชาชนไม่ถูกกัน ก็เหมือนประชาชนไม่ถูกกัน ประเทศไทยไปไหนไม่ได้ วันนี้รัฐธรรมนูญทำให้พรรคภูมิใจไทย ไปเป็นกรรมการห้ามมวย แต่กรรมการห้ามมวยคนนี้้ถ้าคนไหนกัดกัน กรรมการชกหน้ามันเอง มันต้องดีกัน พอแล้วสำหรับการทะเลาะกัน พอแล้วสำหรับความบาดหมาง ถ้ารักประเทศไทยจริง อยากให้ประเทศไทยก้าวหน้า ผู้แทนราษฎรของเมืองไทยต้องหันมารักกัน ต้องหาทางออก พรรคภูมิใจไทยจะเป็นผู้นำรณรงค์เรื่องนี้" 

อนุทินกล่าวถึงเงื่อนไข 4 ข้อในการร่วมรัฐบาลด้วยว่า "ไม่มีอะไรที่จะสนุกไปกว่าการที่ทำให้นโยบายต่างๆ ของพรรคภูมิใจไทย บังเกิดผลโดยเร็ว พรรคภูมิใจไทยสามารถบอกได้ว่า พ่อแม่พี่น้องให้ความมั่นใจเถิดครับ เที่ยวนี้ไม่มีใครบอกพ่อแม่พี่น้องแล้วว่าอย่าไปเลือกพรรคภูมิใจไทย นโยบายมันดีขนาดไหน มันไม่ได้เป็นรัฐบาลหรอก เที่ยวนี้พรรคภูมิใจไทยยืนกอดอก แล้วรอแต่ละพรรคมาเสนอว่า จะทำอย่างไรให้พรรคภูมิใจไทยไปร่วมรัฐบาลครับ"

"พรีเซนต์ให้ดีๆ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยจะบอกข้อสอบให้นิดหนึ่ง คนที่พรรคภูมิใจไทยจะไปร่วมรัฐบาลด้วย หนึ่ง ต้องไม่มีความขัดแย้ง สอง ต้องรักประชาชน สาม ต้องเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ สี่ ต้องทำให้ประเทศไทยเจริญรุ่งเรือง ใครทำได้ขนาดนี้มึงเอานายกฯ ไปเลย พรรคภูมิใจไทยยอม แต่ถ้าทำไม่ได้ ให้พรรคภูมิใจไทยเป็นนายกฯ กูจะทำเอง ที่พูดมาทั้งหมดนี้ ผมมาพูดต่อหน้าพ่อแม่พี่น้องชาวโคราช ผู้ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมเมืองของผม บ้านผมอยู่ปากช่อง วันนี้มาพูดต่อหน้าคนโคราชทุกคน ผมขอกำลังใจ ถ้าพ่อแม่พี่น้องเห็นด้วยกับที่ผมพูดขอให้เลือกพรรคภูมิใจไทยเยอะๆ" อนุทินกล่าวตอนหนึ่ง

ในตอนท้ายอนุทินกล่าวถึงนโยบายกัญชาที่พรรคภูมิใจไทยผลักดันว่า ใครมาบอกกัญชาไม่มีประโยชน์อย่าไปเชื่อ ไม่มีพรรคการเมืองพรรคไหนจะเสนอสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน พรรคภูมิใจไทยไม่มีวันเสนอสิ่งที่เป็นโทษกับประชาชน มองทุกอย่างในแง่ดี ในแง่ที่เป็นประโยชน์ เพราะอีกไม่กี่เดือนกัญชาจะพาคนไทยรวย

"สิ่งที่เลขาธิการพรรคเคยอธิบายเรื่องกัญชานั้น เขามีความตั้งใจ ตอนเขามาเสนอครั้งแรกผมนั่งกินข้าว ผมลุกหนีเลยนะ ต้องชื่นชมเลขาธิการพรรค ศักดิ์สยาม ชิดชอบ ของผมนะครับ แกตื้อครองโลก แกฟีดผมทุกคืน ตี 1 ตี 2 โทรศัพท์มาว่า "หัวหน้า กัญชาดี" "หัวหน้า กัญชาดี" "หัวหน้ากัญชาจะพาให้คนไทยรวย" เขาพูด "กัญชาดี" มา 300 ครั้ง หัวหน้าไม่ฟัง พอบอกว่ากัญชาจะพาให้คนไทยรวย หัวหน้าเลยต้องฟัง เพราะหัวหน้าอยากให้คนไทยรวยทุกคน" อนุทินกล่าวตอนหนึ่ง

 

'ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ' ย้ำพรรคคู่แข่งไม่ใช่ศัตรู เป้าใหญ่คือขจัดโครงสร้างไม่เป็นธรรม ส่งกองทัพกลับเข้ากรมกอง

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ปราศรัยที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี เมื่อ 15 มี.ค. 2562 (ที่มา: Facebook/อนาคตใหม่นครราชสีมา

ส่วนเวทีปราศัยใหญ่ พรรคอนาคตใหม่ ณ ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี จ.นครราชสีมา ซึ่งแกนนำพรรคเริ่มมาตั้งแต่เวลา 17.30 น. นั้น ต่อมาเวลาประมาณ 21.40 น. ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เดินทางมาถึงและเริ่มปราศรัย โดยการปราศรัยที่มีการเผยแพร่ผ่านเฟสบุ๊คอนาคตใหม่นครราชสีมา ช่วงแรกเขาพูดถึงการยุติราชการรวมศูนย์อำนาจ และทำให้ท้องถิ่นมีอำนาจในการตัดสินใจเอง โดยเฉพาะอำนาจบริหารภาษี โดยยกตัวอย่างหาก จ.นครราชสีมา นำสายไฟฟ้าลงใต้ดิน ก็สามารถตัดสินใจโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้เลย โดยไม่ต้องรอมติคณะรัฐมนตรีสั่งการ

"ปัจจุบันด้วยรูปแบบรัฐที่รวมอยู่ศูนย์กลาง อำนาจที่รวมศูนย์กลาง มันทำให้ประชาชนทุกจังหวัดในประเทศไทยไม่มีอำนาจในการออกแบบจัดการเมืองของตัวเอง ไม่มีอำนาจในการกำหนดอนาคตของตัวเอง ภาษีที่จ่ายไปรวมเข้าไปในส่วนกลาง แล้วเขาก็ตัดสินใจแทนท่านว่าจะเอาภาษีของพวกท่านไปทำอะไร ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจทำไมพวกท่านจะได้เรือดำน้ำ 2-3 ลำ นี่คือสังคมที่ผมฝันเห็น สังคมที่เราสามารถจัดการทรัพยากรที่มีอยู่ในท้องถิ่นได้ เอาทรัพยากร เอาความสามารถที่อยู่ในท้องถิ่น มาต่อยอดได้ด้วยภาษีของเราเอง"

ตอนหนึ่งธนาธรกล่าวด้วยว่า "สิ่งที่ทำให้คนจนเป็นเพราะอำนาจทำให้เหลื่อมล้ำ สังคมที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ยิ่งพัฒนายิ่งเหลื่อมล้ำ นายทุนที่ใกล้ชิดอำนาจก็จะยิ่งรวยขึ้น คนจนจะยิ่งจนลงๆ ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ พ่อแม่พี่น้องครับ ดังนั้นถึงเวลาแล้ว 24 มีนาคมนี้เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของประวัติศาสตร์ไทย จะเป็นจุดชี้ชะตาว่าประเทศไทยหลังจากนี้จะเดินทางไปในทิศทางไหน อนาคตของประเทศไทยจะเป็นอย่างไรต่อไป ขึ้นอยู่กับวันที่ 24 มีนาคม วันที่ 24 มีนาคมจะตัดสินว่าประเทศไทยจะอยู่กับเผด็จการต่อไปหรือจะอยู่กับประชาธิปไตย 24 มีนาคมจะตัดสินว่าเราจะอยู่กับความกลัวต่อไป หรือเราจะอยู่กับความหวัง จะอยู่กับความมืดมิดหรือแสงสว่าง เราจะอยู่กับความเหลื่อมล้ำต่อไปหรือเราจะอยู่กับความเท่าเทียม อำนาจในการกำหนดอนาคตของประเทศไทย อยู่ในมือพวกเรา ในวันที่ 24 มีนาคมนี้ ไม่ว่าคุณลุงคนไหนในประเทศนี้ก็จะมีอำนาจเท่ากับเราในวันที่ 24 มีนาคมนี้ ดังนั้นใช้ 1 สิทธิ 1 เสียงให้เป็นประโยชน์ พิพากษาเผด็จการ สร้างประชาธิปไตยที่แท้จริงให้เกิดขึ้นในประเทศไทยให้ได้ โดยขอเอาภารกิจนี้เป็นของพรรคอนาคตใหม่และตัวเรา เป็นภารกิจที่คนรุ่นเราและคนรุ่นก่อนหน้าเราต้องทำให้จบในรุ่นนี้ เพื่อที่คนรุ่นต่อไปจะได้เกิดและเติบโตมาในสังคมที่ดีกว่านี้ ใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าและมีความหมาย ในสังคมที่คนทุกคนเท่าเทียมกัน"

"พรรคการเมืองอื่นๆ เป็นคู่แข่งของเราในสนามเลือกตั้ง แต่พวกเขาไม่ใช่ศัตรูของเรา เราทะเยอทะยานมากกว่านั้น ความฝันของเราสูงกว่านั้น นั่นก็คือการจัดการโครงสร้างที่ไม่เป็นธรรมในสังคมไทย ไม่ใช่จัดการพรรคการเมืองอื่น เขาเป็นคู่แข่งเพื่อคะแนนเสียง แต่ไม่ใช่ศัตรู ศัตรูคือโครงสร้างที่ไม่เป็นธรรม โครงสร้างรัฐราชการที่รวมศูนย์อยู่ที่กรุงเทพฯ คือโครงสร้างผู้นำกองทัพที่เป็นปฏิปักษ์กับประชาธิปไตย คือโครงสร้างนายทุนที่เป็นพันธมิตรกับกองทัพ นี่คือโครงสร้างที่ไม่เป็นธรรม นั่นคืออุดมการณ์ของเรา เราสร้างพรรคการเมืองมาเพื่อภารกิจนี้"

ในช่วงท้ายธนาธรได้วิงวอนประชาชนให้มาร่วมกัน "ทำภารกิจประวัติศาสตร์ให้สำเร็จในคนรุ่นนี้ เอาทหารกลับเข้ากรมกอง สร้างสังคมที่เท่าเทียมเป็นธรรม สร้างประชาธิปไตยให้เติบโตอย่างยั่งยืนและเข้มแข็งในประเทศไทย ทำให้ลูกหลานของเรา ทำให้คนรุ่นต่อไป คนที่เกิดในปี พ.ศ.2560 ไม่ต้องเจอกับรัฐประหารอีกเลยในชีวิตของเขา นี่คือความฝันของเรา นี่คือภารกิจของเรา ถ้าใครฝันเหมือนกับผม เดินทางด้วยกัน 24 มีนาคม เลือกอนาคตใหม่ประเทศไทยต้องเปลี่ยน 24 มีนาคมเลือกอนาคตใหม่ อย่าให้ประเทศไทยกลับไปสู่จุดเดิม ขอฝากพรรคอนาคตใหม่ ขอฝากผู้สมัคร ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ ทั้งแบบเขตและแบบบัญชีรายชื่อ ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจพี่น้องทุกคน" ก่อนที่ธนาธรจะปิดการปราศรัยในที่สุด

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net