'พีเน็ต' จี้ กกต.สอบ 'ประยุทธ์' อนุมัติงบกลาง 3.79 หมื่นล้าน เข้าข่ายให้คุณพรรคการเมืองเพื่อประโยชน์การเลือกตั้งหรือไม่

 

20 มี.ค.2562 มูลนิธิองคกรกลางเพื่อประชาธิปไตย (พีเน็ต) ออกใบแถลง 9/2562 ชื่อ "โค้งสุดท้ายแล้ว กกต. จะมี “ใบส้ม” หล่นหรือไม่?" โดยระบุว่า นับถอยหลัง อีก 4 วัน เป็นวันลงคะแนนเลือกตั้ง พีเน็ต ได้รับเรื่องร้องเรียนจำนวนมาก ในหลายๆ กรณีมีความชัดเจนที่ส่อว่าอาจจะเป็นการทุจริตเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นกรณีการจัดตั้ง ขนคนแจกเงินคนไปฟังเวทีปราศรัยหาเสียง การวางตัวไม่เป็นกลางของเจ้าหน้าที่รัฐ การใช้อำนาจข่มขู่ข่มขวัญผู้สมัคร การรวบรวมรายชื่อและหมายเลขประจำตัวประชาชนของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งไปจนถึงการเก็บบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง การแจกเงินนับตั้งแต่มูลค่า 100 บาทไปจนถึง 1,000 บาทถึง 2,000 บาท การใช้อำนาจหน้าที่โดยการออกหนังสือสั่งการให้เจ้าหน้าที่ของรัฐสนับสนุนพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง การที่รัฐส่งเงินให้ อสม. อาสาสมัครของรัฐที่กระจายอยู่ทุกชุมชนทั่วประเทศเพิ่มขึ้นกว่า 50% ในช่วงใกล้วันเลือกตั้ง การที่คณะรัฐมนตรีโดยนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งได้รับการเสนอชื่อโดยพรรคพลังประชารัฐเป็นนายกรัฐมนตรี มีมติอนุมัติงบกลางจำนวน 37,900 ล้านบาท เพื่อเติมเงินในกองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม ก่อนวันเลือกตั้ง 5 วัน กกต. จึงควรตรวจสอบกรณีเหล่านี้ ว่าเข้าข่ายแอบแฝงให้คุณให้โทษแก่พรรคการเมือง เพื่อประโยชน์ในการเลือกตั้งหรือไม่

พีเน็ต ระบุด้วยว่า ได้ส่งเรื่องร้องเรียนในหลายๆ กรณีให้กับ กกต. เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวน อย่างไรก็ตาม ยังไม่พบว่ามีการดำเนินการใด ๆ จาก กกต. อีกทั้ง กกต. ไม่ได้แสดงท่าทีกระตือรือร้นกระฉับกระเฉงในการป้องกันปราบปรามการทุจริตเลือกตั้ง  ซึ่งมีข่าวคราวมาอย่างต่อเนื่อง หรือออกมาตรการที่จะเป็นประโยชน์ต่อการป้องปรามทุจริต ทั้งๆ ที่  พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มาตรา 132 กำหนดให้อำนาจ กกต. ว่า “ก่อนประกาศผลการเลือกตั้ง ถ้าคณะกรรมการสืบสวนหรือไต่สวนแล้วเห็นว่ามีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า ผู้สมัครผู้ใดกระทําการอันเป็นเหตุให้การเลือกตั้งนั้นมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือ เที่ยงธรรม หรือมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าผู้สมัครผู้ใดก่อให้ผู้อื่นกระทํา สนับสนุน หรือรู้เห็นเป็นใจให้บุคคลอื่นกระทําการดังกล่าว หรือรู้ว่ามีการกระทําดังกล่าวแล้วไม่ดําเนินการเพื่อระงับการกระทํานั้น ให้คณะกรรมการสั่งระงับสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้สมัครที่กระทําการเช่นนั้นทุกรายไว้เป็นการชั่วคราวเป็นระยะเวลาไม่เกินหนึ่งปีนับแต่วันที่คณะกรรมการมีคําสั่ง และในกรณีที่ผู้นั้นได้คะแนนอยู่ในลําดับที่จะได้รับการเลือกตั้ง ให้สั่งยกเลิกการเลือกตั้งและให้มีการเลือกตั้งใหม่” หรือเรียกกันสั้น ๆว่า “ใบส้ม”

พีเน็ต เรียกร้องและเร่งรัด ให้ กกต. ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายตามอำนาจหน้าที่อย่างเคร่งครัด เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ วินิจฉัยชี้ขาดกรณีการทุจริตโดยเร็ว และออกมาตรการที่จำเป็น อาทิ ให้ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือสถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงินแจ้งการโอนหรือการเบิกจ่ายเงิน การเผยแพร่มาตรการให้รางวัลนำจับ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันและปราบปรามการทุจริตการเลือกตั้งให้เกิดประสิทธิผล 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท