ตัดสิทธิผู้สมัครอนาคตใหม่ กกต.อ้างเป็นสมาชิกพรรคซ้ำซ้อน อีกกรณีศาลชี้เป็นเจ้าของสื่อฯ ทั้งที่ทำรับเหมาก่อสร้าง

ผู้สมัครอนาคตใหม่โดนตัดสิทธิลงเลือกตั้ง 2 เขต เขตแรกกกต. ไม่รับรองรายชื่อเหตุ ฐานข้อมูล กกต. พบเป็นสมาชิกซ้ำซ้อนสองพรรค แม้อีกพรรคมาให้การว่าผู้สมัครคนดังกล่าวจะไม่ได้เป็นสมาชิกแล้วก็ตาม อีกเขตถูกศาลสั่งถอดชื่อ ชี้เป็นเจ้าของสื่อทั้งที่เปิดบริษัทรับเหมาก่อสร้าง

21 มี.ค. 2562 ผู้สื่อข่าวประชาไท รายงานว่า เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2562 ภูเบศวร์ เห็นหลอด ผู้สมัคร ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ สกลนคร เขต 2 เบอร์ 11 ถูกคำสั่งศาลฎีกาคดีเลือกตั้ง สั่งให้ถอนชื่อออกจากผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สกลนคร เขต 2 เนื่องจากเป็นผู้ขาดคุณสมบัติลงสมัครรับเลือกตั้ง ตามมาตรา 98 กฎหมายรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งบัญญัติว่า "บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้ เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร...(3) เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ..." และ พ.ร.ป.ว่าด้วยว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561 มาตรา 42 บัญญัติไว้เช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม ภูเบศวร์ เปิดเผยข้อเท็จริงว่า ตนเป็นเพียง หุ้นส่วนผู้จัดการ หจก.มาร์ส เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ เซอร์วิส จดทะเบียนไว้เดือน ส.ค. 2561 เพื่อประกอบกิจการรับเหมาก่อสร้างอาคารที่มิใช่ที่พักอาศัย รหัสธุรกิจ 41002 ตามแบบ สสช.1 ของกระทรวงพานิชย์ ในขั้นแรกของการจดจัดตั้งนั้น ตนได้มอบหมายให้สำนักบัญชีแห่งหนึ่ง ดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้ง หจก.เพื่อประกอบสัมมาอาชีพ โดยการยื่นจดทะเบียนนั้น ได้ใช้แบบฟอร์มสำเร็จรูปในการจดทะเบียน ซึ่งเป็นแบบฟอร์มของกรมพัฒนาธุรกิจเอง โดยในแบบฟอร์มสำเร็จรูปจะระบุมีวัตถุประสงค์ทั่วไปในการจดจัดตั้งห้างทั้งสิ้น 43 ข้อ ครอบคลุมกิจการทุกเกือบประเภทในประเทศนี้ ตั้งแต่รับเหมาก่อสร้าง, ทำเหมืองแร่, ขายเครื่องสำอาง, ทำโรงเลื่อย ฯลฯ และในข้อที่ 43 ระบุว่า ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง และโทรทัศน์ รับจัดทำสื่อโฆษณา สปอร์ตโฆษณา เผยแพร่ข้อมูล

ผู้สื่อข่าวประชาไท รายงานด้วยว่า คดีดังกล่าวมีผู้ร้องคือ ผู้อำนวยการเลือกตั้งเขต 2 จังหวัดสกลนคร และศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งได้พิจารณาพยานหลักฐานของคู่ความทั้งสองฝ่ายแล้วเห็นว่า ไม่จำเป็นต้องไต่สวนพยานหลักฐานเพิ่มเติม จึงให้งดการไต่สวน

ส่วนอีกกรณีหนึ่ง คือ การตัดสิทธิผู้สมัคร ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ จังหวัดสุรินทร์ เขต 6 คือ ธีระศักดิ์ กันนิดา เนื่องจาก กกต. ตรวจสอบพบว่า ธีระศักดิ์ มีรายชื่อการเป็นสมาชิกซ้ำซ้อน 2 พรรค ในระบบฐานข้อมูลของกกต.

ทั้งนี้ ธีระศักดิ์ได้ยื่นหนังสือ เอกสารขอสมัครเป็นผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ สุรินทร์ เขต 6 กับ กกต.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2562 ซึ่งกกต.ได้ตรวจสอบหลักฐานทุกอย่างแล้ว ไม่มีพบข้อมูลว่าเป็นผู้สมัครซ้ำซ้อนกับพรรคอื่น เป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนทั้ง 12 ข้อ และได้รับหมายเลข 9 ในการเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. สุรินทร์ เขต 6   แต่วันที่ 6 ก.พ. 2562 กกต. ได้แจ้งกับธีระศักดิ์ว่า มีรายชื่อการเป็นสมาชิกซ้ำซ้อน 2 พรรค ในระบบฐานข้อมูลของกกต. ธีระศักดิ์จึงได้เข้าไปชี้แจงกับ กกต. ว่าไม่เคยสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดนอกจากพรรคอนาคตใหม่ และขอให้ กกต. ตรวจสอบให้ว่าตนเป็นสมาชิกของพรรคใดนอกจากพรรคอนาคตใหม่บ้าง

กกต. จึงได้ตรวจสอบให้ ทราบว่าธีระศักดิ์นอกจากเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่แล้ว ยังเป็นสมาชิกพรรคพลังประชาธิปไตย ซึ่งถ้าธีระศักดิ์ไม่ต้องการให้ตัดสิทธิ์การเป็นผู้สมัครส.ส.พรรคอนาคตใหม่ จะต้องไปลาออก หรือยกเลิกการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชาธิปไตยก่อน  ด้านที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายของพรรคอนาคตใหม่ไม่เห็นด้วยที่จะให้ธีระศักดิ์ไปลาออกจากพรรคพลังประชาธิปไตย เพราะอาจเป็นการยอมรับว่าธีระศักดิ์ ได้สมัครสมาชิกซ้ำซ้อนจริง แต่กกต.ยืนยันว่าถ้าธีระศักดิ์ไม่ถอดชื่อการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชาธิปไตย กกต.จะตัดสิทธิ์การเป็นผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ทันที ธีระศักดิ์จึงให้ กกต. หาข้อมูลให้ว่าที่ตั้งสำนักงานพรรคพลังประชาธิปไตยอยู่ที่ใด จะได้ไปทำการถอดชื่อออกได้ แต่กกต.ให้คำตอบว่าไม่มีข้อมูลที่ตั้งพรรคพลังประชาธิปไตย

ต่อมาวันที่ 7 ก.พ. ธีระศักดิ์ จึงได้ขอความช่วยเหลือจากทนายคารม พลพรกลาง ผ้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ ให้ช่วยตรวจสอบที่มาที่ไปของพรรคพลังประชาธิปไตย เพื่อที่ตนจะได้ติดต่อขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ซึ่งข้อมูลที่ได้คือ พรรคพลังประชาธิปไตย เป็นพรรคที่เพิ่งก่อตั้งใหม่ไม่นาน ตนจึงทำหนังสือแจ้งโดยมีเนื้อหาว่า ตนเป็นสมาชิกพรรคของพรรคอนาคตใหม่เพียงพรรคเดียวเท่านั้น ไม่เคยสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชาธิปไตย หากมีผู้แอบอ้างหรือปลอมแปลงเอกสาร จะขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ทางด้านพรรคพลังประชาธิปไตยเองก็ให้การปฏิเสธว่า ธีระศักดิ์ ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค พร้อมทั้งมีหนังสือยืนยันให้นายธีระศักดิ์ ได้นำส่งแจ้งให้ กกต. ตรวจสอบ

ต่อมาวันที่ 11 ก.พ. 2562 ธีระศักดิ์ได้นำหนังสือยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคพลังประชาธิปไตยไปยื่นต่อ กกต. แต่ กกต.ได้ตัดสิทธิ์การเป็นผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ของธีระศักดิ์ไปแล้ว เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2562 ธีระศักดิ์จึงร้องขอความเป็นธรรมต่อศาล

ต่อมา 1 มี.ค. เป็นวันฟังคำพิพากษา ซึ่งในวันนั้นพรรคพลังประชาธิปไตยได้มาให้การยืนยันต่อศาลว่าธีระศักดิ์ไม่ได้เป็นผู้สมัครของพรรคพลังประชาธิปไตยจริง และธีระศักดิ์ได้นำหลักฐานต่างๆ ไปยืนยัน ขณะที่กกต.เองไม่มีหลักฐานใดๆ ที่ยืนยันได้ว่าธีระศักดิ์เป็นสมาชิกซ้ำซ้อน 2 พรรค ไม่มีแม้แต่ใบสมัคร หรือหลักฐานการจ่ายเงินค่าสมัคร นอกจากข้อมูลที่แสดงในระบบข้อมูลคอมพิวเตอร์ และได้ตัดสิทธิ์การเป็นผู้สมัครส.ส.พรรคอนาคตใหม่ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ. 2562 ธีระศักดิ์จึงขออุทธรณ์ไปยังศาลฎีกาเพื่อให้พิจารณาอีกครั้ง ศาลรับคำอุทธรณ์และ กกต.อนุญาตให้ธีระศักดิ์สามารถติดป้ายหาเสียง หรือใช้เอกสารหาเสียงได้แต่ไม่ให้แสดงตัวจนกว่าจะมีการตัดสิน

สุดท้ายวันที่ 8 มี.ค. 2562 เวลา 14.00 น. ศาลได้มีคำตัดสินให้ ธีระศักดิ์ กันนิดาผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ สุรินทร์ เขต 6 หมดสิทธิ์การเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในครั้งนี้ เพราะมีข้อมูลการเป็นสมาชิกซ้ำซ้อน 2 พรรคในฐานข้อมูลระบบคอมพิวเตอร์ของ กกต.

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท