Skip to main content
sharethis

สุดารัตน์ แคนดิเดตนายกพรรคเพื่อไทย เผยผู้สนับสนุนพรรคถูกคุกคามทั้งภาคเหนือ อีสาน และ กทม. ขอประชาชนอย่ายอมให้นักเลงกลับมาคุมบ้านเมืองอีก พร้อมจี้ กกต. เร่งตรวจสอบการซื้อเสียงหัวละพันในเขตบางกะปิ

สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์  (แฟ้มภาพ ilawFX Freedom)

21 มี.ค. 2562 สำนักข่าวไทย รายงานว่า สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ช่วยตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคหาเสียง โดยแวะทักทายกับพ่อค้าแม่ค้าและประชาชน ที่มาจับจ่ายซื้อของและรับประทานอาหารกลางวัน ภายในตลาดไท ซอยลาดพร้าว 101 ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี มีประชาชนนำดอกไม้มาให้กำลังใจ ขณะที่ พ่อค้าแม่ค้าบางคนร้องเรียนเรื่องการจำหน่ายสินค้าที่ซบเซา บางคนถึงกับหลั่งน้ำตาขอให้พรรคเพื่อไทยเข้ามาช่วยเหลือ

สุดารัตน์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีนโยบายแก้ไขปัญหาปากท้อง โดยจะดำเนินการให้เห็นผลภายใน 6 เดือน สามารถทำได้ทันที หลังจากได้เป็นรัฐบาล จึงขอโอกาสเข้าไปบริหารประเทศ จากนั้น สุดารัตน์ ให้สัมภาษณ์ กรณีแถลงการณ์พรรคเพื่อไทยที่ระบุว่า มีการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ไปตรวจค้นบ้านผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย ว่า เกิดขึ้นจริงในหลายพื้นที่ทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และกรุงเทพมหานคร อย่างเขตบางกะปิ เพราะได้รับแจ้งจากคนในหลายชุมชนว่า มีกองกำลังที่แสดงตัวและไม่แสดงตัวไปข่มขู่คุกคามคนเหล่านี้ อีกทั้ง ยังได้รับการร้องเรียนว่า มีการซื้อเสียงหัวละ 1,000 บาทในเขตบางกะปิ 

“อยากให้ กกต. เข้ามาตรวจสอบ ชาวบ้านที่ไม่ได้รับเงินพร้อมให้ข้อมูลและยืนยันได้ว่าผู้สมัครจากพรรคใดเป็นคนซื้อเสียง หาก กกต.ไม่ดำเนินการใดๆ จะทำให้การเลือกตั้ง ซึ่งเป็นความหวังของประชาชน ไม่เป็นไปด้วยความสุจริต” สุดารัตน์ กล่าว

สำหรับกรณีที่สุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้สนับสนุนพรรครวมพลังประชาชาติไทย ระบุว่า หากประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทย พร้อมออกมาเคลื่อนไหวแล้วนัดเจอมวลชนที่ราชดำเนินนั้น สุดารัตน์ เห็นว่า เป็นทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดของคนที่ไม่เคยชนะการเลือกตั้ง จึงใช้วิธีสร้างความเกลียดชัง ทำให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย และนำพาการเมืองลงสู่ถนน 

“หากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง จะหยุดสร้างความเกลียดชัง จะไม่ยอมให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นอีก จึงขอให้ประชาชนทุกคนอย่ายอมให้นักเลงเหล่านี้มาคุมบ้านเมืองอีก” สุดารัตน์ กล่าว

แถลงการณ์พรรคเพื่อไทย เรื่องคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ต้องหยุดใช้อำนาจในการคุกคามพรรคการเมืองต่างๆ

ช่วงสถานการณ์ที่ประเทศกำลังมีการเลือกตั้งในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนวันเลือกตั้ง เป็นที่ชัดเจนว่ารัฐบาล คสช.กำลังใช้อำนาจเผด็จการตามมาตรา 44 ที่ให้อำนาจฝ่ายทหารเข้าตรวจค้นบ้านพัก คุกคามบุคคลโดยไม่ต้องมีหมายศาล เพื่อประโยชน์ในการเลือกตั้งของฝ่ายตน

เนื่องจากพรรคเพื่อไทยได้รับรายงานว่าช่วงเวลานี้มีการนำกำลังทหารเข้าตรวจค้นบ้านพักของสมาชิกสภาจังหวัด และหัวคะแนนของผู้สมัครพรรคเพื่อไทยในบางจังหวัด โดยกระทำการคุกคามเข้าตรวจค้นเสมือนการจับกุมอาชญากร และจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้ ทราบว่ามีการเตรียมการจะดำเนินการในเขตเป้าหมายอีกหลายพื้นที่

แทบไม่น่าเชื่อว่า การกระทำดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงมีกฤษฎีกาเลือกตั้ง และกำลังจะมีการเลือกตั้งในอีกไม่กี่วันนี้ ซึ่งโดยหลักการแล้วควรที่จะให้อำนาจทั้งหลายเป็นของ กกต.และหากจะมีการกระทำผิดใดๆ ก็ควรเป็นเรื่องของฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งมีอำนาจหน้าที่โดยตรง การดำเนินการเช่นนี้ จึงเป็นการกระทำที่ลุแก่อำนาจ เพื่อประโยชน์ทางการเมืองในการสืบทอดอำนาจ เพราะเป็นที่ทราบกันอย่างชัดเจนว่า ผู้นำ คสช.เป็นแคนดิเดตของพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง

ดังนั้นการเข้าตรวจค้นเฉพาะผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทยตามมาตรา 44 ของ คสช. จึงแปลความเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากเพื่อสร้างความได้เปรียบและข่มขู่ทางการเมือง สร้างความหวาดกลัวให้แก่ผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยในพื้นที่ ทั้งที่กำลังทหารนั้นต้องมีไว้เพื่อป้องกันข้าศึกศัตรู มิใช่เพื่อประโยชน์ทางการเมืองของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

พรรคเพื่อไทยจึงขอเรียกร้องไปยังทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ กกต.ที่ต้องให้ความสำคัญและแสดงท่าทีหยุดยั้งต่อปัญหานี้โดยเร็ว มิใช่เป็นฝ่ายรอรับรายงาน โดยเฉพาะในหลายพื้นที่ที่มีข้อมูลร้องเรียนว่า หลายจังหวัดมีการใช้อำนาจกดดันฝ่ายตรงข้าม ใช้กลไกทหารเข้าข่มขู่ คุกคามหัวคะแนน ประชาชนผู้สนับสนุนฝ่ายประชาธิปไตยอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย พรรคเพื่อไทยขอความร่วมมือให้พี่น้องประชาชนร่วมกันจับตามองพฤติกรรมความรุนแรงนี้ ที่กระทำโดยบุคคลในนามของรัฐ ทั้งนี้ก็เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งนี้ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่ายด้วยความเป็นธรรม มิใช่กลายเป็นการเลือกตั้งที่ถูกบันทึกในประวัติศาสตร์การเมืองไทยว่า มีการใช้อำนาจจากกลไกรัฐที่รุนแรงมากที่สุด เพื่อจัดการกับฝ่ายตรงข้ามของตน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net