ฉีกทุกกฎเกณฑ์ พปชร. ยันใครรวมเสียงข้างมากได้ก่อนมีสิทธิเป็นรัฐบาล ไม่จำเป็นต้องได้ที่ 1

อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พรุ่งนี้พล.อ.ประยุทธ์ อาจขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้ายของพรรค ระบุสบายใจขึ้น หลัง กกต. มีมติเอกฉันท์เรื่องแคนดิเดตนายกฯ ยืนยันพรรคใดสามารถรวมเสียงได้มากสุดมีสิทธิจัดตั้งรัฐบาล ไม่จำเป็นต้องได้อันดับ 1 เชื่อภายในพรรคไม่มีงูเห่า และพรรคนี้ไม่กลัวงู

อุตตม สาวนายน ที่มาภาพจากเฟสบุ๊คแฟนเพจพรรคพลังประชารัฐ

21 มี.ค. 2562 สำนักข่าวไทย รายงานว่า อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แถลงว่า ในวันพรุงนี้ (22 มี.ค.) พรรคจะจัดการปราศรัยใหญ่โค้งสุดท้ายในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่สนามกีฬาเทพหัสดิน โดยงานจะเริ่มตั้งแต่เวลา 17.00 น. ภายใต้แนวคิด “เปิดใจประชารัฐรวมใจประเทศไทยเป็นหนึ่งเดียว” โดยการปราศรัยจะมีไปตลอดจนถึงช่วงค่ำ ซึ่งจะเป็นการปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้ายของพรรคพลังประชารัฐ ทั้งนี้จะมีเซอร์ไพรส์อะไรหรือไม่ ขอให้อดใจรอรายละเอียด

ส่วนจะมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี มาร่วมหรือไม่ อุตตม กล่าวว่า อยู่ระหว่างการตัดสินใจของ พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่ได้มีการกำหนดตายตัว ทั้งนี้ทุกกิจกรรมได้มีแจ้งให้ทราบในฐานะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ซึ่งที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ได้ทำคลิปให้ และเราได้นำไปใช้ในพื้นที่ต่างๆ

อุตตม กล่าวอีกว่า การปราศรัยในวันพรุ่งนี้ (22 มี.ค.) พรรคจะใช้เวทีให้เต็มที่ที่สุด เพื่อสื่อสารกับประชาชน เป็นการเปิดใจว่าทำไมพรรคพลังประชารัฐถึงมาอยู่ ณ จุดนี้ พรรคพลังประชารัฐนำเสนอสิ่งใดกับประชาชน และจะเดินหน้าอย่างไร ทั้งนี้เชื่อว่าคำถามเหล่านี้อยู่ในใจของประชาชน ดังนั้นในวันที่ 22 มี.ค. นี้ จะเปิดใจกัน ส่วนเรื่องเอกสารที่มีการหลุดออกมาและใส่ร้ายพรรคพลังประชารัฐ ได้มีการชี้แจงแล้วว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร กองทัพก็ได้ชี้แจงแล้วจึงไม่เกิดความเป็นห่วง อะไร เพราะพรรคเดินตามกฎกติกา    

ส่วนกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเอกฉันท์ว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีคุณสมบัติที่ถูกต้องที่เสนอชื่อเป็นแคนดิเดตของพรรคพลังประชารัฐได้นั้น อุตตม กล่าวว่า พรรคเชื่อมั่นมาตั้งแต่ต้นว่าไม่ได้ดำเนินการผิดกฎหมาย แต่การที่ กกต.มีมติในเรื่องนี้ สังคมรับรู้แล้ว ก็เป็นสิ่งที่ดี ยอมรับว่าพรรคสบายใจขึ้น ทั้งนี้ได้ประเมินภาพรวมของพรรคในเวลานี้ ถือว่ากระแสดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ผู้สมัครของเรามีกำลังใจดีขึ้นมาก และยืนยันจะทำอย่างเต็มที่ในช่วงโค้งสุดท้าย           

ส่วนกรณีมีการประเมินว่าพรรคอยู่ในลำดับที่ 2 , ที่ 3 ของผลการเลือกตั้ง อุตตม กล่าวว่า ขอให้รอดู ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการวิเคราะห์จากกลุ่มหลายองค์กร ตลอดจนโพลต่าง ๆ เราก็รับฟังทั้งหมด แต่สุดท้ายแล้วอยู่ที่พรรคและผู้สนับสนุนพรรค

“มั่นใจในนโยบายของเราว่าสามารถตอบโจทย์ให้กับพี่น้องคนไทย เวลาที่เหลือโค้งสุดท้าย 3 วันว่าผลจะออกมาอย่างไรเร็วเกินไป ที่จะพูดคุยเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคการเมืองอื่น เพราะเชื่อว่าหลังปิดหีบในวันที่ 24 มีนาคม ผลออกมาชัดเจนแล้ว การเจรจาอย่างจริงจังมันก็จะเกิดขึ้น ดังนั้นขณะนี้ยังไม่มีการเจรจาอะไร เวลานี้ควรเป็นเวลาที่พรรคเร่งเสนอนโยบายให้ประชาชนตัดสินใจ ไม่ควรสร้างเงื่อนไขในการจัดตั้งรวมรัฐบาลกับใคร เพราะต้องขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้งด้วย” อุตตม กล่าว

เมื่อถามว่า จุดยืนของพรรคจะให้พรรคที่มีคะแนนสูงสุดเป็นอันดับ 1 จัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ อุตตม กล่าวว่า จุดยืนของพรรคคือพรรคใดที่ไปรวบรวมเสียงได้มากที่สุดเกินครึ่ง ซึ่งอาจจะมากกว่า 1 พรรคก็ได้ ก็สมควรที่จะมีสิทธิ์ในการจัดตั้งรัฐบาล

“การเลือกตั้ง คือ การฟังเสียงประชาชนทั้งหมดที่ออกมาใช้สิทธิ์ พรรคต่าง ๆ ก็ได้ฟังเสียงประชาชนที่แตกต่างกัน ถ้าเรายึดหลักการนั้นแล้ว เสียงส่วนใหญ่คือเสียงที่สำคัญที่สุด ไม่ว่าจะเป็นพรรคหรือกลุ่มไหน ถ้าได้เสียงส่วนใหญ่ ถือเป็นการสะท้อนถึงความปราถนาของประชาชนที่จะให้พรรคการเมืองเหล่านั้นได้มีสิทธิ์ในการจัดตั้งรัฐบาลก่อน ซึ่งถือเป็นกลไก กติกา พรรคจะเดินตามกระบวนการนั้น” อุตตม กล่าว

เมื่อถามว่า ห่วงหรือไม่ว่าจะถูกมองว่าเป็นการล็อบบี้ก่อนเลือกตั้ง อุตตม กล่าวว่า อย่าเพิ่งพูดถึงเงื่อนไข แต่เรื่องนี้ย้ำมาโดยตลอด แม้แต่พรรคอื่นคนอื่นก็พูดในทำนองเดียวกันว่าเสียงส่วนใหญ่มีสิทธิ์ในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะใครที่มีเสียงข้างมากย่อมมีโอกาส ซึ่งหากพรรคพลังประชารัฐไม่ได้เสียงอันดับ 1 ในการรวบรวมเสียงข้างมากจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่ขณะนี้ยังบอกไม่ได้ว่าพรรคพลังประชารัฐจะได้อันดับที่ 2 หรือ 3 เพื่อรวบรวมในการจัดตั้งรัฐบาล ขอให้รอผลการเลือกตั้งออกมาก่อน ขอให้รอการเจรจา หากพูดไป จะเข้าข่ายสร้างเงื่อนไข      

“เหตุผลที่พรรคการเมืองจะเข้ามาจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ หลักการใหญ่คือขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้ง พร้อมเคารพกฏกติกา ส่วนพรรคจะพิจารณาว่าพรรคการเมืองใดที่ทำงานร่วมกันได้ ก็ร่วมอุดมการณ์กันหรือนโยบายสอดคล้องกัน และเมื่อเข้ามาร่วมรัฐบาลแล้ว ก็จะสามารถทำงานได้จริง จะเอาสิ่งนี้เป็นตัวตั้ง และปัจจัยที่ทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่อยากให้มองว่าจะนำไปสู่การเลือกตั้งที่เป็นโมฆะ อยากให้มองเป็นปัจจัยทางบวก พรรคเน้นสิ่งที่เราเสนอให้ประชาชนมากกว่าวาทกรรม ส่วนผลออกมาอย่างไร ต้องเคารพกติกา อย่าสร้างเงื่อนไขให้ดำเนินการเพื่อให้ได้รัฐบาลใหม่แล้วเกิดปัญหา หรือถึงขั้นส่งผลโมฆะ” อุตตม กล่าว

อุตตม กล่าวอีกว่า หลังปิดหีบเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค.นี้ คาดว่าภายใน 24 ชั่วโมงจากนั้นจะเห็นภาพเบื้องต้นว่าพรรคไหนจะมีสิทธิในการพูดคุยจับมือทางการเมือง และมีความเป็นไปได้ว่าแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอาจจะมาประกาศตัวที่พรรคส่วนกระแสที่หลายคนกังวลว่าพรรคจะมีงูเห่านั้น ขอยืนยันว่าพรรคพลังประชารัฐไม่มีงูเห่า และพรรคเราก็ไม่กลัวงู

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท