ดิอิโคโนมิสต์นำเสนอวิดีโอและวิเคราะห์โดยสังเขปถึงสถานการณ์การเมืองไทยหลังเลือกตั้ง 24 มีนาคม โดยระบุว่าแม้จะมีการเลือกตั้งไปแล้วแต่เผด็จการทหารจะยังกุมอำนาจเอาไว้จากระบบการเมืองที่พวกเขาออกแบบให้พวกตัวเองได้เปรียบมาตั้งแต่แรกแล้ว

วิดีโอที่นำเสนอเมื่อวันที่ 16 มี.ค. ของดิอิโคโนมิสต์ (ชมวิดีโอ) ระบุว่าประเทศไทยกลายเป็นประเทศที่ไม่เท่าเทียมกันที่สุดในโลกจากข้อมูลของธนาคารเครดิตสวิส มีคนรวยร้อยละ 1 ของประเทศมีความมั่งคั่งมากกว่า 2 ใน 3 จากทั้งหมดของประเทศ ขณะเดียวกันภายใต้การปกครองของเผด็จการทหาร การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจก็ลดลง ในขณะที่การทุจริตคอร์รัปชันพอกพูน

อย่างไรก็ตามประเทศไทยกำลังจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค. 2562 ซึ่งมันควรจะเป็นการเลือกตั้งทำให้ประชาธิปไตยกลับคืนมา แต่ดิอิโคโนมิสต์ก็มองว่า จากการที่เผด็จการทหารออกแบบระบบการเมืองให้ตัวเองได้เปรียบเพื่อยึดกุมอำนาจเอาไว้ การเลือกตั้งที่จะถึงนี้จึงดูเหมือนจะเป็นการเข้าสู่การปกครองแย่ๆ จากเผด็จการทหารในระยะใหม่เท่านั้น

ดิอิโคโนมิสต์นำเสนอต่อไปว่า การที่เผด็จการทหารใช้อำนาจควบคุมที่แผ่ขยายกว้างขวางขึ้นยังกลายเป็นบ่วงคล้องคอการเมืองไทยให้ชะงักงัน เช่น รัฐธรรมนูญฉบับล่าสุดจากเผด็จการทหารที่ให้อำนาจผู้นำทหารบังคับใช้ "แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี" การบังคับใช้ที่ว่านี้บีบให้รัฐบาลในอนาคตต้องปฏิบัติตาม ในขณะที่พรรคอนาคตใหม่ก็เป็นทางเลือกหนึ่งในฐานะที่ดึงดูดคนรุ่นใหม่ แต่เผด็จการทหารก็มีอำนาจแต่งตั้งวุฒิสภาทั้งหมด ทำให้เป็นเรื่องยากที่ฝ่ายตรงข้ามกับเผด็จการจะจัดตั้งรัฐบาล ทั้งหมดนี้จึงเป็นไปได้ที่ประเทศไทยจะต้องเผชิญกับอีก 5 ปี แห่งความขาดเขลาและความเฉื่อยเนือย

"ชาวไทยควรได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้ เริ่มจากการเลือกตั้งแบบที่เป็นของแท้" ดิอิโคโนมิสต์ระบุในวิดีโอ

เรียบเรียงจาก

เพจ The Economist, 16-03-2019