Skip to main content
sharethis

อุตตมประเมินพลังประชารัฐได้ 140-150 ที่นั่ง พร้อมรวมเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาลก่อน ด้านสุดารัตน์ ซัดกลับ ทำลายมารยาททางการเมือง ชี้จับตาหลังเลือกตั้ง อาจมีการล๊อบบี้ ส.ส. กึ่งเชิญกึ่งอุ้ม ระบุรอบนี้หากบิดเบือนเจตจำนงค์ประชาชน เชื่อว่าประชาชนจะสั่งสอนเอง

22 มี.ค. 2562 อุตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกระแสตอบรับของพรรคในช่วง 3 วันสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งว่า มีกระแสตอบรับที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้พรรคมั่นใจว่าจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ โดยประเมินที่นั่ง ส.ส. ไว้ที่ 140 – 150 ที่นั่ง ซึ่งในทางปฎิบัติพรรคการเมืองใดที่สามารถรวมเสียงข้างมากให้เกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎรได้ก่อน จะเป็นพรรคที่มีสิทธิจัดตั้งรัฐบาลก่อน โดยพรรคพลังประชารัฐคาดว่าสามารถทำได้ ส่วนการพิจารณาว่าจะร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคใดนั้น ยังไม่ได้มีการพิจารณา จำเป็นต้องรอดูผลการเลือกตั้งก่อน

“พรรค พปชร. จะแตะมือกับใครนั้น ขึ้นอยู่กับเสียงที่ได้ แต่ตอนนี้ภาพเริ่มชัดเจนจากแนวทาง การนําเสนอนโยบายของหลายพรรค โดยพรรคมีจุดยืนต่อการร่วมรัฐบาล เพียงสิ่งเดียวคือ การมีอุดมการณ์เดียวกันต่อการทํางานเพื่อสร้างและทําประโยชน์เพื่อประชาชนได้อย่างแท้จริง ภายใต้กติกาของรัฐธรรมนูญ เพื่อปฏิรูปประเทศ และทําให้ประเทศพัฒนาก้าวหน้า คนไทยต้องไม่มีความเหลื่อมล้ำ ส่วนพรรคไหนที่มีพฤติกรรมที่ทําผิดกฎหมาย ผิดกติกา หรือมีพฤติกรรมขัดกับธรรมเนียมของสังคม พรรคจะไม่พิจารณาร่วมทํางานด้วย” อุตมกล่าว

อุตตม กล่าวถึงกรณีที่คนตั้งข้อสังเกตว่า พปชร. จะร่วมทํางานกับพรรคเพื่อไทย (พท.) หรือ พรรคอนาคตใหม่ (อนค.)ที่ประกาศไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะแคนดิเดตนายกฯที่พรรคสนับสนุนได้ หรือไม่ว่า ไม่อยากให้ทุกพรรคการเมืองสร้างเงื่อนไขใดๆ ในทางการเมือง และทุกพรรคควรเน้น เรื่องนําเสนอนโยบายให้ประชาชนตัดสินใจก่อนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค. ว่าควร ใช้สิทธิลงคะแนนเลือกพรรคไหน ที่นําเสนอนนโยบายเป็นประโยชน์กับประโยชน์นมากที่สุด ไม่ อยากให้ทุกพรรคเน้นว่าจะร่วมมือ หรือร่วมงานกันใคร หรือพรรคไหนได้หรือไม่ เพราะยังไม่ถึงเวลา สิ่งที่ประชาชนคาดหวังที่สุดตอนนี้คือ คนที่มีศักยภาพเข้าไปทํางานเพื่อประเทศ และแก้ปัญหาให้ประชาชน

ด้าน สุดารัตน์ เกยุราพันธ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ระบุพรรคที่รวมเสียงได้มากที่สุด มีสิทธิ์ที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้ ว่า พรรคพลังประชารัฐคงเห็นว่าตนเองจะไม่ได้เสียงลำดับที่ 1 แน่นอน จึงพยายามวางกฎเกณฑ์กติกาหรือมารยาทที่แตกต่างจากอดีต ซึ่งวัฒนธรรมที่ดีทางการเมือง ปกติแล้วจะให้พรรคที่ได้เสียงมากลำดับที่ 1 เป็นผู้นำจัดตั้งรัฐบาล หากพรรคลำดับที่ 1 ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ จึงจะเปิดโอกาสให้แข่งขันกันต่อ 

สุดารัตน์ กล่าวว่า ครั้งนี้พรรคพลังประชารัฐ ได้แสดงตัวตนออกมาแล้วโดยไม่สนกฎเกณฑ์กติกา แต่พร้อมทำทุกวิถีทางให้ตนเองได้กลับเข้าสู่อำนาจ และเชื่อว่าหลังการเลือกตั้งจะมีงูเห่าหรือ ล็อบบี้ ส.ส. เกิดขึ้น ในลักษณะเชิญกึ่งอุ้ม ไปหาผู้มีอำนาจ เพื่อบังคับให้ร่วมกับ พรรคพลังประชารัฐ และจะมีเหตุการณ์ ที่พยายามซื้อตัว ส.ส. รายบุคคล เพื่อสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์กลับมาสู่อำนาจให้ได้โดยไม่สนวิธีการ จะผิดกฎหมาย ไม่ถูกต้องตามจริยธรรม และเป็นวิธีการ ผิดธรรมเนียมปฏิบัติ

สุดารัตน์ กล่าวว่า เชื่อมั่นว่าวันนี้ประชาชนจะออกมาเลือกตั้งอย่างถล่มทลายแสดงเจตนารมณ์อย่างชัดเจน ดังนั้นหากนักการเมืองคนใด หัวหน้าพรรคการเมืองคนใด ไม่ทำตามที่ยืนยันไว้ว่าจะเคารพเสียงประชาชน ทำตามอำเภอใจ เชื่อว่าประชาชนไม่ยอมประชาชนต้องสั่งสอน 

เรียบเรียงจาก: มติชนออนไลน์ / สำนักข่าวไทย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net