ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 19.44 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ปราศรัยปิดเวทีพรรคพลังประชารัฐ ที่สนามเทพหัสดิน กรุงเทพมหานคร โดยมวลชนตะโกนลุงตู่สู้ๆ ลุงตู่สู้ๆ ต้อนรับ และกล่าวปราศรัยกับผู้สนับสนุนว่าตัวเขามีทั้งคนรักและคนไม่รัก แต่ไม่สามารถท้อได้ พร้อมชวนประชาชนเติมใจให้กัน จับมือกันพาประเทศเดินหน้าเข้มแข็ง

เขากล่าวด้วยว่า ตัวเขาอยู่บริหารมา 5 ปี รู้ว่าอะไรเกิดขึ้น อะไรคือปัญหาและอุปสรรค ต้องแผ้วถางทางให้โล่ง ทำให้บ้านเมืองสงบสุข เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ต้องทำให้ยั่งยืน ลดความขัดแย้ง นำหัวใจของความรักความสามัคคีคืนมา ความรักนั้นต้องรักตัวเอง รักพ่อแม่ รักครอบครัว รักชาติ รักศาสนา รักพระมหากษัตริย์ ใครเห็นด้วยลุกขึ้นยืน รวมพลัง ลุกขึ้น เราอย่านั่งรอ ต้องลุกขึ้นแล้วก้าวเดินไปพร้อมกับผม ประเทศไทยจะไม่ล้มลงอีก ขอบคุณทุกกำลังใจ เชื่อว่ากำลังใจจะอยู่กับเขาอีกนานเท่านาน ส่วนประวัติศาสตร์ที่ไม่ดี ให้จำไว้เป็นบทเรียน

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ปราศรัยเป็นเวลาประมาณ 15 นาที ก่อนปิดเวทีด้วยเพลง "จับมือกันไว้" โดยเวทีปราศรัยของพรรคพลังประชารัฐสิ้นสุดในเวลาประมาณ 20.00 น.

ที่มา: Facebook/พรรคพลังประชารัฐ

พลังประชารัฐเปิดเวทีส่งท้ายลั่นรู้ปัญหาประชาชน

สำหรับบรรยากาศปราศรัยก่อนหน้านี้ในเวลาประมาณ 18.40 น. พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ แกนนำพรรคพลังประชารัฐ อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวปราศรัยว่า นโยบายพรรคพลังประชารัฐเกิดจากพวกเรารวบรวมปัญหาของประชาชน เราศึกษารู้ปัญหาคนกรุงเทพฯ ประชาชนไม่ต้องการนโยบายเพ้อฝัน ต้องการคนมุ่งมั่นแก้ไขปัญหา พรรคเราร่วมกันคิดร่วมกันทำ ไม่ว่าใครเข้ามาเป็นรัฐบาล รถไฟฟ้ามี 2 เส้น แต่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา วันนี้มีรถไฟฟ้าใน กทม. ที่อนุมัติก่อสร้างแล้ว 7 เส้นทาง

มีพรรคการเมืองบางพรรคพูดเอาสนุก เล่นโซเชียลไปเรื่อยๆ พูดแต่ละเรื่องอาจสะใจ แต่วันนี้ชีวิตความเป็นอยู่สำคัญ เขาเชื่อว่าคนจะคิดได้ว่าจะพาประเทศไปทางไหน อย่าเลือกเอาสนุกเอากระแส ต้องเลือกนโยบายพรรคที่คิดแล้วทำได้จริง ต้องอยู่บนความจริง ความรอบคอบ นี่คืออนาคตของลูกหลานเรา จะฝากอนาคตไว้กับใคร ประเทศไทยจะมีความเสี่ยงไม่ได้

เมื่อไม่กี่ปีก่อนกรุงเทพฯ เกิดอะไรขึ้น พี่น้องจำควันไฟที่สุมบ้านเมืองเราได้ไหม ออกไปไหนก็ไม่ปลอดภัย นั่นคือภาพที่ไม่มีใครลืมเลือน พล.อ.ประยุทธ์เข้ามาไม่มีใครเผาบ้านเผาเมืองอีก ลูกหลานเราไม่มีความเสี่ยง เราอยากให้คนกรุงเทพปลอดภัย คนต่างจังหวัดมีความสุข พรรคการเมืองอื่นบอกเรามาจะไม่สงบหรือ

ถามว่าไม่ใช่พรรคพวกลื้อหรือที่ออกมาแล้วมันไม่สงบ มีสีเสื้อเต็มบ้านเมือง เลือกลุงตู่บ้านเมืองจะสงบ ไม่เหมือนบางพรรคความคิดที่จะล้มล้างพิธีไหว้ครู ไม่ยกเลิกการหมอบกราบ ไม่มีการบอกว่าเศรษฐกิจพอเพียงเป็นเพียงวาทกรรม เพราะคนที่เราเลือกว่าเหล่านี้คือคนดี มีอุดมการณ์ ที่สำคัญคนพวกนี้รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

มีสองพรรคที่จัดข้างๆ กันที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ผมก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร หรือเพราะจัดข้างๆ กันเวลาเช็คบิลจะได้เช็คกับนายใหญ่คนเดียว พอดีพลังประชารัฐมีแต่ความตั้งใจ อุดมการณ์ ไม่มีนายทุน ขอให้ทุกคนเลือกพรรคพลังประชารัฐ

เวลาประมาณ 19.00 น. สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ปราศรัยว่าที่ผ่านมาบ้านเมืองสงบ ทหารนำความสามัคคีกลับมา แต่พอถึงวันเลือกตั้ง มีพรรคการเมืองบางพรรคสร้างวาทกรรมการเมือง กล่าวหาว่ารัฐบาลทหารเป็นรัฐบาลที่เลวร้าย เป็นพวกพูดเอาแต่ได้ 4 ปีนี้นานาชาติยอมรับประเทศไทยว่าดีที่สุด ทั้งที่ประเทศไทยมีเศรษฐกิจแข็งแกร่ง มีเงินทุนสำรองติดอันดับโลก แต่พรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามบอกว่าบ้านเมืองวิกฤต พวกนี้พูดไม่จริง