อนาคตใหม่ ขอว่าที่ ส.ส.เห็นแก่ประเทศ ร่วมหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจ คสช.

25 มี.ค. 2562 ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แถลงจุดยืนต่อการเลือกตั้งว่า ในการจัดตั้งรัฐบาล ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พร้อมเป็นนายกฯ แต่พรรคอนาคตใหม่ จะไม่เสนอชื่อธนาธรเป็นนายกฯ เพราะต้องการยืนยันวัฒนธรรมประชาธิปไตยที่ถูกต้อง พรรคอนาคตใหม่ไม่เสนอชื่อธนาธรเป็นนายกฯ เพราะสังคมไทยต้องยึดหลักการที่ถูกต้อง พรรคที่ชนะเป็นอันดับหนึ่งต้องเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และนายกฯ ต้องมาจากพรรคที่มี ส.ส. อันดับหนึ่ง และสิ่งที่ต้องทำต่อไปคือ ปิดสวิตช์ ส.ว. เวลานี้ยังยืนยันว่า การปิดสวิดยังเป็นไปได้ พรรคที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ สืบทอดอำนาจ มี 3 พรรคคือ พลังประชารัฐ 116 รวมพลังประชาชาติไทย 5 ประชาชนปฏิรูปมี 0 หรือ 1 หากรวมพรรคสืบทอดอำนาจออกมาคือ 122 ที่นั่ง เงื่อนไขการปิดสวิตช์ ส.ว.คือ ส.ส.สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์น้อยกว่า 126 ที่นั่ง จึงขอชวนพรรคการเมืองที่เชื่อว่า ส.ส. คือตัวแทนประชาชน ต้องฟังเสียงประชาชน

โดยเฉพาะที่ไม่ได้อยู่กับค่ายสืบทอดอำนาจ มาร่วมกันรับรองนายกฯจากพรรคที่รวมเสียงข้างมากได้ และขอวิงวอนภาคประชาชนสังคม สื่อมวลชน และประชาชนทั่วไป ร่วมกันเรียกร้องให้ ส.ส. ทุกพรรคปิดสวิตช์ ส.ว. ที่สภาล่าง ซึ่งยังมีความเป็นไปได้ ยืนยันว่านี่เป็นวิธีที่สันติที่สุด ให้การเมืองหลังการเลือกตั้งไม่วุ่นวาย หากปล่อยให้ ส.ว. เลือกนายกฯ ประเทศไทยจะเดินหน้าสู่ความขัดแย้งวุ่นวายได้

ปิยบุตร แสงกนกกุล กล่าวว่า 3 เงื่อนไขในการตกลงเข้าร่วมรัฐบาล จะต้องมีข้อตกลงร่วมกันจากเงื่อนไขของแต่ละพรรค ไม่ใช่ต่อรองแลกตำแหน่ง รัฐมนตรีกระทรวงใหญ่เท่านั้น แต่ต้องมีหลักการพื้นฐานร่วมกันด้วย ซึ่งอนาคตใหม่มี 3 ข้อคือ

1.แก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 เพื่อเพิ่มเติมหมวดการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับให้มี ส.ส.ร.ที่มาจากประชาชน แล้วจบที่การทำประชามติ ตัวอย่างคือการเปลี่ยนผ่านรัฐธรรมนูญฉบับ 2534 สู่รัฐธรรมนูญฉบับ ประชาชน 2540 จะรือฟื้นจิตวิญญาณ 40 กลับมาใหม่

2.ต้องจัดการมรดกบาปของคสช. ทั้งยุทธศาสตร์และแผนปฏิรูป ในขั้นต้นขอเสนอวิธีที่ง่ายและเป็นไปได้มากสุดคือ ปลดมาตรา 279 ของรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ให้ความคุ้มกันรับรองบรรดประกาศคำสั่งและการใช้อำนาจคสช.ตลอด 5 ปีและในอนาคตชอบด้วยกฎหมายตลอดกาล จึงต้องปลดล็อกให้ได้

3.วงจรรัฐประหาร ต้องปฏิรูปกองทัพให้สอดคล้องกับประชาธิปไตย กองทัพอยู่ภายใต้รัฐบาลพลเรือน โดยให้กองทัพอยู่ถูกที่ เพื่อจะได้ไม่ต้องรัฐปะหารอีกต่อไป

ปิยบุตร กล่าวถึงผลการเลือกตั้งว่า ผลคะแนนการเลือกตั้งจะต้องเปิดเผยเรียงหน่วยเลือกตั้ง เพื่อที่จะพิสูจน์ความถูกต้อง โดยภาคประชาชน เอกชน และพรรคการเมือง พร้อมที่จะเข้าไปดูข้อมูลทั้งหมด แต่ขึ้นอยู่กับ กกต. ว่า พร้อมจะเปิดให้ตรวจสอบหรือไม่ ซึ่งต้องย้ำว่าข้อมูลข่าวสารของทางราชการที่ไม่ให้เปิดเผยนั้นต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความั่นคงของรัฐ ซึ่งกรณีนี้ไม่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง และการเปิดเผยข้อมูลยังเป็นการยืนยันความโปร่งใส

“หากคณะกรรมการการเลือกตั้ง มั่นใจว่าตัวเองจัดการเลือกตั้งได้อย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม ไม่มีเหตุผลอะไรอีกแล้วที่จะปิดข้อมูลเชิงสถิตินี้ไว้ ขอเรียกให้เปิดข้อมูลนี้ทุกหน่วยเลือกตั้ง” ปิยบุตร กล่าว

ปิยบุตร กล่าวต่อว่า ตามที่มีข้อมูลที่พรรคไปสังเกตการการนับคะแนน และข้อมูลที่มีผู้ร้องเรียนเข้ามาพบว่ามีหลายเขตเลือกตั้งที่มีปัญหา โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานครมีอยู่ 11 เขต ที่ผู้ชนะ ชนะพรรคอนาคตใหม่ไปเพียงหลักร้อย หลักพัน ซึ่งคะแนนช่วงนี้เป็นคะแนนที่ไม่มาก พรรคมีความสงสัยว่าการนับนั้นมีความผิดพลาดบกพร่องหรือไม่ ดังนั้นพรรคอนาคตใหม่จะยื่นเรื่องไปที่ กกต. พิจารณาว่าจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องนับคะแนนใหม่ ส่วนเขตอื่นๆมีต่างจังหวัดอีกประมาณ 10 เขต

ธนาธร กล่าวถึงจุดยืนของการจัดตั้งรัฐบาลว่า พรรคอนาคตใหม่ ไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อตำแหน่งทางการเมือง แต่ตั้งขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศ เพื่อผลักดันวาระที่ก้าวหน้า และเป็นประชาธิปไตยให้กับสังคม ฉะนั้นเพื่อเป็นไปตามวัตถุประสงค์พรรคยืนยันที่จะทำการเมืองในระยะยาว ไม่ใช่ทำการเมืองเพื่อหวังตำแน่ง หรือเก้าอี้

เมื่่อถามถึง คำอธิบายของการไม่เสนอชื่อธนาธรเป็นนายกฯ ปิยบุตร กล่าวว่า นี่คือหลักธรรมเนียมปฏิบัติให้พรรคการเมืองอันดับหนึ่งเป็นแกนนำจัดรัฐบาลเป็นนายกฯ เพราะตั้งแต่ปี 35 ก็เป็นแบบนี้มาตลอด การเลือกตั้งเฉือนกันหลายครั้ง พรรคของบรรหารเฉือน ปชป. พรรคความหวังใหม่เฉือนประชาธิปัตย์ 1-2 ที่นั่ง ก็ต้องให้พรรคที่ชนะตั้งรัฐบาล

แต่ครั้งนี้เฉือนกันเป็นหลัก 10 ไม่มีเหตุผลอะไรที่พรรคอันดับสองจะตั้งรัฐบาล ก่อนการเลือกตั้งพรรคเราเสนอธนาธร ก็ยังมีความมั่นใจเต็มเปี่ยมว่า ธนาธรจะเป็นนายกฯ แต่ต้องมาอย่างสง่างามผ่าเผย ต้องชนะอันดับ 1 ถ้าได้ อันดับ 3 นั้น ถือว่าเป็นนายกฯไม่สง่างาม

ธนาธร กล่าวว่า อนาคตใหม่ไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่ออยากได้ตำแหน่งนายกฯ หรือรัฐมนตรี แต่ตั้งขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนแปลง ผลักดันวาระก้าวหน้าให้สังคม จึงยืนยันที่จะทำการเมืองระยะยาว

เมื่อถามว่า จะสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทยอันดับ 1 ที่ไม่ได้เป็นส.ส.หรือไม่ มีการติดต่อหารือกับบพรคเพื่อไทยแล้วหรือยัง ธนาธร กล่าวว่า อนาคตใหม่ให้น้ำหนักกับการหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจกับคสช.เป็นเงื่อนไขสำคัญ และถ้าแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทยอย่าง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ก็แสดงตัวชัดเจนว่า เข้าสู่กระบวนการการเลือกตั้ง เป็นผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่ออันดับ 2 แม้ไม่ได้ตำแหน่งส.ส. แต่ได้แสดงความตั้งใจชัดเจนว่า อยู่กับกติกา

ธนาธร กล่าวว่า ขอยืนยันอีกครั้งว่า ไม่อยากให้ประเทศไทยเกิดทางตัน คุณหญิงสุดารัตน์ เธอแสดงความตั้งใจจริงที่จะอยู่ในระบบในกติกา

“เมื่อคืนที่ผ่านมามีการคุยคร่าวๆ แต่ยังไม่มีรายละเอียดมาก มีจุดที่เห็นตรงกัน คือ ต่อต้านการสืบทอดอำนาจของคสช.เท่านั้น ที่หารือกับพรรรคเพื่อไทยไป ย้ำอีกครั้งว่า ไม่มีการพูดถึงนายกฯ รัฐมนตรี กระทรวงใดๆ ในรายละเอียดมีเพียงเรื่องเดียวว่า นี่คือช่วงเวลาการหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของคสช. อย่างน้อยที่สุดนี่คือสิ่งที่สังคมต้องการ ขอให้ใจเย็นๆนี่เพิ่ง 1 วันหลังการเลือกตั้งเท่านั้น” ธนาธรกล่าว

เมื่อถามว่า พปชร.อ้างได้คะแนนดิบมากที่สุด จะตั้งรัฐบาลโดยไม่รอเพื่อไทยที่ได้ ส.ส. อันดับ 1 โดยอาจมีพรรคภูมิใจไทยร่วมด้วย ปิยบุตร กล่าวว่า กรณีของพรรคภูมิใจไทยนั้น พรรคอันดับ1 อย่างพรรคเพื่อไทยต้องเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เป็นหน้าที่เพื่อไทยที่จะไปรวมฝ่ายต้านคสช.ให้ได้

เงื่อนไขอนาคตใหม่ถ้าจะร่วมภูมิใจไทยก็ยึดตาม 3 ข้อที่แถลงไว้ ขอยืนยันว่า ตามประวัติศาสตร์ตั้งแต่ปี 2535 เป็นต้นมา เฉือนกัน 1-2 ที่นั่ง ยังตั้งกันได้ แต่รอบนี้ชนะห่างกันเป็น 10 แล้วจะมาอ้างว่าไม่มีกฎหมายข้อไหนกำหนดไม่ได้ สุดท้ายก็อ้างกันหลักลอย ถ้ามีกฎหมายอ้างกฎหมาย ถ้าไม่มีกฎหมายก็อ้างธรรมเนียม สลับไปสลับมา

“หลักการนี้ต้องยึดให้มั่น นี่จึงทำให้เราไม่เสนอธนาธรเป็นนายกฯ เพราะหมายถึงล้มหลักการ เปิดทางให้พปชร.ตั้งรัฐบาล ที่จะมาอ้างชนะผลคะแนนดิบ 7 ล้านกว่าเสียง ไม่ได้ เพราะปัญหาคือประเทศไทยอยู่ในระบบรัฐสภา ต้องยึดเสียงส.ส.ข้างมากสภาผู้แทนราษฎร ส่วนคะแนนดิบหรือป๊อบปูล่าโหวตนั้น ไว้ใช้กับประเทศที่เลือกนายกฯโดยตรง แต่ประเทศไทยไม่ใช่ จึงไม่เหตุผลอะไรที่พปชร.จะใช้อ้างจัดตั้งรัฐบาล”ปิยบุตรกล่าว

ธนาธร กล่าวว่า ตัวเลขที่อยู่ในมือของตนฝ่ายสนับสนุนคสช. เสียงส.ส.รวมกันต่ำกว่า 124 จึงขอชวนทั้งนักการเมือง ส.ส.ในฐานะผู้แทนทุกคน ร่วมกันดำรงตนให้เหมาะสม ยกมือโหวตให้พรรคที่รวบรวมเสียงข้างมากให้ได้ 376 เสียง ก็ยังเป็นไปได้

ตอนนี้คงต้องรอดูท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ เชื่อว่า ทุกคนคงรู้พรรคใดเป็นตัวแปรบ้าง ขอเรียกร้องส.ส.ที่ยังเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศ เคารพเสียงประชาชนมาร่วมกันทำตามนี้ เพื่อที่จะไม่พาประเทศสู่ความวุ่นวาย ทางนั้นยังเปิดอยู่

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท