Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

ไม่ว่าตัวเลขการออกไปใช้สิทธิของประชาชนในการลงคะแนนเลือกตั้ง จะมากหรือจะน้อยไปจากที่คาดไว้เพียงใด ก็เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องฟังจาก กกต.เพราะเป็นผู้ที่ทำการรวบรวมโดยตรง ตามอำนาจหน้าที่ในฐานะของคณะกรรมการการเลือกตั้ง

ส่วนการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของ กกต.จากทุกฝ่าย โดยเฉพาะจากประชาชน กกต.ก็จะต้องใส่ใจเพื่อรับฟังเช่นเดียวกัน

เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา หลังจากที่ กกต.ชุดนี้เข้ามารับตำแหน่ง มีเรื่องราวมากมายที่ทำให้สังคมเกิดความคลางแคลงใจจากการปฏิบัติหน้าที่ครั้งแล้วครั้งเล่า จนมิอาจจะปฏิเสธได้เพราะบางเรื่องนั้นดำเนินการอย่างล่าช้ามาก จนเป็นที่มาของการวิพากษ์วิจารณ์

จนทำให้ความเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ที่บริหารงานโดยกรรมการขององค์กรในชุดปัจจุบัน กำลังจะล้มละลายในความน่าเชื่อถือ ว่าเป็นองค์อรอิสระจริงหรือไม่ ในความรู้สึกของประชาชนจำนวนไม่น้อย

เห็นได้จาก การจัดการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ อย่างไม่เหลือความเกรงใจต่อคณะกรรมการฯ ยอดการเข้าชื่อเพื่อถอดถอนจากประชาชน ตัวเลขเพิ่มขึ้นเกือบจะทะลุ 1 ล้านคนภายในระยะเวลาไม่นานนักหลังปิดหีบเลือกตั้ง เป็นปรากฎการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นับตั้งแต่มีการจัดตั้งองค์กรฯ นี้

จึงเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการฯ ทุกๆ คน รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ในทุกฝ่ายทุกคน จะต้องกอบกู้ความเชื่อมั่น เชื่อถือ ในการปฏิบัติหน้าที่ ว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ และยังคงความเป็นอิสระ ไม่อยู่ใต้อำนาจของใครนอกจากประชาชน และปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริต บริสุทธิ์ เที่ยงธรรม

กกต.ต้องเคลียร์ให้ได้ว่า การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา ทำไมการนับคะแนนถึงได้ล่าช้า ใช้เวลาเนิ่นนานข้ามวันข้ามคืน ทั้งๆ ที่แจ้งว่ามีผู้ไปใช้สิทธิ์น้อยกว่าทุกครั้ง แตกต่างไปจากการเลือกตั้งครั้งอื่นๆ

รวมไปถึงข้อสงสัยในเรื่องอื่นๆ เช่น ผลคะแนนที่หลายหน่วยเลือกตั้งที่มีมากกว่าจำนวนผู้ออกไปใช้สิทธิ์ กับกรณีบัตรเสีย ตัวเลขจำนวนที่เพิ่มมากขึ้นในบางหน่วยฯ อย่างมีนัยยะ เรื่องต่างๆ เหล่านี้ กกต.ต้องเคลียร์เพื่อให้เกิดความกระจ่างในความรู้สึกทั่วไปของผู้คน

กกต.จะต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจในการปฏิบัติหน้าที่ของตนเอง โดยให้ความร่วมมือในการมีส่วนร่วมของตัวแทนประชาชน เพื่อทำให้การเลือกตั้งในครั้งนี้ได้รับการตรวจสอบในทุกประเด็นที่สังคมสงสัย เพื่อเกียรติยศขององค์กรที่ตนเองสังกัด

จากนี้ไป กกต.มีเวลาอีกราว 60 วัน ในการทำเรื่องต่างๆ เหล่านี้ เพื่อให้การเลือกตั้งในครั้งนี้ปราศจากข้อสงสัยและข้อร้องเรียน และสามารถประกาศรับรองผลได้ ต้องทำทุกอย่างให้ชัดเจน

ที่สำคัญที่สุด กกต.จะต้องไม่สร้างเงื่อนไข ให้การเลือกตั้งในครั้งนี้นำไปสู่ความขัดแย้งของผู้คนในสังคมอีก และต้องระมัดระวังที่จะไม่ทำให้การเลือกตั้งในครั้งนี้เป็นโมฆะ ต้องพิจารณาทุกเรื่องราวด้วยใจที่เป็นธรรมและไม่อยู่ภายใต้อำนาจหรือเพื่อตอบสนองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

ต้องพิทักษ์รักษาความเชื่อมั่นเอาไว้ให้ได้ อย่านำเอาตัวเองเข้ามาเป็นคู่ขัดแย้ง เพราะจะนำไปสู่ความเสื่อม

หวังว่านับจากนี้ไป กกต.จะสามารถหาคำตอบมาให้แก่ผู้คนในสังคม และยอมรับได้ว่าการเลือกตั้งในครั้งนี้ที่ประชาชนรอคอย มีความบริสุทธ์และยุติธรรม ไม่มีการโกง ไม่มีการแทรกแซงผลโหวต อย่างที่คนเขาสงสัยกัน…!!?

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net