เช้าตรู่ หนึ่งนาฬิกา วันที่ 25 มีนาคม 93% ของคะแนนนับแล้ว ปรากฏว่าพรรคเผด็จการแพ้คะแนนเสียงทั่วประเทศ เพราะประชาชนส่วนใหญ่ไม่เอาพรรคพลังประชารัฐและเลือกพรรคต้านทหารแทน
พรรคเพื่อไทย และพรรคอนาคตใหม่ ได้คะแนนเสียง 7.2 และ 5.3 ล้านเสียงตามลำดับ ถ้ารวมกับคะแนนเสียงของพรรคเสรีรวมไทย พรรคเพื่อชาติ และพรรคประชาชาติ ประชาชนที่เลือกพรรคต้านทหารมีทั้งหมด 13.8 ล้าน หรือ 39% ของทั้งหมด
พรรคพลังประชารัฐของทหารได้ 7.7 ล้านเสียง ถ้ารวมกับ 3.2 ล้านเสียงของพรรคภูมิใจไทย และ 0.3 ล้านเสียงของพรรครวมพลังประชาชาติของสุเทพ ประชาชนสนับสนุนพรรคที่อวยเผด็จการแค่ 11.2 ล้าน หรือ 32%
พรรคประชาธิปัตย์ถือว่าพ่ายแพ้อย่างรุนแรงเพราะได้แค่ 3.3 ล้านเสียง ในการเลือกตั้งปี 2554 พรรคนี้ได้ 11.4 ล้านเสียง ส่วนตระกูลของสุเทพเสียคะแนนเสียงจนเกือบสูญพันธ์ ได้สส.เขตแค่คนเดียว
ผมคาดว่าสลิ่มเสื้อเหลืองเทคะแนนที่เคยให้ประชาธิปัตย์ไปสู่พรรคทหาร พวกนี้คงอยากจะสนับสนุนประยุทธ์โดยตรงแทนที่จะสนับสนุนเผด็จการผ่านพรรคประชาธิปัตย์
การคำนวณจำนวนที่นั่งในรัฐสภาเป็นเรื่องที่ซับซ้อนเพราะสูตรใหม่ที่เผด็จการนำเข้ามาใช้ แต่จากจำนวน สส. เขต 350 ที่นั่ง ปรากฏว่าพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่มีที่นั่งเขตมากที่สุดคือ 131 ที่นั่ง เทียบกับพรรคทหารที่ได้แค่ 103 ที่นั่ง
ถ้ารวมจำนวน สส.เขตของพรรคต้านทหาร พรรคเหล่านี้ได้ 162 ที่นั่ง (อนาคตใหม่ได้ 26 ที่นั่ง) ซึ่งมากกว่าพรรคทหารกับพรรคภูมิใจไทยที่ได้แค่ 142 ที่นั่ง
ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ได้เพียง 30 ที่นั่ง
สรุปแล้วผลการเลือกตั้งณเวลานี้ชี้ให้เห็นว่าประชาชนส่วนใหญ่ปฏิเสธเผด็จการประยุทธ์ แต่เราทราบดีว่ามันอยากจะใช้เสียงของ สว. แต่งตั้งเพื่อดันให้ตัวมันเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเราต้องฟันธงว่าไม่มีความชอบธรรมแต่อย่างใด
ประชาชนผู้รักประชาธิปไตยคงต้องต่อสู้ต่อไปเพื่อไม่ให้ประยุทธ์โกงการเลือกตั้ง และเพื่อสร้างสิทธิเสรีภาพประชาธิปไตยแท้จริงในสังคมของเรา
เผยแพร่ครั้งแรกใน: turnleftthai.wordpress.com/2019/03/24