Skip to main content
sharethis

เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.) ออกแถลงการณ์ต่อการจัดการเลือกตั้งและการจัดตั้งรัฐบาล เชิญชวนประชาชนแสดงออกเชิงสัญลักษณ์อย่างสันติ เรียกร้องให้มีการเปิดเผยผลการนับคะแนนที่โปร่งใสในรูปแบบต่างๆ เช่น การสื่อสารในสังคมออนไลน์ ชี้ไม่ต้องการให้เกิดความปั่นป่วนวุ่นวายเพื่อเป็นข้ออ้างให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะและส่งผลให้ คสช. อยู่ในอำนาจต่อไป

31 มี.ค. 2562 เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.) ออก แถลงการณ์เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมืองต่อการจัดการเลือกตั้งและการจัดตั้งรัฐบาล โดยระบุว่าตามที่ได้มีการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 มี.ค. ที่ผ่านมา หลังจากที่ประเทศต้องอยู่ภายใต้การปกครองของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) มาเป็นเวลาเกือบ 5 ปี อย่างไรก็ดี กลับปรากฏว่ามีข้อพิรุธหลายประการที่ส่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่เป็นไปอย่างอิสระ สุจริต และยุติธรรม ซึ่งส่งผลต่อความชอบธรรมของพรรคการเมืองที่กำลังจะจัดตั้งรัฐบาล เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.) จึงขอแสดงท่าทีและข้อเสนอดังต่อไปนี้

1. การเลือกตั้งครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความตื่นตัวของประชาชนที่ประสงค์จะใช้อำนาจของตนผ่านการเลือกตัวแทนและผู้ที่จะมาเป็นรัฐบาลตามหลักหนึ่งคนหนึ่งเสียงของระบอบประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งล่วงหน้านอกราชอาณาจักรที่ประชาชนยืนต่อคิวเป็นระยะเวลานานด้วยความมุ่งมั่นอดทน การเลือกตั้งล่วงหน้าที่ประชาชนมาใช้สิทธิสูงกว่าครั้งที่ผ่านมา หรือการเลือกตั้งตามกำหนดที่ประชาชนจำนวนมากเดินทางกลับไปใช้สิทธิในเขตที่ตนเองมีสิทธิเลือกตั้ง ดังนั้น คะแนนเสียงของประชาชนทุกคะแนนจึงต้องได้รับความเคารพ ไม่ถูกบิดเบือน

2. คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่เพียงแต่ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ หากแต่ยังมีพฤติการณ์ส่อไปในลักษณะไม่โปร่งใสและเที่ยงธรรม ดังกรณีการประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการที่นอกจากจะมีความล่าช้าอย่างมาก ยังมีความขัดแย้งกับการประกาศผลก่อนหน้าหลายประการโดยไม่มีคำชี้แจง โดยเฉพาะกรณีร้อยละของผู้มาลงคะแนนที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่ได้สัดส่วนกับจำนวนบัตรเลือกตั้งที่นับเพิ่มเข้ามา จนทำให้เกิดข้อสงสัยว่าปัจจัยชี้ขาดต่อคะแนนเสียงของพรรคการเมืองและความชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ไม่ได้มาจากคะแนนเสียงของประชาชน หากแต่มาจากการเล่นแร่แปรธาตุหรือ “อภินิหารหีบเลือกตั้ง” ของ กกต.

3. คนส. เรียกร้องให้ กกต. เปิดเผยคะแนนเสียงจากทุกหน่วยเลือกตั้งให้ประชาชน สื่อมวลชน รวมถึงพรรคการเมืองที่มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรง สามารถเข้าถึงและตรวจสอบได้อย่างสะดวกและโดยง่าย ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกลับไปร้องขอดูคะแนนในแต่ละจังหวัด เพราะคะแนนทั้งหมดได้ถูกรายงานและมารวมที่ กกต.กลาง แล้ว โดยเฉพาะการเลือกตั้งครั้งนี้ใช้งบประมาณถึง 5,800 ล้านบาท และเทคโนโลยีด้านข้อมูลข่าวสารก็ก้าวหน้าขึ้นมาก กกต. ยิ่งต้องมีระบบฐานข้อมูลที่สามารถประมวลผลและเผยแพร่ได้ หากไม่มีการเปิดเผยคะแนนก็จะยิ่งตอกย้ำว่า กกต. ปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นกลาง ทำให้ผลการเลือกตั้งขาดความน่าเชื่อถือทั้งในสายตาคนไทยและนานาอารยประเทศ และมีผลต่อการจัดตั้งรัฐบาลโดยตรง

4. หากการเปิดเผยผลคะแนนจากทุกหน่วยเลือกตั้งไม่ตรงกับหลักฐานจากผู้สังเกตการณ์และพยานในการนับคะแนนแต่ละหน่วยจากภาคประชาชน กกต. ควรจัดให้มีการนับคะแนนใหม่อย่างโปร่งใส อำนาจในการนับคะแนนใหม่นี้เป็นอำนาจที่ กกต. สามารถทำได้ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 124 โดยที่การนับคะแนนใหม่เป็นคนละกรณีกับการเลือกตั้งใหม่

5. คนส. ขอเชิญชวนประชาชนแสดงออกเชิงสัญลักษณ์อย่างสันติ เรียกร้องให้มีการเปิดเผยผลการนับคะแนนที่โปร่งใสในรูปแบบต่างๆ เช่น การสื่อสารในสังคมออนไลน์ เราไม่ต้องการให้เกิดความปั่นป่วนวุ่นวายเพื่อเป็นข้ออ้างให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ และส่งผลให้ คสช. อยู่ในอำนาจต่อไป

ท้ายที่สุด คนส. ขอย้ำว่าแม้การเลือกตั้งครั้งนี้เกิดขึ้นภายใต้รัฐธรรมนูญที่เอื้อต่อการสืบทอดอำนาจของ คสช. ไม่ว่าจะเป็น สว. แต่งตั้งที่สามารถมาโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้ หรือ กกต. ที่มาจากการแต่งตั้งของ คสช. แต่ประชาชนคนไทยยังยอมเข้าสู่การเลือกตั้งตามกติกาเช่นนี้เพราะคาดหวังว่าการเลือกตั้งจะเป็นขั้นตอนแรกของการได้อำนาจกลับคืนและพาสังคมไทยกลับสู่สภาวะปกติ คสช. และ กกต. จึงต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชน อย่าทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นเพียงเครื่องมือสร้างความชอบธรรมในการสืบทอดอำนาจของ คสช. ด้วยการจัดการเลือกตั้งที่ไม่โปร่งใสและไม่เที่ยงธรรม ที่มีแต่จะสร้างความร้าวลึกในสังคมไทยยิ่งขึ้นจนยากจะเยียวยา

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net