พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เตรียมบินไปเชียงใหม่อังคารนี้เพื่อตรวจเยี่ยมทีมดับไฟป่า พร้อมประชุมรับทราบรายงาน-แนวทางแก้ไขจากแม่ทัพภาค 3 ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ภาคประชาสังคม และให้กำลังใจกำลังพลพ่นละอองน้ำที่ข่วงประตูท่าแพ โดยจะกลับมาประชุมคณะรัฐมนตรีที่กรุงเทพฯ ต่อช่วงบ่าย

แฟ้มภาพเมื่อครั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ตรวจราชการที่ จ.แพร่ เมื่อ 16 มีนาคม 2562 ล่าสุดวันที่ 2 เมษายนนี้เตรียมบินมา จ.เชียงใหม่ เพื่อตรวจราชการและแก้ไขปัญหาหมอกควันภาคเหนือ (ที่มา: แฟ้มภาพ/เว็บไซต์รัฐบาลไทย)

1 เม.ย. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานข่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เดินทางตรวจราชการที่ จ.เชียงใหม่ ช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ (2 เม.ย.) เพื่อแก้ไขปัญหาหมอกควันภาคเหนือ มีรายละเอียดของร่างกำหนดการเบื้องต้นดังนี้

เวลา 07.00 น. เดินทางออกจากท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 ดอนเมือง
เวลา 08.00 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41 จ.เชียงใหม่
เวลา 08.30 น. ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41 จ.เชียงใหม่ ไปยังสนามเฮลิคอปเตอร์ มทบ.33 ค่ายกาวิละ โดยขบวนรถยนต์ (ระยะทาง 6 กม. / ใช้เวลาประมาณ 15 นาที)
เวลา 08.45 น. เดินทางถึงสนามเฮลิคอปเตอร์ มทบ.33 ค่ายกาวิละ
ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจแก่กำลังพลผู้ปฏิบัติหน้าที่ พร้อมมอบสิ่งของสนับสนุนการปฏิบัติงาน ดังนี้ - เครื่องมือดับไฟป่า - หน้ากากอนามัย - อาหาร/น้ำดื่ม - อุปกรณ์อื่นๆ ที่จำเป็น
เวลา 09.15 น. ออกเดินทางจากสนามเฮลิคอปเตอร์ มทบ.33 ค่ายกาวิละ ไปยังห้องประชุมอาคารเอนกประสงค์ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ โดยขบวนรถยนต์
เวลา 09.30 น. นายกรัฐมนตรีเดินทางถึงห้องประชุมอาคารเอนกประสงค์ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ
- รายงานสถานการณ์และการดำเนินงานแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า ในภารกิจของกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์หมอกควัน กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า โดยแม่ทัพภาค 3
- รายงานสถานการณ์และการดำเนินงานแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่
- เสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า โดยองค์กรประชาชนและสถาบันการศึกษา 3 ท่าน
เวลา 11.00 น. ออกเดินทางจากห้องประชุมอาคารเอนกประสงค์ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ ไปยังวัดบุพพาราม อำเภอเมืองเชียงใหม่ โดยขบวนรถยนต์
ตรวจเยี่ยมแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ณ วัดบุพพาราม อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
เวลา 11.20 น. นายกรัฐมนตรี ออกเดินทางจากวัดบุพพาราม อำเภอเมืองเชียงใหม่ ไปยังข่วงประตูท่าแพ โดยขบวนรถยนต์
ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจแก่กำลังพลผู้ปฏิบัติหน้าที่พ่นละอองน้ำและเพิ่มความชุ่มชื้น ณ ข่วงประตูท่าแพ
เวลา 11.30 น. ออกเดินทางจากข่วงประตูท่าแพ ไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41 จ.เชียงใหม่ โดยขบวนรถยนต์
เวลา 11.45 น. ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41 จังหวัดเชียงใหม่ ไปยังท่าอากาศยาน 2 กองบิน 6 ดอนเมือง กรุงเทพฯ

ยังประชุม ครม. ตามปกติในช่วงบ่าย

อนึ่งในรายงานของวอยซ์ออนไลน์ พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. จะนำคณะเดินทางโดยเครื่องบินออกจากกรุงเทพฯ ในวันที่ 2 เม.ย. 2562 เวลาประมาณ 07.00 น. ไปยังจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อร่วมประชุมติดตามสถานการณ์และการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งนี้ การประชุมดังกล่าว ทางจังหวัดเชียงใหม่เป็นเจ้าภาพจัดขึ้น ขณะที่การประชุมคณะรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 2 เม.ย. ยังคงเป็นไปตามปกติ แต่จะเลื่อนจากเดิมเริ่มประชุม 09.00 น. เป็น 14.00 น.

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 30 มี.ค. เวลา 14.45 น. ในเฟซบุ๊คของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีการโพสต์แนวนโยบายแก้ไขปัญหาฝุ่นควันที่เชียงใหม่ว่า

"เรื่องปัญหาฝุ่นที่เชียงใหม่ ผมได้สั่งการให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย และ จ.เชียงใหม่ รวมถึงจังหวัดที่วิกฤตอื่น ๆ ไปพิจารณาหาแนวทางยกระดับการแก้ไขปัญหาร่วมกันโดยด่วน ส่วนประชาชนก็จะต้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ด้วย

ส่วนสาเหตุสำคัญของปัญหา หมอกควันและฝุ่นในภาคเหนือมาจากไฟป่า ซึ่งเกิดขึ้นได้เองทุกปีตามธรรมชาติเนื่องจากอากาศแห้ง รวมทั้งเกิดจากการเผาวัชพืชของประชาชน โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ทำงานกันอย่างหนัก มีการแจ้งเตือน การบังคับใช้กฎหมาย และการลดปริมาณฝุ่นและหมอกควัน ซึ่งทราบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการเข้าไปร่วมดับไฟด้วย

สำหรับมาตรการที่ จ.เชียงใหม่ดำเนินการอยู่ในขณะนี้คือ การควบคุมไฟป่าซึ่งมีพื้นที่กว้างอย่างต่อเนื่อง การฉีดพ่นละอองน้ำรอบคูเมืองเชียงใหม่ และกระจายออกสู่ถนนวงแหวนรอบนอก การจัดพื้นที่เซฟตี้โซน ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติฯ และในทุกอำเภอ เพื่อให้ประชาชนใช้พักผ่อน หลีกเลี่ยงปัญหาฝุ่นจากภายนอก เป็นต้น"