เร่งควบคุมไฟป่าดอยหลวงเชียงดาว หลังไหม้มากกว่าสัปดาห์

ระดมกำลังควบคุมไฟป่าหลังไหม้ดอยหลวงเชียงดาว 1 สัปดาห์ เสียหาย 400 ไร่ ผญบ.บ้านบ้านถ้ำเผยปีนี้ร้อนแล้ง ฝนทิ้งช่วงจึงควบคุมไฟป่าได้ยาก หลังจากนี้ต้องเฝ้าระวังอีก 1-2 เดือนจนกว่าจะเข้าฤดูฝน พร้อมเสริมแนวกันไฟพื้นที่เสี่ยง ขณะที่ดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) ที่เชียงดาวยังเกิน 200 อยู่ในระดับอันตรายต่อสุขภาพ

ที่มาของภาพ: Facebook/ม่วนใจ๋ l กลุ่มเกษตรอินทรีย์วิถีธรรมชาติเชียงดาว

 

2 เม.ย. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ไฟป่าที่ดอยหลวงเชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ซึ่งลุกลามกินเวลามากว่า 1 สัปดาห์ สภาพป่าเสียหายเป็นวงกว้างกว่า 400 ไร่ พบซากสัตว์ป่าเสียชีวิตเป็นลูกลิง 1 ตัวเสียชีวิตที่แนวกันไฟ ล่าสุดผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์ทีมดับไฟป่าที่บ้านถ้ำ หมู่ 5 ต.เชียงดาว อ.เมืองดาว จ.เชียงใหม่ ที่พยายามควบคุมพื้นที่เกิดไฟป่า โดยคำรณ อินต๊ะ ผู้ใหญ่บ้าน บ้านถ้ำ ระบุถึงสาเหตุความยากลำบากในการควบคุมไฟป่าว่า เนื่องจากสภาพอากาศปีนี้ร้อนมาก ร้อนอบอ้าว แห้งแล้ง ไม่มีฝนตกเลย ประกอบกับมีใบไม้แห้งทับถมเยอะ ทำให้เกิดไฟป่าง่าย โดยเขามีข้อสังเกตว่าไฟป่าเกิดจากด้านบนของดอยหลวงเชียงดาว ซึ่งปกติก็เกิดทุกปี แต่ปีนี้สถานการณ์ไฟป่าลุกลามหนักเพราะไม่มีฝนตกเลย

ส่วนกลุ่มที่มาช่วยดับไฟป่ามีประมาณ 350 คน ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เจ้าหน้าที่ดับไฟป่า ทหาร และชาวบ้าน ผลัดเวรกันดับทั้งวันทั้งคืน อยู่ในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง

สำหรับอุปสรรคในการดับไฟป่า ผู้ใหญ่บ้านถ้ำกล่าวว่า ไฟไหม้มากว่า 1 อาทิตย์ แต่เพิ่งมาควบคุมสถานการณ์ได้ในไม่กี่วันมานี้ เนื่องจากดอยหลวงเชียงดาวสูงมาก ต้องใช้เวลาในการเดินทางขึ้นไปบนยอดเพื่อดับเพลิง บางพื้นที่เป็นหน้าผาสูงชัน มีกิ่งไม้แห้งซึ่งอาจติดไฟ เป็นอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ มีการใช้เฮลิคอปเตอร์แต่ไม่สามารถเข้าไปยังจุดต้นเพลิงได้ เพราะทัศนวิสัยมองเห็นประมาณ 1 ไมล์ จำเป็นต้องนำเครื่องกลับไปลงจอด

คำรณกล่าวว่าหลังจากนี้มีอีกหลายพื้นที่ที่ยังต้องเฝ้าระวัง เพราะพื้นที่เสี่ยงเกิดประกายไฟ ต้องเฝ้าระวังกันอีกในระยะยาวจนกว่าจะถึงฤดูฝน คืออีกประมาณ 1-2 เดือน และมาตราการนอกเหนือจากนี้คือการแนวกันไฟในหลายพื้นที่ที่มีความเสี่ยง

“ทุกหน่วยงานในพื้นที่ ชาวบ้านก็มาช่วยกันหมด เล็งเห็นความสำคัญของปัญหานี้ ส่วนเครื่องดื่มและชุดอุปกรณ์ดับไฟขณะนี้มีผู้นำมาสมทบเป็นจำนวนมากพอสมควร แต่หลังจากนี้ก็ยังต้องเฝ้าระวังกันต่อในระยะยาว” คำรณกล่าว

 

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าข้อมูลจากเว็บไซต์ศูนย์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (ccdc) ระบุว่า ในตำแหน่งที่ Café My Day Off เชียงดาว อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ อัพเดตเมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ มีค่า PM 2.5 อยู่ที่ 91.85 ug/m3 และค่า AQI อยู่ที่ 202 ซึ่งอยู่ในระดับอันตรายต่อสุขภาพ

 

อนึ่ง ไทยรัฐออนไลน์ รายงานคำให้สัมภาษณ์ของอิสระ ศิริไสยาสน์ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่าสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 จ.เชียงใหม่ ที่เปิดเผยว่า ช่วง 21.00 น. คืนที่ผ่านมา (1 เม.ย.) เกิดเพลิงไหม้ป่าที่บริเวณม่อนพระจันทร์ทรงกลด ด้านหลังถ้ำหลวงเชียงดาวอีกครั้ง เพลิงได้โหมลุกไหม้เป็นวงกว้าง ทางเจ้าหน้าที่และชาวบ้านต้องเร่งทำแนวกันไฟเพื่อไม่ให้ไฟป่าลุกลามเข้ามายังหมู่บ้าน จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังพร้อมด้วยจิตอาสาชาวบ้านเข้าร่วมกันดับ ใช้เวลาถึงเกือบเที่ยงคืนจนคุมเพลิงไว้ได้

ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 ยังกล่าวอีกว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงขนาดนี้ หลังจากที่ไฟได้ไหม้ป่าดอยหลวงเชียงดาวมาตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา จนเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้เมื่อวันที่ 1 เมษายน พบว่าพื้นที่ป่าเสียหายไปแล้วจำนวน 400 ไร่ ไฟป่าได้เผาต้นไม้และธัญพืชซึ่งเป็นอาหารของสัตว์ป่าเสียหายเป็นจำนวนมาก สัตว์ป่าจำนวนหนึ่งต้องหนีตายขึ้นไปอยู่บริเวณอ่างสลุง ใกล้กับยอดดอยหลวง โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำแนวกันไฟรอบๆ เอาไว้เพื่อให้สัตว์ป่าได้อยู่อาศัยเป็นที่ปลอดภัย

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท