Skip to main content
sharethis

อดีต กรธ. ชี้ สูตรคำนวนปาร์ตี้ลิสต์กำหนดมาก่อนหน้าแล้ว ชี้มาตรา 128 บรรทัดสุดท้ายระบุให้ การดำเนินการเป็นไปตามที่ กกต. กำหนด ตอบกรณี 12 พรรคเล็กได้พรรคละ 1 ที่นั่ง ถูกต้องแล้วและเป็นเรื่องที่กำหนดชัดไว้แต่แรก เพราะเจตนาของการร่างกฎหมายต้องการให้ทุกเสียงมีความหมาย

ประพันธ์ นัยโกวิท อดีตกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) แฟ้มภาพเว็บไซต์คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ

3 เม.ย. 2562 สืบเนื่องจากข้อถกเถียงเรื่องการคิดคำนวณจำนวน ส.ส. ในระบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งพบว่าหลายสำนักข่าวมีการคิดคำนวณที่แตกต่างกันโดยสูตรแรกมีการคำนวณได้ผลออกมาว่ามีพรรคการเมืองที่ได้คะแนนต่ำว่าตัวเลขที่เกิดจากจำนวนบัตรดีทั้งหมด หารด้วยจำนวน ส.ส. ทั้งหมดในสภา ก็สามารถมีที่นั่ง ส.ส. ในระบบบัญชีรายชื่อได้ ส่วนสูตรที่สองซึ่ง ซึ่งสำนักข่าวประชาไท สำนักข่าวผู้จัดการออนไลน์ ได้ตีความตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ได้ผลตรงกันว่าพรรคการเมืองที่ได้คะแนเสียงต่ำกว่าตัวเลขที่เกิดจากจำนวนบัตรดีทั้งหมด หารด้วยจำนวน ส.สทั้งหมดในสภาไม่สามารถมีที่นั่งในสภาได้ นอกจากนี้ยังมีสูตรการคำนวณโดยการตีความของอดีต กกต. สมชัย ศรีสุทธิยากร ซึ่งมีความใกล้เคียงกันกับสูตรที่สองคือ พรรคที่ได้คะแนนต่ำกว่าตัวเลขที่เกิดจากจำนวนบัตรดีทั้งหมด หารด้วยจำนวน ส.ส. ทั้งหมดในสภา

ตารางการคำนวนที่นั่ง ส.ส. แบบที่สื่อหลักนำเสนอ 

ตารางการคำนวนที่นั่ง ส.ส. แบบที่ประชาไทนำเสนอ

ตารางการคำนวนที่นั่ง ส.ส. แบบที่ สมชัย ศรีสุทธิยากร นำเสนอ

คำถามทั้งหมดเกียวกับการคำนวณที่นั่ง ส.ส. จึงพุ่งตรงไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยเมื่อวานนี้ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. เผยว่า เวลานี้ กกต. ยังไม่มีมติเรื่องการคำนวณที่นั่ง ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อ และเห็นว่าจำเป็นต้องเชิญกรรมการร่างรัฐธรรมนูญมาให้ความเห็น และรับฟังความเห็นจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ

เปิดวิธีการคำนวณที่นั่ง ส.ส. อิง พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 128

สมชัยชี้ กรธ. ถูกยุบแล้วให้สูตรคำนวณ ส.ส. ไม่ได้ ย้ำพรรคต่ำกว่า 71,065 ไม่มีที่นั่ง

ล่าสุดวันนี้ สำนักข่าวไทย รายงานว่า ประพันธ์ นัยโกวิท อดีตกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมหารือคณะกรรมการที่ปรึกษากฎหมายของ กกต. ต่อกรณีการคำนวณสูตรส.ส.บัญชีรายชื่อว่า อำนาจการคำนวณ ส.ส. เป็นอำนาจหน้าที่ของกกต. ซึ่งใน พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 128 วรรคท้าย ให้ กกต. เป็นผู้ดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด

เมื่อถามย้ำว่า ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญการคิดคำนวณบัญชีรายชื่อทุกคะแนนเสียงมีความหมายหรือไม่ ประพันธ์ กล่าวว่า หลักคิดของรัฐธรรมนูญฉบับนี้มุ่งให้ทุกคะแนนที่ประชาชนออกเสียงมีความหมาย ไม่ถูกทิ้งเสียเปล่า เพื่อสะท้อนสิ่งที่ประชาชนคิดและวิธีการคิด ส.ส. บัญชีรายชื่อ ตารางการคิดไม่ได้เพิ่งคิดในขณะนี้ แต่เสนอมาตั้งแต่ในชั้นของ กกต. ชุดที่ผ่านมาที่เสนอให้ กรธ. และเสนอต่อไปที่คณะกรรมาธิการร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งในชั้นของกรรมาธิการยกร่างฯ กฎหมายลูกได้นำตารางการคำนวณ ส.ส. บัญชีรายชื่อมาพิจารณาและยกร่างเป็นกฎหมาย ดังนั้น ตารางการคิดคำนวณ ส.ส. มีอยู่ที่รัฐสภา ไม่ได้เป็นความลับ สามารถขอได้

“ในการหารือ ผมได้ชี้แจงถึงที่มาที่ไปของการคิดคำนวณว่าเป็นมาอย่างไร ได้เรียนว่ามีอยู่แล้วในร่างเดิม เสนอมาจากสำนักงาน กกต. เอง และก็มีการพิจารณาใน กรธ. ร่างที่เสนอ สนช. ก็มีการเสนอไป และมีการปรับปรุง ในวาระของคณะกรรมาธิการฯ ก่อนที่จะออกมาเป็นกฎหมาย” ประพันธ์ กล่าว

เมื่อถามว่ากรรมการยกร่างฯ ตั้งสมมติฐานว่าจะมีพรรคการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้งส.ส.ในระบบเขตมากกว่าจำนวนส.ส.พึงมีหรือไม่ ประพันธ์ กล่าวว่า พิจารณาทุกประเด็น ถ้ากรณีไม่มีโอเวอร์แฮงค์จะทำอย่างไร หรือมีโอเวอร์แฮงค์จะคิดคำนวณอย่างไร รวมทั้งพิจารณาไปถึงว่าถ้าต้องประกาศ ส.ส.ร้อยละ 95 เพื่อให้เปิดประชุมสภาได้ การคิดคำนวณ ส.ส. บัญชีรายชื่อจะคิดอย่างไร ซึ่งก็เขียนออกมาเป็นมาตรา 128 และ 129 ของ พ.ร.ป.ส.ส. ซึ่งรายละเอียดของตารางการคำนวณอยู่ที่รัฐสภาและเปิดเผยได้ ซึ่งคณะกรรมาธิการฯพิจารณากฎหมายส.ส.ก็ดูตามตารางนั้น และเป็นอำนาจหน้าที่ของ กกต. ที่จะเป็นผู้คำนวณเพื่อประกาศ ส.ส. บัญชีรายชื่อ

เมื่อถามย้ำว่าเหตุใดกฎหมายเปิดช่องให้กกต.ทำสูตรภายหลัง ทำไมไม่กำหนดไปเลยว่าสูตรไหนถูกต้อง ประพันธ์ กล่าวว่าไม่ใช่ ตารางการคำนวณมีอยู่หมดแล้วว่าการคำนวนส.ส.ทำอย่างไร แต่มาตรา 128 เขียนว่าให้ กกต. เป็นผู้คิด หมายความว่า กกต. ต้องไปดูสูตรแล้วคิดออกมาว่าจะออกมาอย่างไร

ส่วนกรณีพรรคการเมืองที่ได้รับเลือกตั้ง ส.ส.เขตไม่ยอมรับสูตรนี้ ประพันธ์ กล่าวว่า ในการยกร่างฯ มีสูตรและวิธีการคำนวณอยู่ก่อนแล้ว และมีสูตรเดียว กรณี 12 พรรคเล็กที่ไม่ควรได้ส.ส.พึงมี แต่กลับได้ ส.ส. เรื่องดังกล่าวอยู่ในสูตร กธร. และมีมานานแล้ว

มาตรา 128 ในกรณีที่มีการประกาศผลการเลือกตั้งครบทุกเขตเลือกตั้งแล้ว การคํานวณหา จํานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ จะพึงได้รับ ให้คํานวณตามวิธีการดังต่อไปนี้ โดยในกรณีที่มีเศษให้ใช้ทศนิยมสี่ตําแหน่ง

(1) นําคะแนนรวมทั้งประเทศที่พรรคการเมืองทุกพรรคที่ส่งผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อได้รับ จากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งหารด้วยห้าร้อยอันเป็นจํานวนสมาชิกทั้งหมดของสภาผู้แทนราษฎร

(2) นําผลลัพธ์ตาม (1) ไปหารจํานวนคะแนนรวมทั้งประเทศของพรรคการเมืองแต่ละพรรค ที่ได้รับจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งทุกเขต จํานวนที่ได้รับให้ถือเป็นจํานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่พรรคการเมืองนั้นจะพึงมีได้เบื้องต้น และเมื่อได้คํานวณตาม (5) (6) หรือ (7) ถ้ามีแล้ว จึงให้ถือว่า เป็นจํานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่พรรคการเมืองนั้นจะพึงมีได้

(3) นําจํานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่พรรคการเมืองจะพึงมีได้ตาม (2) ลบด้วยจํานวน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งทั้งหมดที่พรรคการเมืองนั้นได้รับเลือกตั้งในทุกเขตเลือกตั้ง ผลลัพธ์คือจํานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองนั้นจะได้รับเบื้องต้น

(4) ภายใต้บังคับ (5) ให้จัดสรรจํานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมือง จะได้รับให้ครบหนึ่งร้อยห้าสิบคน โดยจัดสรรให้พรรคการเมืองตามผลลัพธ์ตาม (3) เป็นจํานวนเต็มก่อน หากยังไม่ครบจํานวนหนึ่งร้อยห้าสิบคน ให้พรรคการเมืองที่มีเศษจากการคํานวณมากที่สุดได้รับการจัดสรร จํานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อเพิ่มอีกหนึ่งคนตามลําดับจนครบจํานวนหนึ่งร้อยห้าสิบคน ในกรณีมีเศษเท่ากัน ให้ดําเนินการตาม (6)

(5) ถ้าพรรคการเมืองใดมีผู้ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เท่ากับหรือสูงกว่าจํานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่พรรคการเมืองนั้นจะพึงมีได้ตาม (2) ให้พรรคการเมืองนั้น มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามจํานวนที่ได้รับจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และไม่มีสิทธิได้รับ การจัดสรรสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ และให้นําจํานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อทั้งหมดไปจัดสรรให้แก่พรรคการเมืองที่มีจํานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ต่ำกว่าจํานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่พรรคการเมืองนั้นจะพึงมีได้ตาม (2) ตามอัตราส่วน แต่ต้อง ไม่มีผลให้พรรคการเมืองใดดังกล่าวมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเกินจํานวนที่จะพึงมีได้ตาม (2)

(6) ในการจัดสรรตาม (5) แล้วปรากฏว่ายังจัดสรรจํานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ไม่ครบหนึ่งร้อยห้าสิบคน ให้พรรคการเมืองที่มีเศษจากการคํานวณมากที่สุดได้รับการจัดสรรจํานวนสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อเพิ่มอีกหนึ่งคนตามลําดับจนครบจํานวนหนึ่งร้อยห้าสิบคน กรณีที่เศษที่เหลือ ของแต่ละพรรคการเมืองเท่ากันจนทําให้ไม่สามารถจัดสรรสมาชิกสภาผ้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อได้ครบจํานวน หนึ่งร้อยห้าสิบคน ให้นําค่าเฉลี่ยคะแนนของแต่ละพรรคการเมืองต่อจํานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่พึงมีหนึ่งคนมาพิจารณา โดยหากพรรคการเมืองใดมีค่าเฉลี่ยคะแนนของพรรคการเมืองต่อจํานวน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่พึงมีหนึ่งคนมากกว่าพรรคการเมืองอื่น ให้พรรคการเมืองนั้นมีสิทธิได้รับ การจัดสรรสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อเพิ่มอีกหนึ่งคน และหากยังมีจํานวนค่าเฉลี่ยดังกล่าว เท่ากันอีก ให้ใช้วิธีจับสลาก

(7) ในกรณีที่เมื่อคํานวณตาม (5) แล้วปรากฏว่าพรรคการเมืองทุกพรรคได้รับจํานวน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อรวมกันแล้วเกินหนึ่งร้อยห้าสิบคน ให้ดําเนินการคํานวณปรับจํานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อใหม่โดยคํานวณตามอัตราส่วนที่ทุกพรรคจะได้รับการจัดสรร จํานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อซึ่งเมื่อรวมแล้วไม่เกินหนึ่งร้อยห้าสิบคน โดยให้นําจํานวน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อที่แต่ละพรรคการเมืองจะได้รับคูณด้วยหนึ่งร้อยห้าสิบ หารด้วยผลบวกของหนึ่งร้อยห้าสิบกับจํานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อที่เกินจํานวนหนึ่งร้อยห้าสิบ และให้นํา (4) มาใช้ในการคํานวณด้วยโดยอนุโลม

(8) เมื่อได้จํานวนผู้ได้รับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคการเมืองแล้ว ให้ผู้สมัคร ตามลําดับหมายเลขในบัญชีรายชื่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองนั้น เป็นผู้ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในกรณีที่ผู้สมัครแบบแบ่งเขตเลือกตั้งตายภายหลังวันปิดรับสมัครรับเลือกตั้งแต่ก่อนเวลาปิด การลงคะแนนในวันเลือกตั้ง ให้นําคะแนนที่มีผู้ลงคะแนนให้ มาคํานวณตาม (1) และ (2) ด้วย

ทั้งนี้ การดําเนินการตาม (1) ถึง (8) ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการกําหนด

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net