แอมเนสตี้ฯ จี้บรูไนต้องยุติแผนการลงโทษด้วยการปาหินและวิธีการที่โหดร้ายอย่างอื่น

สำนักงานเลขาธิการใหญ่ แอมเนสตี้ฯ แถลงจี้บรูไนยุติการใช้กฎหมายชารีอะฮ์ลงโทษที่โหดร้าย เช่น การปาหินจนเสียชีวิตกรณีมีเพศสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกัน และการตัดอวัยวะกรณีลักทรัพย์

4 เม.ย.2562 แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย รายงานว่า สำนักงานเลขาธิการใหญ่ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ณ กรุงลอนดอน แถลงในกรณีที่ประเทศบรูไน ดารุสซาลาม ได้ดำเนินการขั้นตอนสุดท้ายเพื่อประกาศใช้ประมวลกฎหมายอาญาชารีอะฮ์ฉบับใหม่ ซึ่งกำหนดบทลงโทษที่โหดร้าย เช่น การปาหินจนเสียชีวิตกรณีมีเพศสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกัน และการตัดอวัยวะกรณีลักทรัพย์ โดย สตีเฟน คอคเบิร์น รองผู้อำนวยการประเด็นปัญหาระดับโลก แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลกล่าวดังนี้  

“เรากังวลอย่างยิ่งว่าการลงโทษที่ทารุณโหดร้ายเช่นนี้ ได้ผ่านเป็นกฎหมายในบรูไน"

“ประมวลกฎหมายอาญาฉบับใหม่อนุญาตให้มีการใช้บทลงโทษ รวมทั้งการตัดอวัยวะหรือการปาหินจนเสียชีวิต ซึ่งถือว่ามีความทารุณโหดร้ายอย่างสุดประมาณ และไม่เหมาะสมต่อสถานการณ์ใด ๆ ในโลก"

“เป็นเรื่องน่าตกใจที่มีกฎหมายเอาผิดทางอาญากับพฤติการณ์ ซึ่งไม่ควรถือเป็นความผิดอาญาเลย ประชาคมระหว่างประเทศต้องประณามการตัดสินใจของบรูไนที่จะนำบทลงโทษที่ทารุณโหดร้ายเหล่านี้มาใช้ต่อไป"

“ทางการบรูไนต้องงดเว้นจากการบังคับใช้กฎหมายเหล่านี้ และต้องดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพื่อยกเลิกกฎหมายซึ่งไม่อาจยอมรับได้ และแก้ไขให้มีเนื้อหาสอดคล้องกับกฎหมายและมาตรฐานสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ”  รองผู้อำนวยการประเด็นปัญหาระดับโลก แอมเนสตี้ฯ พร้อมระบุว่า บทลงโทษเหล่านี้เป็นไปตามการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาชารีอะฮ์ของบรูไน ซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันที่ 3 เม.ย. ที่ผ่านมา 

ข้อมูลพื้นฐาน 

บรูไน ดารุสซาลามลงนาม แต่ยังไม่ได้ให้สัตยาบันรับรองอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษอื่น ๆ ที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี (Convention Against Torture and other Cruel, Inhuman or Degrading Treatment or Punishment) และที่ผ่านมาได้ปฏิเสธข้อเสนอแนะในประเด็นนี้ ในระหว่างการทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชนขององค์การสหประชาชาติเมื่อปี 2557  

ตามกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ การลงโทษทางกายในทุกรูปแบบ ทั้งการปาหิน การตัดอวัยวะ หรือการเฆี่ยนตี ถือเป็นการทรมานหรือการลงโทษที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรี ซึ่งเป็นข้อห้ามในทุกกรณี   

แม้ว่าบรูไนมีโทษประหารในกฎหมาย แต่ไม่ได้บังคับใช้ในทางปฏิบัติ เมื่อปี 2560 มีการกำหนดโทษประหารอีกครั้ง ในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด   

ประมวลกฎหมายอาญาชารีอะฮ์ (Shariah Penal Code – SPC) ของบรูไน ไม่ได้เป็นการประกาศใช้แทนกฎหมายแพ่ง แต่คาดว่าจะนำมาใช้คู่กัน จากข้อมูลที่มีอยู่คาดว่า ต้องมีการใช้ดุลพินิจเพื่อวินิจฉัยว่า คดีใดจะถูกฟ้องตามกฎหมายแพ่งหรือกฎหมายชารีอะฮ์ 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท