มธ. จัดงานรำลึก ศ.สัญญา ธรรมศักดิ์ เปิดเวทีเสวนา "อนาคตการเมืองไทยหลังเลือกตั้ง"  ผศ.ปริญญา  เทวานฤมิตรกุล เชื่อสังคมไทยยังไม่ถึงทางตัน แต่กกต.ต้องเที่ยงธรรม ชี้เสียงคนรุ่นใหม่สร้าง ‘Smart Democracy’ ด้าน ศ.สุรชาติ บำรุงสุข ห่วงเลือกนายกรัฐมนตรีไม่ทันการทำหน้าที่ประธานอาเซียน เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้าแนะรัฐบาลใหม่เร่งแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและความยุติธรรม

5 เม.ย. 2562 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) จัดงาน “วันสัญญา ธรรมศักดิ์ ประจำปี 2562” โดยช่วงเช้ามีพิธีวางพานพุ่มเพื่อรำลึกถึงเกียรติคุณศาสตราจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์  อดีตประธานองคมนตรี อดีตนายกรัฐมนตรี อดีตประธานศาลฏีกา และอดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  ณ ลานอนุสาวรีย์ ศ.สัญญา ธรรมศักดิ์ มธ.ศูนย์รังสิต โดยมี รศ.เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมผู้นำองค์กรภาครัฐ เอกชนและสถาบันต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก 

ในปีนี้ ผู้ที่ได้รับรางวัลนักศึกษากฎหมายดีเด่นได้แก่ น.ส.กนกรัตน์ ธรรมพนิชวัฒน์  เกียรตินิยมอันดับ 1  จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนักศึกษาที่ได้รับเกียรติบัตร ได้แก่ น.ส.ปิยากร เลี่ยนกัตวา  จากคณะนิติศาสตร์ มธ.  และนายปารเมศ เทพรักษ์ จากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง  พร้อมด้วยรางวัลเรียนดี “ธรรมศาสตราจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์”  ได้แก่ พชร วัฒนสกลพันธุ์  ได้คะแนนสูงสุด 87.93 %  นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยมี ศาสตราจารย์พิเศษ อรรถนิติ ดิษฐอำนาจ องคมนตรี เป็นประธานในพิธี

ในงานยังได้จัดเวทีเสวนาพิเศษ “อนาคตการเมืองไทยหลังเลือกตั้ง” ณ ห้อง SC 3005 ชั้น 3 อาคารเรียนรวมกลุ่มสังคมศาสตร์ โดย ผศ.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายความยั่งยืนและบริหารศูนย์รังสิต มองว่าการเมืองไทยในขณะนี้ยังไม่ถึงทางตัน แต่ทุกคนควรเดินหน้าตามกติการะบอบประชาธิปไตย เคารพใน 1 สิทธิ 1 เสียงเท่ากัน โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนมากออกมาลงคะแนนอย่างเสรี เรียกว่าเป็นยุค Smart Democracy อย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตาม ปริญญาแสดงความเป็นห่วงวิธีการคำนวณผลคะแนนจากการเลือกตั้ง เพราะมีผลต่อการจัดตั้งรัฐบาลแต่ละฝ่าย ดังนั้น แนวทางของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จึงต้องมีความเที่ยงธรรม ไม่เลือกเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง  

ศ.สุรชาติ บำรุงสุข อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มองว่าอนาคตการเมืองไทยยังคงมีปัญหาเสถียรภาพและความไม่แน่นอน ภาวะสุญญากาศที่ยืดเยื้อไปถึงเดือน มิ.ย. 2562 จะไม่เป็นผลดีต่อการเป็นประธานการประชุมอาเซียน และตัวแทนประชุม G20 ซึ่งนานาชาติต้องการเห็นผู้นำไทยที่ไม่ได้มาจากการรัฐประหาร

“ทุกคนไม่อยากเห็นการเมืองย้อนอดีตเหมือนเหตุการณ์ 6 ต.ค. 2519 และ พ.ค. 2535 จึงอยากให้มองการเมืองด้วยความหวัง อดทนและมีอนาคตเสมอ เพราะขณะนี้เราเห็นด้านบวกคือความตื่นตัวของคนรุ่นใหม่และคนในชนบท ส่วนใหญ่ก้าวข้ามปัญหาสีเสื้อแล้ว ถึงเวลาที่ควรก้าวไปข้างหน้าร่วมกัน”

ศ.วุฒิสาร ตันไชย เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้ากล่าวว่า สิ่งที่เป็นห่วงขณะนี้คือภาวะวิกฤตของคำว่า “ถูกกติกาแต่ไม่ชอบธรรม” หลักนิติรัฐ นิติธรรมอาจถูกกัดกร่อนจนมีผลเสียระยะยาวจากปัญหาต่างๆ จึงอยากเห็นทุกคนเคารพกติกา ไม่ว่าฝ่ายใดเป็นรัฐบาลแล้วต้องให้สิทธิเสรีภาพประชาชน ปล่อยกลไกตรวจสอบทำงาน และทบทวนว่าระบบบัตรลงคะแนนใบเดียวมีความเหมาะสมหรือไม่

“สังคมไทยต้องมีความหวัง มีอนาคตร่วมกันว่าการเลือกตั้งคือทางออกของประเทศ เมื่อตั้งรัฐบาลได้แล้วสุดท้ายปลายทางคือต้องแก้ไขโครงสร้างเศรษฐกิจสังคมและกระบวนการยุติธรรมที่ยังมีความเหลื่อมล้ำ” วุฒิสารกล่าว