Skip to main content
sharethis


ที่มาภาพ: @RahulGandhi

ในการเลือกตั้งทั่วไปของอินเดียที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย. - 19 พ.ค. ที่จะถึงนี้ มีการวิเคราะห์จากสื่ออัลจาซีราในเรื่องการหาเสียงของนเรนทรา โมดี ที่ยังอาศัยการใช้คำขวัญที่ฟังดูหรูและการรณรงค์หาเสียงผ่านโซเชียลมีเดียแบบไวรัล จากที่เคยประสบความสำเร็จพาพรรคการเมืองภารตียชนตา (BJP) ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อ 5 ปีที่แล้ว แต่ทว่าในครั้งนี้พวกเขาจะใช้วิธีแบบเดียวกันสร้างความนิยมได้หรือไม่เมื่อมีคนมอองว่ารัฐบาลอินเดียเบี่ยงเบนความสนใจจากปัญหาสังคม-เศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจริง นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่นำเงินโฆษณาประชาสัมพันธ์จากภาษีประชาชนไปใช้อย่างฟุ่มเฟือย

ในอินเดียมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งมากกว่า 900 ล้านราย ซึ่งกำลังจะต้องไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนฯ 543 ที่นั่ง เริ่มต้นในวันที่ 11 เม.ย. นี้ และในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้เอง โมดี ผู้มาจากพรรคการเมืองชาตินิยมฮินดูยังคงเรียกความนิยมตนเองด้วยการเป็นแชมป์แฮชแท็กในโซเชียลมีเดีย โดยในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดนี้เขาใช้วลีเด็ดที่ระบุว่า "ข้าพเจ้าเองก็เป็นยาม" (Main bhi chowkidar) 

การหาเสียงด้วยวลีดังกล่าวเป็นการโต้ตอบคำขวัญของหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน ราฮูล คานธี ที่ออกมาก่อนหน้านี้ในช่วงต้นปีว่า "ยามเป็นโจร" (Chowkidar chor hai) ซึ่งเป็นการพยายามโจมตีเรื่องที่โมดีมีบทบาทในเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการโกงการซื้อเครื่องบินเจ็ทราฟาเอลจากบริษัทของฝรั่งเศสมูลค่าเกือบ 9,000 ดอลลาร์ อัลจาซีราระบุว่าการรณรงค์เชิงตอบโต้อย่างรวดเร็วนี้เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าพรรค BJP มักจะมีความชำนาญในการแก้เกมการโจมตีจากฝ่ายตรงข้ามเสมอ

ทั้งนี้ แคมเปญโต้ตอบของโมดีก็มีการนำเสนอในหลายรูปแบบมาก ไม่ว่าจะมาจากการแต่งเพลง หนังสั้น 4 เรื่อง เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ การเดินขบวน เสื้อยืด หมวก เหรียญตรา แฮชแท็ก #MainBhiChowkidar รวมถึงการปราศรัยทางวิดีโอคอลกับผู้สนับสนุนแบบที่โมดีชอบทำ อีกวิธีการหนึ่งที่พวกเขาใช้คือการโฆษณาผ่านคอนเวอร์เซชั่นการ์ดของทวิตเตอร์ และการที่โมดีเปลี่ยนชื่อโปรไฟล์ของเขาโดยเพิ่มคำนำหน้าชื่อว่า "ยาม" ลงไปด้วย

โมดีระบุถึงความเป็นยามที่ว่านี้ไว้ในข้อความทวิตเตอร์ว่า "ยามของคุณกำลังยืนหยักหนักแน่นและรับใช้ประเทศชาติ แต่ผมก็ไม่ได้อยู่เดียวดาย ทุกคนที่กำลังต่อสู้กับการทุจริตคอร์รัปชัน ความสกปรก ความชั่วร้ายทางสังคม ล้วนเป็นยาม ทุกคนกำลังทำงานหนักเพื่อความก้าวหน้าของอินเดียล้วนแต่เป็นยาม ทุกวันนี้ชาวอินเดียทุกคนต่างก็พูดว่า #ข้าพเจ้าเองก็เป็นยาม"

เรื่องนี้ส่งผลให้ผู้สนับสนุนโมดีในโลกออนไลน์เริ่มหันมาใช้คำว่า "ยาม" นำหน้าชื่อตามเขา และแฮชแท็ก #MainBhiChowkidar หรือ "ข้าพเจ้าเองก็เป็นยาม" กลายเป็นเทรนด์ยอดนิยมในทวิตเตอร์เป็นเวลาหลายวัน กลายเป็นสิ่งที่กลับกันกับเมื่อช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาที่ฝ่ายค้านพยายามเยาะเย้ยโมดีด้วยคำว่า "ยามเป็นโจร" ในข้อกล่าวหาเรื่องการคอร์รัปชันและเล่นพรรคเล่นพวก ซึ่งโมดีและพรรค BJP ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่โมดีเอาคำเย้ยหยันมาแปลงให้เป็นแคมเปญรณรงค์สนับสนุนตัวเอง ในช่วงเลือกตั้งปี 2557 เคยมีกรณีที่ผู้นำพรรคคองเกรสระดับอาวุโสดูถูกโมดีว่าเป็น "คนขายชา" แต่โมดีก็เอาคำว่าคนขายชามาแปลงเป็นวลีรณรงค์ว่า "การสนทนาในวงน้ำชา" และในทางตรงกันข้ามทำให้คำวิจารณ์ของผู้นำระดับสูงของพรรคคองเกรสถูกมองว่าเป็นการใช้วาจาแบบชนชั้นนำเย่อหยิ่งจองหองจนกลายเป็นความเสียหายต่อชื่อเสียงพรรค ทำให้พรรคคองเกรสได้ที่นั่งลดลงในการเลือกตั้งครั้งนั้น

อย่างไรก็ตาม อังกิต ลาล ผู้นำฝ่ายโซเชียลมีเดียของพรรคอัมอัดมี (AAP) ที่เป็นผู้ว่าการเดลีอยู่ตอนนี้บอกว่ายุทธวิธีแบบเดิมของโมดีจะไม่ช่วยเขาในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดมากเท่าเดิมสมัย "การสนทนาในวงน้ำชา" เพราะโมดีพยายามบ่ายเบี่ยงจากิส่งที่เป็นประเด็นปัญหาของประเทศที่แท้จริง อย่างเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องงาน และความปลอดภัยของผู้หญิง ซึ่งไม่มีการพูดถึงเรื่องเหล่านี้

แต่บริษัทโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่ได้รับผลประโยชน์จากเม็ดเงินที่รัฐบาลเอาไปหว่านให้ก็กล่าวว่าวิธีการหาเสียงแบบโมดีนั้นจะช่วยเรียกคะแนนเสียงให้เขาอีกครั้ง

รัฐบาลของโมดีเป็นรัฐบาลที่ชอบสร้างคำขวัญหรือวลีฟังดูสวยหรูประดับนโยบายตัวเองเสมออย่าง "โครงการรณรงค์อินเดียสะอาด" "ดิจิทัลอินเดีย" "สตาร์ทอัพอินเดีย" แต่นั่นก็ทำให้ฝ่ายตรงข้ามวิจารณ์ว่ารัฐบาลโมดีเอาเงินภาษีของคนไปใช้กับการประชาสัมพันธ์อย่างฟุ่มเฟือย บรินดา การัต หัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์อินเดียเปิดเผยว่าในโครงการหนึ่งที่ชื่อว่า "ช่วยลูกสาว ให้การศึกษาลูกสาว" ใช้งบประมาณครึ่งหนึ่งไปกับการโฆษณาประชาสัมพันธ์ 

ในเดือน ธ.ค. 2561 รัฐบาลเปิดเผยต่อสภาว่าพวกเขาใช้เงิน ไป 52,000 ล้านรูปี (ราว 24,000 ล้านบาท) ไปกับการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านทั้งช่องทางอิเล็กโทรนิก สื่อสิ่งพิมพ์ และสื่อรูปแบบอื่นๆ ตั้งแต่ปี 2557 และในการเลือกตั้งครั้งนี้มีการประเมินว่าพรรคแนวร่วมนำโดย BJP จะใช้เงินโฆษณาหาเสียงไปทั้งหมด 25,000 ล้านรูปี (ราว 11,500 ล้านบาท)


เรียบเรียงจาก

Modi's rebranding: Tea seller in 2014, watchman in 2019, Aljazeera, 04-04-2019
https://www.aljazeera.com/news/2019/04/modi-rebranding-tea-seller-2014-watchman-2019-190403110929925.html

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net