Skip to main content
sharethis

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชวโรกาสให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำนายทหารราชองครักษ์พิเศษ นายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ นายทหารราชองครักษ์ นายตำรวจราชองครักษ์ ราชองครักษ์ในพระองค์ และนายตำรวจราชองครักษ์ในพระองค์ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อรวม 1,205 นาย เฝ้าฯ กราบพระบาทแสดงความจงรักภักดีและถวายสัตย์ปฏิญาณ ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา

ที่มาของภาพ: MCOT/โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย

รายงานข่าวในพระราชสำนักประจำวันที่ 14 เม.ย. 2562 เผยแพร่ทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย รายงานว่าเมื่อเวลา 21.13 น. วันที่ 13 เมษายน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชวโรกาสให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำนายทหารราชองครักษ์พิเศษ นายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ นายทหารราชองครักษ์ นายตำรวจราชองครักษ์ ราชองครักษ์ในพระองค์ และนายตำรวจราชองครักษ์ในพระองค์ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อรวม 1,205 นาย เฝ้าฯ กราบพระบาทแสดงความจงรักภักดี และถวายสัตย์ปฏิญาณ ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา

โอกาสนี้ พระราชทานพระราชดำรัสเกี่ยวกับหน้าที่ราชองครักษ์ ความตอนหนึ่งว่า คำทั้งหลายในคำปฏิญาณ อันนั้นคือคำที่สวยงามมากและครบถ้วน คือหน้าที่ราชองครักษ์มีหน้าที่รักษาชาติ บ้านเมือง รักษาสถาบัน รักษาประชาชน ในเวลาเดียวกันรักษาความถูกต้องในประเทศ ให้เป็นไปตามวัฒนธรรมของประเทศไทย

เพราะว่าประเทศไทยนี้เป็นประเทศที่เก่าแก่ มีวัฒนธรรม มีประวัติศาสตร์ มีสถาบัน มีประชาชน ตลอดจนบรรพบุรุษของเราก็ได้ทุ่มเทรักษาบ้านเมืองมาพ้นความวุ่นวาย พ้นอุปสรรคมามากมาย เพราะฉะนั้นราชองครักษ์ก็คือ รักษา สืบทอด สืบสาน ต่อยอด ทำในสิ่งที่ถูกต้อง ทำในสิ่งที่เป็นผลดีต่อส่วนรวมต่อประชาชน โดยนึกถึงประวัติศาสตร์ นึกถึงวัฒนธรรมและนึกถึงขนบธรรมเนียมประเพณีของชาติ เพราะว่าประวัติศาสตร์ขนบธรรมเนียมประเพณีของประเทศ ค่านิยมที่ถูกต้องของประเทศ ไม่ใช่สิ่งล้าสมัย เป็นสิ่งที่จะต้องดำรงรักษาต่อไป

อะไรที่ไม่ดี อะไรที่ไม่ถูกต้องก็ต้องแก้ไข เพราะท่านทั้งหลายก็จะประจำการหรือไม่ประจำการก็ไม่สำคัญ เพราะคำว่าราชองครักษ์ พระปรมาภิไธยติดอยู่ที่บ่า มีสายยงยศ และอย่างที่บอกตั้งแต่ต้น ได้ผ่านงานมามากย่อมรู้ ย่อมอนุมานได้ว่า อะไรมันถูกอะไรมันไม่ถูก อะไรมันร้ายอะไรมันดี ก็ปกป้องรักษาสถาบันสูงสุดของชาติทั้งหมด และขนบธรรมเนียมประเพณีค่านิยม ตลอดจนความร่มเย็นความสุขของประชาชน นี่คือ หน้าที่ของราชองครักษ์ในพระปรมาภิไธย

ขณะที่เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมาเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตร และนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่นายทหารราชองครักษ์พิเศษ และนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้นายทหารสัญญาบัตร และนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่นายทหารราชองครักษ์พิเศษ และนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 15 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 6 และมาตรา 7 และมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480

มาตรา 4 มาตรา 6 และมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ.2495 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่นายทหารราชองครักษ์พิเศษ และนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 1,261 นาย (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา )

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net