Skip to main content
sharethis

โฆษก ปอท. ระบุ ปิยบุตร แสงกนกกุลพร้อมทนายจะเข้ารับฟังข้อกล่าวหากรณีฝ่ายกฎหมาย คสช. แจ้งความข้อหาหมิ่นศาล-พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์กรณีแถลงการณ์ยุบ ทษช. ชี้ ยังไม่มีสถานทูตติดต่อขอสังเกตการณ์ กองเชียร์เข้าฟังไม่ได้ ให้หาที่ให้กำลังใจที่เหมาะสม

ปิยบุตร แสงกนกกุลอ่านแถลงการณ์ (ที่มา:Facebook/พรรคอนาคตใหม่ - Future Forward Party)

16 เม.ย. 2562 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. กล่าวในฐานะโฆษกกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ในคดีที่ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) จะมารับทราบข้อกล่าวหาในวันพรุ่งนี้ (17 เม.ย. 62) ที่ พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ ฝ่ายกฎหมายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ร้องทุกข์กล่าวโทษในความผิดดูหมิ่นศาล และนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ในกรณีแถลงการณ์ อนค. เรื่องยุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) 

เปลี่ยนจากพยานเป็นผู้ต้องหา พ.อ.บุรินทร์ฟ้อง ปิยบุตร ดูหมิ่นศาล

อนาคตใหม่แถลง ยุบ ทษช. ไม่ดีต่อประชาธิปไตย ประชาชนเคลือบแคลงองค์กรอิสระ

ศิริวัฒน์กล่าวว่า ทนายความได้ประสานว่าจะเดินทางมาพร้อมปิยบุตรในเวลา 10.00 น. ส่วนจะมีตัวแทนสถานทูตมาขอร่วมฟังการสอบสวนเหมือนเมื่อธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค อนค. ไปรับฟังข้อกล่าวหาที่ สน.ปทุมวันหรือไม่นั้น ยังไม่มีการประสานจากสถานทูตหรือใครมาแต่อย่างใด และยังได้ให้ พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น ผบก.ปอท. สั่งการให้เตรียมพร้อมการมารับทราบข้อกล่าวหาของปิยบุตรตามกระบวนการทางกฎหมาย

ศิริวัฒน์กล่าวเพิ่มเติมว่า ขั้นตอนในวันพรุ่งนี้จะเป็นการแจ้งข้อหา สอบปากคำ และทาง ปอท. จะปล่อยตัวปิยบุตรชั่วคราวโดยไม่ต้องวางหลักทรัพย์ เนื่องจากเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก โดยตาม ป.วิ.อาญา การสอบปากคำจะให้ปิยบุตร ทนายความและบุคคลที่ฝ่ายผู้ถุกกล่าวหาไว้วางใจเข้าร่วมฟัง กองเชียร์สามารถมาให้กำลังใจได้ในพื้นที่ที่เหมาะสมแต่เข้าไปฟังไม่ได้ 

เมื่อ 3 เม.ย. ที่ผ่านมา ปิยบุตรได้รับ “หมายเรียกพยาน” จากกรณีอ่านคำแถลงการณ์พรรคอนาคตใหม่กรณีการยุบพรรคไทยรักษาชาติ โดยให้ไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันเดียวกันกับวันที่ได้รับหมาย ทำให้ไม่สามารถเดินทางไปได้ตามกำหนด จึงได้ให้ทนายความขอเลื่อนการเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจออกไป แต่ต่อมาหมายเรียกพยานเปลี่ยนเป็นหมายเรียกผู้ต้องหา โดยพ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ รับมอบอำนาจจาก คสช. ไปร้องทุกข์กล่าวโทษต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในความผิดอาญา 2 ฐาน ได้แก่ 1.ดูหมิ่นศาล 2.นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยน่าจะทำให้เกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ หรือเกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชนตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์

ที่มา:มติชน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net